วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

อันตราย ! ฝาครอบแก้วชาไข่มุก ขอให้อ่าน‏

อันตราย ! ฝาครอบแก้วชาไข่มุก ... หยุดลมหายใจ
> ปุ๊ ! เสียงหลอดกาแฟอันโตกระแทกเจาะฝาครอบแก้วชาไข่มุก
> เศษฝาพลาสติกแผ่นกลมขนาดเท่าปลายหลอดตกลงสู่ก้นแก้ว
> ฉันดูดเครื่องดื่มสุดโปรดอย่างหิวกระหายและ
> กระดกแก้วกินน้ำแข็งจนเกลี้ยงตามความเคยชิน

> เมื่อจะทิ้งแก้วลงถังขยะ
> ฉันแปลกใจเล็กน้อยที่ไม่เห็นเศษฝาพลาสติกอยู่ในแก้วเหมือนทุกคราว
> แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก

> สักพัก รู้สึกเหมือนมีบางสิ่งลักษณะเป็นแผ่นบาง ๆ ติดอยู่ในคอ
> แม้จะพยายามล้วงและดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อให้อาเจียน
> แต่สิ่งนั้นก็ไม่ยอมหลุดออกมา
> ฉันรู้สึกได้ถึงลมหายใจที่เริ่มติดขัด
> อาจารย์และเพื่อน ๆ จึงรีบพาส่งโรงพยาบาล
> เมื่อไปถึงโรงพยาบาล
> หลังจากรอหมออยู่เกือบสองชั่วโมง หมอก็ให้ลองกลืนน้ำดู
> ปรากฎว่ามีสิ่งแปลกปลอมติดอยู่จริง
> ตามด้วยการเอกซเรย์ ซึ่งสูญเปล่า เพราะไม่เห็นสิ่งแปลกปลอมนั้นเลย
> จึงตัดสินใจให้วางยาสลบเพื่อส่องกล้องตรวจหาต้นเหตุ
> ระหว่างนั้นฉันยังรู้สึกตัวดีอยู่ทุกอย่าง
> จนกระทั่งหลังวางยาสลบ
> ท่อส่องทางเดินอาหารขนาดใหญ่ประมาณท่อประปาขนาดเล็ก
> สอดจากปากผ่านลงไปตามทางเดินอาหาร
> แต่ไม่รู้ด้วยโชคร้ายของฉัน
> หรือด้วยความประมาทเลินเล่อของใคร
> แทนที่เจ้าท่อนี้จะเป็นอุปกรณ์ในการตรวจเพื่อช่วยชีวิตฉัน
> หลังการตรวจ
> มันกลับทำให้ฉันรู้สึกปวดแน่นหน้าอกและหลังอย่างสุดจะบรรยาย
> เมื่อฟื้นจากยาสลบ แม่บอกว่าฉันปากซีด ตัวเขียว และไข้ขึ้น
> ผิดกับเมื่อตอนก่อนส่องกล้องราวกับคนละคน
> จนแม่ใจหาย รีบตามหมอกลางดึก

> การกลืนแป้งเพื่อเอกซเรย์เริ่มขึ้น
> ผลปรากฎว่า หลอดอาหารทะลุ ต้องผ่าตัดด่วน
> แต่แม่ไม่มีเงิน อย่าว่าแต่ค่าผ่าตัดที่สูงลิบลิ่วของโรงพยาบาลเอกชนเลย
> แม้แต่ค่าตรวจทั้งหลายก่อนหน้านี้
> ที่เกินวงเงินการประกันอุบัติเหตุของนักศึกษา เพียงไม่กี่พันบาท
> แม่ก็ไม่มี ทางโรงพยาบาลจึงขอยึดบัตรประชาชนของแม่ไว้
> เพื่อเป็นหลักประกันให้แม่หาเงินส่วนเกินมาชำระในภายหลัง
> หมอที่ส่องกล้องแนะนำให้ย้ายฉันไปโรงพยาบาลรัฐบาลที่เขาประจำอยู่
> แต่แม้จะเป็นโรงพยาบาลรัฐบาลก็ต้องคุยกันเรื่องค่าใช้จ่ายเช่นกัน
> แม่จึงวิ่งวุ่นติดต่อเรื่องใช้สวัสดิการบัตรประกันสุขภาพ 30 บาท
> กว่าจะเสร็จเรียบร้อยก็เกือบเที่ยง
> นั่นแหละฉันจึงได้รับการผ่าตัด
>
> การผ่าตัดใช้เวลาเกือบ 4 ชั่วโมง
> เพราะรอยทะลุที่หลอดอาหารอยู่ใกล้ปอด
> น้ำย่อยจะไหลเข้าไปในปอดซึ่งอันตรายมาก
> หมอต้องผ่าตัดเปิดซี่โครงจากราวนมด้านซ้ายไปจนถึงสันหลังอีกข้าง
> แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังไม่สามารถซ่อมแผลได้หมด
> เพราะแผลในทางเดินอาหารเป็นทางยาว
> จากต้นคอถึงกระเพาะ ยาวถึง 30 เซนติเมตร

> สามวันหลังผ่าตัด ฉันลืมตาขึ้นมาพร้อมสายระโยงระยางเต็มตัว
> สายจากจมูกทั้งสองข้างเพื่อเอาน้ำย่อยในกระเพาะออกมา
> สายที่ไว้ดูด น้ำมูก น้ำลาย สายที่ต่อจากบริเวณซี่โครงที่ผ่าตัดเพื่อเอาเลือดจากแผลออกมา
> สายให้เลือด สายน้ำเกลือ

> สิบเอ็ดวันที่อยู่โรงพยาบาลเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
> กินอาหารไม่ได้อยู่เป็นอาทิตย์
> ยิ่งเวลานอนจะรู้สึกทรมาน
> เพราะเจ็บที่บริเวณแผลผ่าตัดเป็นที่สุด
> หมอที่ส่องกล้อง ซึ่งช่วยหาหมอผ่าตัดให้
> มาสารภาพในภายหลัง ว่า...
> แผลในทางเดินอาหารที่ยาวเหยียด
> เกิดจากการส่องกล้องไปดันเอาเศษแผ่นพลาสติก
> ซึ่งติดอยู่ที่ระหว่างหลอดลมและหลอดอาหารให้ครูดบาดไปตลอดทางเดินอาหาร

> แต่อย่างไรเขาก็ติดต่อหาหมอ=

น้ำ กับ โค้ก ความต่างที่ไม่ธรรมดา (แล้วจะกล้ากินมะเนี่ย) อ่านนะต้องอ่านส่งให้เพราะรักและปราถนาดีนะ‏

น้ำโค้กที่ไม่ธรรมดา
Water & Coke น้ำ กับ โค้ก

ถ้าท่านรู้เรื่องนี้
ท่านจะดื่มน้ำมากขึ้น เพราะน้ำเป็นส่วนสำคัญของร่างกาย 75%

มีงานวิจัยพบว่าในคน 100 คน
ที่ดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว จะช่วยให้คน 80 คนลดอาการปวดหลังปวดข้อลงได้

ดื่มน้ำวันละ 5 แก้ว ลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งของลำไส้ใหญ่ได้ ถึง 45 % มะเร็งเต้านมได้ 79%
และมะเร็งกระเพาะปัสสาวะได้เกือบ 50%!

ทีนี้มาลองรู้จักน้ำ ' โค้ก ' กันหน่อย แน่นอนโค้กรสชาดยอดเยี่ยม

แต่ตำรวจทางหลวงจะบรรทุกโค้ก 2 แกลลอน ในช่องท้ายรถ เพื่อเวลามีรถชนกันสามารถเอา ' น้ำโค้ก ' ล้างเลือดบนถนนได้เกลี้ยงเกลา

ถ้าเอา T-bone steak ใส่ในชามกะละมังที่มีน้ำโค้กเต็ม จะพบว่าจะถูกละลายไปหมดใน 2 วัน

รินโค้ก 1 กระป๋องลงในโถส้วมทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง แล้วชักโครก กรดซิตริกในโค้ก จะล้างคราบสกปรกในโถส้วมได้สะอาด
ถ้าต้องการกัดสนิมที่กันชนชุมโครเมี่ยมของรถ ให้เอาที่ขัดที่ทำด้วย foil ชุบโค้ก ขัดสนิมจะออกหมด

ถ้าจะล้างทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่ที่มีคราบกรดเกลือเกาะขาวๆ ให้เทน้ำโค้ก ฟองจะกัดคราบขาวออกได้หมด ถ้าจุดขวดติดแน่น งัดไม่ออก เอาผ้าชุบน้ำโค้กหุ้มไว้หลายๆ นาที จะบิดจุดขวดออกได้โดยง่าย

ถ้าจะปิ้ง moist ham ให้เทโค้ก 1 กระป๋อง เทลงในกระทะ ห่อแฮมด้วยอะลูมิเนียมฟอล์ยแล้วปิ้ง 30 นาที
ุ ก่อนแฮมจะสุก แกะฟอล์ยออก ปล่อยให้น้ำเนื้อหยดลงไปผสมกับน้ำโค้กในกระทะ ท่านจะได้น้ำเกรวี่สีน้ำตาล

การล้างคราบไขมันจากเสื้อผ้า ให้ใช้น้ำโค้ก 1 กระป๋อง ผสมกับผงซักฟอกในปริมาณที่จะใส่ในเครื่องซัก ปล่อยให้ซักด้วยเครื่องตามปกติ
โค้กจะช่วยกำจัดคราบไขมันได้สะอาดหมดจด

ท่านสามารถผสมโค้กลงในน้ำล้างกระจกรถยนต์ ฟอสฟอริคแอซิดในโค้ก จะช่วยทำความสะอาดกระจกได้ดี

น้ำโค้กมี pH 2.8 ถ้าตัดเล็บแช่ในน้ำโค้ก 4 วัน จะละลายหมด

เวลาขนย้ายน้ำโค้กเข้มข้น เพื่อส่งตามโรงงานทั่วโลก ที่รถ truck จะต้องติดป้ายไว้ว่า ' มีวัตถุที่มีกรดกัดกร่อนได้ เป็นอันตราย '

บริษัทขายน้ำโค้ก! ใช้น้ำโค้กทำความสะอาดเครื่องยนต์ของรถ truck มานานประมาณ 20 ปีแล้ว

ท่านยังอยากดื่ม โ ค ้ก
หรือดื่มน้ำกัน เลือกเอาเอง
แปลโดย ศ.กิตติคุณ นพ.เสก อักษรานุเคราะห์
หน่วยงาน : ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู
วันที่ลงบทความ 21 เม.ย. 45

ช่วยกัน FWD
บทความนี้ต่อให้คนที่คุณรักและห่วงใยด้วย.......

เคยเห็นเม่น ตอนเกิดใหม่หรือป่าววว...‏

















มีบุญมาฝาก ไม่ทำแต่ช่วยส่งก็ยังดี คิดว่าช่วยเพื่อเด็ก..‏

รบกวนสาวสวย ขอบริจาคผ้าอนามัยและชุดชั้นใน ให้เด็กกำพร้า วัดโบสถ์วรดิษฐ์ ด้วยค่ะ (ช่วยกดโหวตหน่อยนะคะ)
วันอาทิตย์ไปทำบุญที่วัดโบสถ์วรดิษฐ์ จ.อ่างทองมาค่ะ ที่วัดนั้นเลี้ยงเด็กกำพร้าไว้ 400 กว่าคน มีทั้งผู้ชายและผู้หญิง ก่อนหน้าโทรไปถามคนรับสายบอกว่าของที่ขาดแคลนคือข้าวสาร อาหารแห้ง รองมาอยากได้สมุดดินสอ และอื่นๆตามแต่จะศรัทธา ให้อะไรก็เอาหมดค่ะ

เรากับเพื่อนเลยคิดบริจาคข้าวสารแต่น้ำหนักมากเลยขับรถไปหาซื้อเอาแถวนั้น แล้วเจอร้านขายส่งไม่ไกลจากวัดก็แวะซื้อข้าวสาร 1 กระสอบ 1400 บ าท(คนขายแนะนำให้ซื้อแบบนี้) ป้าเจ้าของร้านเขียนแผนที่ไปวัดให้ค่ะ แล้วก็สอบถามเด็กที่ขายของ ทราบว่าในวัดมีเด็กผู้หญิงด้วย เราเลยซื้อผ้าอนามัย 2 แพ็คใหญ่ แพ็คแบบเค้าขายส่งกันน่ะค่ะ

พอมาถึงวัดก็คุยกับท่านเจ้าอาวาสนิดหน่อย แล้วก็ให้คนพาไปดูเด็ก เราเดินไปดูตรงโรงนอนแออัดมากเลยเจ้า T-T เข้าไปในโรงนอนเด็กผู้หญิงแล้วไล่เพื่อน(ผู้ชาย)ออกไปก่อน ชิ้ว ๆ ๆ เราก็พยายามถามว่ามีเด็กกี่คน ต้องการอะไรเพิ่มเติมไหม น้องๆเค้าบอกว่ามีเด็กที่ถึงวัยประจำเดือน 80 กว่าคน ผ้าอนามัยไม่พอใช้เลยต้องซื้อกันเอง ฟังแล้วดูธรรมดานะคะซื้อผ้าอนามัยกันเองใครก็ซื้อกันเองเน! ้อ แต่ถ้าเห็นโรงนอนแล้วคำว่า ' ซื้อกันเอง ' เนี่ย คงเป็นอะไรที่ลำบากมากๆเลยค่ะ T-T เราอยากถ่ายรูปมาให้ดูมากแต่เกรงใจน้องเค้าเพราะแค่ไปถามก็ดูน้องๆอายกันมากแล้ว ถามว่าชุดชั้นในมือสองต้องการไหม เด็กก็บอกเอาค่ะ พูดคุยเสร็จก็เดินออกมาเจอเพื่อน

เพื่อนบอกว่าเด็กน่ารักไม่ส่งเสียงหนวกหูหรือทะเลาะกันเลย

สิ่งที่ต้องการสำหรับเด็กผู้หญิงที่เราไปถามมา แล้วไม่ค่อยมีคนบริจาค อยากให้สาวสวยโต๊ะแป้งช่วยกันบริจาคหน่อยค่ะ
1. ผ้าอนามัย ซื้อแบบยกแพ็คใหญ่จะถูกกว่าซื้อปลีกมาก
2. กางเกงใน ขอเป็นของใหม่ก็ดีนะคะ
3. บราเซียร์ อันนี้มือสองก็ได้ค่ะ

ที่อยู่จัดส่งทางไปรษณีย์ ( แนะนำให้ส่งแบบพัสดุธรรมดาถูกดีค่ะ)
วัดโบสถ์วรดิษฐ์
210/ ค ต.ป่าโมก อ.ป่าโมก อ่างทอง 14130

เบอร์โทร 035-661134 ! มือถือ 086-1345003 แฟกซ์ 035-623356

เลขบัญชีวัดโบสถ์วรดิษฐ์ กสิกรไทยสาขาป่าโมก
ออมทรัพย์ 1822-113-644




พระครูวุฒิธรรมาทร พ่อของเด็กกว่า 400 ชีวิต เคยออกรายการมหาลัยชีวิตด้วยค้ะ
ดีใจแทนหลวงพ่อค่ะ ท่านก็แก่มากแล้ว เราเห็นท่านมาตั้งแต่เราเด็กๆ ว่าท่านได้ทำประโยชน์มากมายให้กับวัด ให้กับน้องๆ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://hilight.kapook.com/view/25206

Subject: Fw: พวกหนูไม่ใช่ดารา ไม่ใช่คนดัง ไม่มีคนรู้จัก พวกหนูจะขอบริจาคบ้างได้ไหม












--------------------------------------------------------------------------------


พวกหนูไม่ใช่ดารา ไม่ใช่คนดัง ไม่มีคนรู้จัก พวกหนูจะขอบริจาคบ้างได้ไหมคะ/ครับ

พวกหนูเป็นเด็กจากที่ต่างๆ บางคนก็เป็นเด็กกำพร้า อาศัยวัดที่อ่างทองอยู่ค้า เศรษฐกิจไม่ดีคนก็บริจาคน้อยลง
พวกหนูมีปัจจัยสี่ไม่พอ พี่ช่วยพวกหนูหน่อยได้ไหมคะ

พวกหนู 400 กว่าคนมีอาหารกิน(บ้างไม่ได้กินบ้าง) แต่หลวงพ่อบ่นว่าข้าวสารไม่พอค่ะ วันไหนมีคนมาบริจาคหนูจะได้กินอาหารดีๆ
ถ้าวันไหนไม่มีพวกหนูจะกินผักค่ะ พวกหนู 2 คนมีอาหารกินนะคะ แต่จานข้าวไม่พอแค่นั้นเอง หนูเลยต้องรอเพื่อนๆกินกันเสร็จก่อน
หนูถึงจะกินได้ค่ะ หนูไม่อยากได้จานข้าวใหม่ หนูขอแค่จานชามช้อนส้อมเก่าๆมาให้พวกหนูได้กินข้าวพร้อมเพื่อนๆบ้างได้ไหมคะ




ที่อยู่หนูมีค่ะไม่ต้องห่วง เด็กผู้ชายนอนกับพระ เด็กผู้หญิงมีโรงนอนแยกต่างหากให้ค่ะ ที่นอนเป็นไม้กระดาน
! ไม่มีฟูก หมอนก็ไม่พอค่ะ หนูไม่อยากได้บ้านใหญ่ๆที่นอนดีๆ หนูขอแค่หมอนมาหนุนนอนบ้างได้ไหมคะ
ในภาพเป็นโรงนอนของพระกับเด็กผู้ชายเจ้า




ตรงนี้เป็นหน้าโรงนอนของเด็กผู้หญิงค่ะ



ข้างในโรงนอนของเด็กผู้หญิง ที่แขวนอยู่นี่เป็นเสื้อผ้าของพวกหนูเองค่ะ ! แต่ไม่ค่อยพอใช้ค่ะ พวกหนูไม่อยากได้ของใหม่
แค่เสื้อผ้าเก่าที่พี่ๆไม่ใช้แล้วส่งมาให้หนูหน่อยได้ไหมคะ ด้านข้างที่มีบันไดเป็นที่นอนของพว ? หนูเองค่ะ
ไม้กระดานที่นอนของพวกหนูก็อย่างที่พี่ๆเห็นค่ะ




อยู่กับหลวงพ่อพวกหนูดีใจมาก พวกหนูมีที่นอน มีอาหารกิน ได้เรียนฟรีด้วยค่ะ ถ้าไม่มีหลวงพ่อพวกหนูไม่รู้จะเป็นยังไง อาจต้องไปนอนข้างถนนก็ได้ค่ะ



หลวงพ่อบอกว่าของแพงขึ้นทุกวัน คนบริจาคก็น้อยลง ถ้ายังเป็นแบบนี้อาจต้องปิดโรงเรียนค่ะ
พี่ๆช่วยพวกหนูหน่อยเถอะค่ะหนูอยากเรียนค่ะ โตขึ้นหนูจะได้ไปทำงานเลี้ยงตัวเองได้นะคะ





เด็กๆน่ารักมากเจ้าค่ะ ! ; เราไปคุย กับเจ้าอาวาสถามว่าต้องการอะไร ท่านบอกว่าข้าวสาร อาหารแห้ง เครื่องใช้ทั่วไป เครื่องเขียน และให้อะไรก็เอาค่ะ
ถามเด็กๆก็บอกเหมือนกัน ' ให้อะไรก็เอา ' ต้องไล่ถามทีละอย่าง นั่นพอใช้ไหมคะ นี่พอใช้ไม่ค่ะ เท่าที่จำได้

ค่าน้ำค่าไฟ ไม่พอจ่ายต้องผ่อนเอาค่ะ ถ้าเป็นที่อื่นโดนตัดน้ำตัดไปไปนานแล้วเนี่ย - _-'

อาหารไม่ค่อยพอ เน้นผัก ไม่ค่อยมีโปรตีนให้เด็กเลยค่ะ ท่านเจ้าอาวาสบอกว่าอยากได้เป็นอาหารแห้งมากกว่าเพราะเก็บได้นานค่ะ

เสื้อผ้า ของใช้ ก็...อย่างที่เห็นตามรูปอะค่ะ แม้แต่จานข้าวยังไม่พอเลยค่ะ

ผ้าอนามัยก็ไม่พอใช้ค่ะ มีคนบริจาคแต่ก็ยัง! ไม่พออยู่ดี ที่นี่มีเด็กตั้งแต่อนุบาลถึงม. 6 ค่ะ เด็กผู้หญิงบางคนน่าจะใส่ชุดชั้นในได้แล้ว แต่เรายังเห็นเค้าไม่มีอยู่อะค่ะ
กลัวเป็นอันตรายกะเด็กจัง สองอย่างนี้ได้ตั้งกระทู้ขอบริจาคที่โต๊ะเครื่องแป้งแล้วค่ะ สาวๆห้องนั้นน่ารักมาก สวยแล้วใจดีอีกบริจาคเพียบเลยค่ะ @^ . ^@

รองเท้า เด็กๆหลายคนไม่มีใส่ค่ะ T-T

แล้วอะไรอีกหว่า โต๊ะ เก้าอี้ ไม้แขวนเสื้อ สบู่ ขันน้ำ หมอน อุปกรณ์เครื่องครัว

เออ...สรุปว่าขาดหมดละกันเจ้า

เวลาไอและจามให้ระวังหน่อย‏

D3360_News_No.4( 26Jul - 2 AUG 2009)‏

D3360 News No.4 (26 Jul - 2 Aug 2009)


ฉบับนี้แถมฟรี สารผู้ว่าการภาค D.3360 RI. Online


The Beginning of our Future
ปฐมบท แห่ง อนาคต


http://issuu.com/naisooru/docs/july-09 <----- อ่านแบบได้อรรถรส




เชิญดาว์นโหล เอกสารที่แนบมาได้เลยครับ


หากท่านยังไม่มีโปรแกรม Adobe Reader สามารถดาว์นโหลดได้จากด้านล่างครับ


โปรแกรม สำหรับอ่าน E-News (Adobe Reader)
http://get.adobe.com/reader/



--
Public relations of Rotary International District 3360

Submitting your PR Message
Rotary Clubs are kindly invited to submit your club programs as well as actives to District 3360 PR Committee at
Email: rotary3360@gmail.com or rotary3360@hotmail.com

URL: http://www.rotary3360.org

ไม่น่าเชื่อนะ วัดที่อยู่ท่ามกลางความเจริญในเขตอุตสาหกรรมชั้นนำกลับไม่มีใครให้ความสนใจเลย‏

วัดมาบสามเกลียว ต.ดอนหัวฬ่อ อ.เมือง จ.ชลบุรี




ไม่น่าเชื่อนะ วัดที่อยู่ท่ามกลางความเจริญในเขตอุตสาหกรรมชั้นนำกลับไม่มีใครให้ความสนใจเลย !
พอดีเมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาได้มีโอกาสเข้าไปทำบุญที่วัดมาบสามเกลียวก็พบกับความหดหู่ใจ คือ
1.ในวัดมีเจ้าอาวาสอยู่รูปเดียว เด็กวัดก็ไม่มี
2.มีสุนัข(ที่ใครเอาปล่อยก็ไม่รู้) 50 กว่าตัว
3.มีแมว(ที่ใครเอาปล่อยก็ไม่รู้) 20 กว่าตัว
4.ไก่+นก จำนวนหนึ่ง
พระ 1 รูป + ข้าว 1บาตร ไม่เพียงพอกับ Demand อย่างแน่นอน
อยากให้เข้ามาสัมผัสกับ� าพเหล่านี้และหวังว่าท่านจะใจบุญพอที่จะ Forward mail นี้ต่อด้วยหากท่านใดมีจิตศรัทธา จะเข้าไปทำบุญที่วัดก็ได้นะคะ









BedUp‏









ผี 3 ตัว‏

ผี 3 ตัวนั่งคุยกันข้างวัด

ผีตัวแรก:ถามตัวที่สามว่า แกเป็นอะไรตาย

ผีตัวที่สาม:ข้าโดนรถชนตาย

ผีตัวที่สามย้อนถามผีตัวแรก:แล้วแกหล่ะเป็นอะไรตาย

ผีตัวแรก:ข้าโดนแทงตาย

ผีตัวกลางเอาแต่นั่งร้องไห้ ฮือ ฮือ ฮือ..

ผีตัวแรกกะตัวที่สามจึงถามผีตัวกลางว่า:

แกร้องไห้ทำไมวะ แล้วแกเป็นอะไรตาย

ผีตัวกลาง:ฮือ ฮือ ฮือ...กูยังไม่ตาย กูมา...ขี้

10 วิธีฆ่าเมีย‏

> 10 วิธี ---- ฆ่าเมีย


> 1. มันอยากกินอะไรซื้อให้มันกิน จนมันคาเรสโตรอลสูง ไขมันอุดตันในเส้นเลือด
เดี๋ยวไม่เกิน 50 ปีมันก็ตาย

> 2. มันอยากได้เครื่องเพชรก็ซื้อให้มัน พอแสงเพชรมันสะท้อนเข้าตามันมากๆเข้า ตามันก็จะบอด
พอมันตาบอดแล้วเราก็เอามันไปทิ้งที่ไหนก็ได้ มันหาทางกลับบ้านไม่ถูกแล้ว

> 3. มันชอบรถก็ซื้อให้มัน ยิ่งแพงๆยิ่งดี เครื่องมันแรงดี มันจะได้ขับเร็วๆ
ความเสี่ยงสูง


> 4. มันอยากไปเที่ยวไหนก็พามันไป
ต้องมีซักที่แหล่ะที่มันพลาดเดินล้มหัวฟาดพื้นตายได้

> 5. งานบ้านอย่าไปให้มันทำ เราต้องแย่งมันทำให้หมด
ไม่เปิดโอกาสให้มันได้ออกกำลังกาย เดี๋ยวมันก็ไม่แข็งแรง แล้วมันก็ตายเอง

> 6. ต้องพาเมียไปหาหมอบ่อยๆ ดูดิคนไม่ค่อยไปหาหมอไม่ค่อยเป็นไรหรอก
คนที่ไปหาหมอบ่อย เดี๋ยวๆก็ตายแล้ว

> 7. เงินเดือนออกมาเท่าไหร่ให้มันไปให้หมด
ใครๆก็รู้ว่าเงินน่ะเป็นที่สะสมเชื้อโรคสารพัด
เราแกล้งเอาเชื้อโรคให้มันเก็บไว้เดี๋ยวมันก็เป็นโรคตาย
เราเองไม่ต้องเก็บเชื้อโรคไว้ สุขภาพแข็งแรง..เย้

> 8. ปลูกบ้านหลังใหญ่ๆให้มันอยู่ กว้างๆยิ่งดี
เวลาจะเดินจากห้องนั้นไปห้องนี้ทีมันจะได้เหนื่อย
เผลอๆอาจหอบตายระหว่างทางได้

> 9. เช้า-เย็นกราบมันทุกวัน มันจะได้อายุสั้น

> 10. รักเมียให้มากๆ ไม่เคยได้ยินเหรอ ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์
พอมันทุกข์มากๆมันก็ตรอมใจตายเอง

555+

ใส่แว่นกันแดดตอนฝนตก มองเห็นชัด90%%‏

ใส่แว่นกันแดดตอนฝนตก มองเห็นชัด 90%%

บนถนนสายเอเชีย ประมาณตี 1 - ตี 3 คืนวันที่ 15 เข้าเช้ามืด 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นรถคันที่ผมอยู่ในเหตุการณ์ด้วย
เป็นประสบการณ์ตรงล่าสุดที่อยากจะมาถ่ายทอดเป็นเชิงวิชาการแบบง่ายๆ ครับ

ขากลับจากพะเยา ( ผมไปงานศพคุณแม่ของวิศวกรที่บริษัทครับ ) ผมโชคดีได้
พี่คนหนึ่งที่สนิทกันช่วยขับรถกลับให้
เพราะต้องกลับกรุงเทพเหมือนกัน
ผมนั่งคุยกับแกมาตลอดทาง จนฝนตกหนัก
แกถามว่าในรถมีแว่นกันแดดไหมจึงหยิบให้เขา
เขาให้ผมลองใส่ดูปรากฏว่าเห็นทางชัดเจนมาก ทัศนะวิสัยดีมาก

ถึงจะไม่เทียบเท่ากับตอนฝนไม่ตก แต่ก็เกือบ 90%%
แล้วผมก็รีบเอาแว่นให้พี่เขาความรู้โดยบังเอิญตรงนี้พี่เขาก็เล่าสถานการณ์ให้ฟัง
ผมก็ฟังไปด้วย คิดถึงเหตุผล ไปด้วยจนค่อนข้างแน่ใจว่า
โดยคุณสมบัติของแว่นกันแดดแล้วจะทำหน้าที่กรองที่เกินความจำเป็นในการมองเห็นและทำอันตรายของดวงตาออกไปยิ่งมีคุณสมบัติดียิ่งมีการเคลือบหรือเทคนิคในการผลิตดีตามและราคาสูง ดังนั้นถ้าเป็นเรื่องนี้ไม่ควรประหยัด


เมื่อเม็ดฝนที่ตกหนักตามแรงโน้มถ่วงของโลก จากที่สูงขนาดของเม็ดฝนซึ่งมีขนาด
ต่างๆ ตกกระทบฝากระโปรงหน้าด้วยแรงกระแทกมหาศาลทำให้เม็ดฝนแตกกระจายอย่างละเอียดรวมทั้งบนหน้ากระจกรถของเราด้วย
ในตอนกลางคืนหรือกลางวันก็ตาม
จะมีแสงจากธรรมชาติอยู่แล้ว หรืออาจจะมาจากที่มนุษย์สร้างขึ้นเป็น
แสงสว่างต่างๆเม็ดฝนมีการสะท้อนแสง
หรือบางขณะก็รวมตัวกันมากๆ แบบไม่เป็นระเบียบ
> > จึงทำให้ภาพที่เรามองไปข้างหน้าบนถนน มี"ตัวกลาง " มากั้น
ซึ่งก็คือม่านน้ำฝน และละอองฝน ซึ่งตัวมันเองก็มีค่าดัชนีหักเหอยู่แล้ว
เมื่อบวกกับการสะท้อนแสง ของละอองฝน ทำให้ทัศนวิสัยจึงแย่มาก
แว่นกันแดดจึงกรองแสงจ้าที่เกิดการสะท้อนจากละอองฝนและสายฝนที่อาบอยู่
บนกระจกหน้ารถ ชนิดที่เรียกว่า ที่ปัดน้ำฝน speed แรงสุดก็เอาไม่อยู่ ออกไป
จึงทำให้ทัศนวิสัยในขณะขับรถตอนกลางคืน ฝนตกหนักเยี่ยมมาก
ดังนั้นจึงสามารถใช้ความเร็วได้ในระดับหนึ่ง และปลอดภัยมาก
ผมยังเชื่อว่า ถ้าเป็นตอนกลางวัน และฝนตกหนัก
ก็น่าจะใช้ได้เหมือนกัน ถึงจะยังไม่ได้ทดลอง
แต่คิดว่าน่าจะไม่มีปัญหาอะไร
ผมหวังว่าความรู้ที่ได้จากประสบการณ์ตรงครั้งนี้
คงเป็นประโยชน์กับหนอนทุกคน
ถ้าใครได้ทดลองใช้ก็นำมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ

สุดท้ายนี้ภาพที่คมชัดขึ้นกับคุณภาพแว่นกันแดดด้วย

ขอบคุณครับ
ปรีดา ลิ้มนนทกุล

โดย ต้องลองดู เมื่อ 2007-06-26 18:45:24





--------------------------------------------------------------------------------

เรื่องนี้ขอยืนยันด้วยคนค่ะ และขอเพิ่มด้วยว่ากลางวันก็ใช้ได้ค่ะ บังเอิญทราบเรื่องนี้จากพี่ที่รู้จักกันคนนึงเมื่อเกือบเจ็ดแปดปีที่แล้วค่ะ ปัจจุบันเวลาฝนตกสามีก็จะใช้วิธีใส่แว่นตาดำตลอดค่ะ ท่านอื่นอยากรู้ว่าจริงหรือเปล่าก็ลองทำดูนะคะ

ต้องอ่านทุกข้อ(ประโยชน์มากๆ)‏

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง

จากการอบรม เรื่องเกี่ยวกับการทำ GMP ของโรงงานผลิตอาหารต่างๆ วิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้าน Clean food มีเกร็ดต่างๆมาเล่าให้ฟัง เลยสรุปมาเล่าสู่กันฟัง พอเป็นสังเขป จริงๆมีมากกว่านี้

1. พวกขนมปังปี๊บ กระบวนการผลิตบางแห่งไม่ดี ไส้สับปะรด เป็นมันแกวหรือพืชอื่น ๆ กวนใส่น้ำตาล และใส่กลิ่นกับแกนสัปปะรดไปนิดหน่อย

2. เชอรี่บนขนมเค้กราคาถูกตามตลาดสด คือ มะเขือเปาะฟอกสีจนใสเป็นวุ้น แล้วย้อมสีแดง (ผงฟอกสีทำให้เป็นโรคไต) พวกที่ใช้สารฟอกสีอื่นๆ เช่น มะม่วงกวน (แผ่นใส ๆ) ยอดมะพร้าวขาว ๆ

3. ซูชิในตลาดนัดที่อากาศร้อน แบคทีเรียจะเจริญเติบโตเร็ว ชูชิต้องเสริฟเย็นเท่านั้น

4. เอแคลร์กับลูกชุบ หรือขนมอะไรที่ต้องมีการปั้น ๆ ถู ๆ ต้องพึงระวังสุขอนามัย ควรซื้อกับร้านค้าที่รู้จักหรือมีชื่อเสียงเท่านั้น

5. ลูกอมสีอื่น ๆ เช่น ฟ้า เขียว ม่วง เป็นสีที่ขายไม่ดีไม่ควรซื้อเพราะใช้สีที่เก็บไว้นาน ทานลูกอมสีแดง ขาว ได้

6. ปลายหน้าร้อนต่อต้นหน้าฝน ไม่ควรกินอาหารทะเล เพราะฝนเริ่มตกจะชะฝุ่นบนพื้นดินลงทะเลและสัตว์ทะเลจะกินเข้าไป จะมีแต่ไวรัส แบคทีเรีย โอกาสท้องเสียมีสูง

7. พวกอาหาร Pack สำเร็จมา wave ที่บ้าน wave ได้ ครั้งเดียวเท่านั้นไม่ควรล้าง Package มาใส่ wave ซ้ำเพราะสารพิษจะออกมา

8. โยเกริ์ตต่างๆ จะมีแป้งผสมอยู่ประมาณ 20% ควรทานโยเกริ์ต Home made ถ้วยเล็ก ๆ (ลองหยดไอโอดีนพิสูจน์ดูก็ได้ จะพบว่าโยเกริ์ตเป็นสีน้ำเงิน)

9. น้ำปลาเปิดขวดแล้ว ควรมีอายุการใช้ไม่เกิน 1 เดือน

10. ระวังเชื้อราตามคอขวดที่เปิดแล้วต่าง ๆ

11. กระดาษหนังสือพิมพ์ อย่าเอามาห่อผักแช่ตู้เย็น (มีสารพิษ จากหมึก)

12. อาหารกระป๋องถ้าใช้ไม่หมดควรเอาออกจากกระป๋องใส่ภาชนะอื่นแช่ตู้เย็น

13. ฟองน้ำล้างจานที่มีน้ำยาผสมน้ำทิ้งไว้ (เป็นน้ำๆ) ทิ้งไว้ได้ไม่เกิน 1 ชั่วโมง แบคทีเรียจะขึ้น ควรเททิ้งไป

14. อาหารหมักดองต้องระวังมีไวรัสที่ทำลายกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้ออ่อนแรง ผักกาดดองตามท้องตลาด ในโรงงานบางแห่งจะมีกระบวนการผลิตที่ไม่สะอาด (ใช้คนลงไปในอ่างดอง เราไม่แน่ใจว่าคนนั้นๆ มีโรคหรือไม่) ควรใช้ผักกาดดองกระป๋องที่เชื่อถือได้

15. เบียร์สดจะไม่ถูกกรองยีสต์ที่ตายแล้วออก เราจะกินศพยีสต์เข้าไปด้วย (เบียร์ขวดจะถูกกรองไปแล้ว) แต่กินได้ ไม่เป็นไร

เรื่องไข่ๆ กินแค่ไหนถึงจะพอดี‏

เรื่องไข่ๆ กินแค่ไหนถึงจะพอดี



ไข่ฟองกลมๆ เหล่านี้จะช่วยรักษารูปร่างคุณให้ดี หรือส่งผลร้ายต่อสุขภาพของคุณกันแน่







น้อยกว่า 3 ฟองต่อสัปดาห์ ..... ไม่เพียงพอ

การไม่ทานไข่อาจส่งผลเสียต่อเส้นประสาทสมองได้นะ ไข่ฟองเล็กๆ หนึ่งฟอง มีปริมาณวิตามินบี 12 ซึ่งดีต่อร่างกายมากกว่าปริมาณมาตรฐานที่แนะนำ ให้บริโภคต่อวันเสียอีก "วิตามินบี 12 จำเป็นต่อการสร้างเยื่อหุ้มป้องกันเส้นใยประสาท" อะแมนดา เออร์เซลล์ นักโภชนาการและผู้เขียนหนังสือ Complete Guide to Healing Foods กล่าว "ถ้าขาดวิตามิน เส้นใยประสาทอาจถูกทำลายจนฟื้นฟูกลับคืนมาไม่ได้"

นอกจากนี้ไข่ยังดีต่อสายตาคุณโดยเมื่อไม่นานมานี้มีผลการศึกษาจากอเมริกาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Nutrition ได้ค้นพบว่า การทานไข่อย่างน้อย 3 ฟองต่อสัปดาห์จะช่วยป้องกันภาวะสูญเสียสายตาที่มักเกิดขึ้นเมื่ออายุเพิ่มขึ้นได้ เพราะสารลูทีนและซีแซนทีนซึ่งเป็นสารรงควัตถุในตระกูลแคโรทีนอยด์ ในไข่แดงจะช่วยบำรุงจอประสาทตานั่นเอง



6 ฟองต่อสัปดาห์ ..... ปริมาณที่พอดี

ไข่เจียวถือเป็นยาบำรุงร่างกายได้เลย เพราะนอกจากไข่จะช่วยให้ร่างกายคุณดูดซึมแคลเซียมได้ดีแล้ว ยังช่วยลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคกระดูกพรุน แถมปริมาณสารซีลีเนียมและวิตามินอี ในไข่ยังช่วยป้องกันโรคหัวใจ ทั้งยังช่วยป้องกันไม่ให้คุณมีหุ่นกลมเป็นไข่อีกด้วย ผลวิจัยจากมหาวิทยาลัยหลุยส์เซียนาสเตท พบว่า คนที่ทานมื้อเช้าโดยมีไข่เป็นส่วนประกอบ จะลดน้ำหนักได้มากกว่าคนที่ไม่ทานไข่ในมื้อเช้าได้ถึง 65 เปอร์เซ็นต์ เมื่อบริโภคแคลอรี่ในปริมาณที่เท่ากัน

"โปรตีนในไข่จะทำให้คุณรู้สึกอิ่มขึ้น ถึง 50 เปอร์เซนต์ และยังทำให้คุณลดปริมาณมื้อเที่ยงที่ทานโดยเฉลี่ยได้อีก 164 แคลอรี่" นิคิล ดูเรนดาร์ ผู้เขียนงานวิจัยกล่าว แต่ถ้าคุณอยากสร้างกล้ามเนื้อก็ไม่ต้องกังวล เพราะงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยเทกซัสเอแอนด์เอ็ม พบว่า การทานไข่วันละ 3 ฟอง เป็นเวลา 2 วัน ต่อสัปดาห์จะช่วยหนุ่มนักเล่นเวตทั้งหลายสร้างกล้ามเนื้อที่ปราศจากไขมันได้เป็น 2 เท่าในช่วงเวลา 12 สัปดาห์ แล้วเรื่องคอเลสเตอรอลที่เล่าลือกันล่ะ "จริงค่ะ ไข่มีคอเรสเตอรอล" พาเมลา ไดสัน นักโภชนาการแห่งสมาคมโภชนาการประจำสหราชอาณาจักร กล่าว

"แต่จัดว่ามีผลน้อยมากต่อการเพิ่มระดับ คอลเรสเตอรอลในเลือด เมื่อเทียบกับปริมาณไขมันอิ่มตัวที่คุณบริโภคอยู่ทุกวัน" นอกจากนี้ผลการวิจัยเมื่อไม่นานมานี้ ของมหาวิทยาลัยคอนเนติคัตยัง พบว่า การทานไข่ช่วยลดคอเรสเตอรอล LDL (ไม่ดี) เพิ่มคอเรสเตอรอล HDL (ดี) และลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจวายหรือโรคหลอดเลือดสมองได้


6 ฟองต่อสัปดาห์ ..... ปริมาณที่พอดี

ตามรายงานที่ตีพิมพ์ในวารสาร American Journal of Clinical Nutrution ไข่ที่ให้ผลดีต่อร่างกาย อาจส่งผลร้านได้เหมือนกัน ถ้าคุณทานมากกว่า 1 ฟองต่อวัน ติดกัน ทุกวัน "ขณะที่การทานไข่สูงสุด 6 ฟองต่อสัปดาห์ไม่ได้ทำให้มีอันตรายถึงชีวิต ในทางตรงกันข้ามการทานไข่ 7 ฟองหรือมากกว่านั้นภายใน 1 สัปดาห์ จะไปเพิ่มปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ 23 เปอร์เซนต์" ดร.ไมเคิล กาเซียโน แห่งคณะแพทยศาสตร์ของฮาร์วาร์ด ซึ่งเป็นผู้เขียนรายงานการวิจัย กล่าวว่า ที่สำคัญคือ สำหรับหนุ่มที่เป็นเบาหวานอยู่แล้ว ไข่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้ ดังนั้นคำพูดที่ว่าทานไข่วันละฟองอาจทำให้คุณไม่ป่วยไข้และห่างไกลหมอ ข้อนี้เฉพาะในกรณีที่คุณตรวจสุขภาพเป็นประจำ และร่างกายแข็งแรงอยู่แล้วเท่านั้น

อ่านต่อ เคล็ดไม่ลับเพื่อสุขภาพ
ที่มาจาก variety.mcot.net

เรื่องเล่า ตลก เฮฮา ของแปลก joke‏




--------------------------------------------------------------------------------
ชาวนาอึ้ง!!! ลูกวัวมีสองจมูก

Posted: 28 Jul 2009 10:22 AM PDT



ชายชาวนาชาววิสคอนซินผู้หนึ่งเป็นต้องอึ้ง เมื่อพบว่าลูกวัวตัวเมียของเขานามว่า "ลูซี่" นั้น ไม่ธรรมดาเหมือนวัวตัวอื่น ทว่ามันมีจมูกถึง 2 อันด้วยกัน นายมาร์ค ครอมบ์ฮอลซ์ เผยว่า "ผมไม่ได้สังเกตุเลยว่ามีอะไรผิดแผกแตกต่างไปบ้าง กระทั่งผมพามันเข้าไปอยู่ในโรงนาเท่านั้นล่ะ ทันใดนั้นเมื่อผมป้อนนมด้วยขวดนมกับมัน ผมก็นึกว่าเอ...มันคงดันขวดนมเข้าจมูกล่ะมั้ง แต่แล้วคือมันมีสองจมูกต่างหาก" โดยจมูกอันที่สองของเจ้าวัวน้อยอยู่เหนือจมูกอันแรกและมีขนาดเล็กกว่าอีกอัน
" มันเป็นจมูกที่ใช้งานได้ เพราะว่ามันมีรูตรงกลางของจมูกอันที่สองครับ โดยจมูกจะกระพือเข้า-ออกเมื่อมันดื่มอะไรเข้าไปแบบนั้นน่ะครับ ตลกมากเลย"
ขณะที่นายสก๊อตต์ กรันด์ คนผสมพันธุ์วัวบอกว่า ดูเหมือนจมูกที่สองของเจ้าลูซี่จะใช้งานได้ดีด้วยซ้ำ "ดูมันชอบนอนเอกเขนกในที่นอนมันตรงนั้น หายใจอยู่อย่างกล้าหาญ อย่างที่เราอยากจะเห็นมันเป็นอย่างนี้ล่ะครับ เพียงเพราะว่ามันมีสองจมูกไง"
ทั้งนี้ ความผิดปกติเช่นนี้หาได้ยาก และมักไม่ได้เกิดจากยีนเสมอไป ทว่าคนผสมพันธุ์วัวคิดว่าแนว ๆ นี้น่าจะเป็นเพราะการผ่าเหล่าพันธุกรรม "เราจะต้องกรอกแบบฟอร์มส่งไปที่บริษัทในชาวาโน เพื่อที่จะได้เก็บเป็นบันทึกไว้ เผื่อเกิดมีโอกาสอย่างกรณีนี้อีก 2 - 3 ครั้ง เขาจะได้เริ่มต้นดู ๆ เรื่องนี้ และอาจจะทำเหมือนที่เราใช้อยู่"
เจ้าของของเจ้าลูซี่บอกอีกว่า วัวน้อยตัวนี้เกิดเมื่อวันที่ 4 พ.ค. โดยจะเลี้ยงไว้เป็นสัตว์เลี้ยง และถ้าผสมพันธุ์ได้ก็จะผสม.



ข้อมูลจาก :

You are subscribed to email updates from เรื่องเล่า ตลก เฮฮา joke
To stop receiving these emails, you may unsubscribe now. Email delivery powered by Google
Google Inc., 20 West Kinzie, Chicago IL USA 60610

เลือกคนที่ใช่ หรือว่า คนที่ชอบ‏

อ่าน mail นี้แล้ว ......

ก็เหลียวมองคนเคียงข้าง...ว่า เขาเป็น "คนที่ใช่" หรือ "คนที่ชอบ"

หลายคนคงได้ "คำตอบ" ของการตัดสินใจในการดำเนินชีวิตว่า

เจอคนที่ควรจะแต่งงานด้วยรึยัง

สำหรับ...ใครไม่มีคู่ ถ้าอยากมีคู่ก็รีบๆ หาก่อนจะแก่ไปมากกว่านี้ (อิอิอิ)

ด้วยความปรารถนาดี...

อ่านแล้วจะเข้าใจในคำว่า..."รัก"...มากขึ้นกว่าเดิม

เพื่อนผม เธอเป็นผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่ง เธอหน้าตาดี เราเรียนจบมาในคณะเดียวกัน หลังจากเรียนจบมาได้ ปีกว่าๆ ผมก็ได้รับการ์ดเชิญไปงานแต่ง

วันแต่งงานของเธอ เธอดูสวยและสดใสเหมือนเดิม ดูท่าแล้วเธอคงจะเจอเนื้อคู่ ตามที่เธอใฝ่ฝันไว้แล้วจริงๆ เพื่อนสาวในกลุ่มของเธอถึงกับตาร้อนพ่าว อยากออกเย้าออกเรือนเหมือนกับเธอบ้าง

ผ่านไปได้เกือบปีกว่าๆ ผมก็ได้ข่าวว่า เธอได้คลอดลูกแล้ว พวกเพื่อนๆ รวมทั้งผม ก็ได้ตามไปเยี่ยมเธอที่บ้าน เธอคงเป็นคนโชคดีคนหนึ่งที่ผมเห็น เพราะทั้งสามีและครอบครัวของเธอ ดูมีความสุขกันถ้วนหน้า เพื่อนๆ ต่างล้อเธอว่า เธอเหมือนถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 เพราะเธอได้สามีที่แสนดี ผมเองก็รู้สึกเช่นนั้น เพราะมันช่างแตกต่างจากหลายๆ คู่ที่ผมเคยได้ยินมา

เวลาผ่านไปอีกปีกว่าๆ เช่นเคย ผมก็ได้รับข่าวว่าเธอคลอดลูกแล้วอีกคน ชีวิตเธอทำเอาผมเริ่มรู้สึกอยากมีชีวิตคู่ขึ้นมาทันที ผมไปเยี่ยมเธอเหมือนครั้งที่แล้ว แทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ดูเธอมีความสุขที่ได้แต่งงานกับผู้ชายคนนี้ เธอเองก็บอกกับผมเช่นนั้น ชีวิตครอบครัวของเธอลงตัวกันได้อย่างดี

สองปีผ่านไป เพื่อนในกลุ่มของเราแต่งงาน ผมได้เจอเธออีกครั้งในงานแต่งนี้ หลังเลิกจากงาน ผมอาสาพาเธอไปส่งบ้าน ตลอดเส้นทางเธอทำให้ทัศนคติของผมเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เธอได้เอ่ยคุยถึงเรื่องครอบครัว ผมบอกว่าเธอโชคดีที่ได้สามีคนนี้ แล้วเธอก็บอกกับผมว่า ไม่มีใครดีที่สุด ทุกคนย่อมมีข้อเสียและข้อดีแตกต่างกัน เขาก็มีข้อเสีย เราก็มีข้อเสีย แต่เมื่อแต่งงานกันแล้ว สิ่งหนึ่งที่ทำให้ชีวิตคู่อยู่ได้คือ การให้อภัย และ การปล่อยวาง ไม่ใช่เธอไม่เคยเจอเรื่องที่ไม่พอใจ เพียงแต่เธอไม่ทำให้เป็นเรื่องมากกว่า ผมก็แอบชื่นชมเธออยู่ในใจ สักพักเธอก็พูดขึ้นมาว่า รู้ไหมแก บางครั้งฉันยังแอบคิดถึง คนที่ฉันเคยแอบรักเขาอยู่เลย ยังคงแอบคิดถึงอยู่เป็นประจำ แต่แกรู้ไหม ฉันรู้ดีว่า คนที่ฉันรักมันไม่ใช่คนที่เราจะใช้ชีวิตอยู่ด้วย ผมทำหน้างงๆ เธอยิ้มแล้วพูดต่อว่า คนที่เรารักบางครั้งอาจไม่เหมาะที่จะมาใช้ชีวิตอยู่คู่กับเรา เขาเหมาะเพียงแค่ให้เราได้ แอบรัก แอบคิดถึง แต่ในความเป็นจริงแล้ว เรารู้ดีว่าคนที่จะอยู่กับเราได้นั้นต้องเป็นยังงัย ฉันเองก็เลือกถูกต้องแล้ว ชีวิตคู่?มัยนี้คิดแต่ จะเลือกเฉพาะคนที่เรารัก แต่ไม่ได้มองว่าเขากับเราจะเข้ากันได้ไหม เขาเป็นคนยังงัย จนกระทั้งอยู่ด้วยกันจริงๆ เมื่อความรักหายไป ความเป็นตัวตนที่แท้จริงก็ออกมา อะไรที่ทำแต่ก่อนไม่เคยสนใจ เดี๋ยวนี้นิดหน่อยก็ขัดหูขัดตา แล้วก็มาจบลงด้วยการหย่าร้าง แกเชื่อเถอะว่า เมื่ออยู่ด้วยกันนานๆ แล้ว ความรักมักมาช้ากว่าอย่างอื่นเสมอๆ หากเราจะเลือกใครเป็นคู่ชีวิตสักคน เราควรจะมองเขาให้มากกว่าความรัก

ผมขับรถมาถึงหน้าบ้านเธอพอดี สามีเธอออกมารับ สองคนพากันเข้าบ้าน ดูความรักของเธอและครอบครัวก็อบอุ่นดี หลังจากผมขับรถกลับ ผมก็คิดได้ทันทีว่า บ่อยครั้งคนที่อยู่เคียงข้างผมมักถามผมว่า เมื่อไหร่จะแต่งงานสะที แต่ผมกับคิดถึงแต่ผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ผมแอบหลงรัก จนลืมความจริงไปว่า เราควรอยู่กับสิ่งที่ใช่มากกว่าพยายามเรียกร้องหาสิ่งที่เป็นเพียงความว่างเปล่า คำพูดของเธอทำให้ผมมองชีวิตคู่เปลี่ยนไป และเปิดใจรับกับการแต่งงานมากขึ้น จนกระทั้งวันนี้ ผมมีลูกแล้วสองคน กับภรรยาที่ผมเลือกแล้วว่าเธอควรค่ากับการเป็นแม่ของลูกผม แล้วคุณล่ะ จะเลือก คนที่ใช่ หรือว่า คนที่ชอบ!!

ข่าวด่วน! นีเวีย บอดี้ ไวท์ ขึ้นหน้า 1 ไทยรัฐ - Hot news! NB WHT on Thairath and Bangkok Post page 1‏

Dear มิตรรัก นักขาย และแฟน ๆ นีเวีย บอดี้ ไวท์เทนนิ่ง

ขอเชิญร่วมเปิดปฏิบัติการ “กุหลาบ 1 ล้านดอก” กับ พระเอก “ปอ-ทฤษฏี” (กระซิบว่าตัวจริงหล่อมาก) และกองทัพหนุ่มหล่ออีก 20 คน ได้ในวันอังคารที่ 4 สิงหาฯ นี้ ขบวนเคลื่อนเวลา 10.00 น. จากบริเวณอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 6 และจะแจกดอกกุหลาบพร้อมสินค้าตัวอย่างเรื่อยไปตั้งแต่ หน้า Silom Complex, หน้าตึก CP, หน้าตึก United, หน้าธนาคารกรุงเทพฯ จนถึงซอยละลายทรัพย์ – อย่าพลาดนะคะ!



Dear NIVEA Body Whitening Fans,

You are invited to join the opening of “1 Million Roses” with “Por-Thrisadee” and the army of 20 handsome guys on the Tuesday of 4th Aug, 09. The caravan will start from 10.00am from Suan Lumpini Part at King Rama VI institute and they will distribute roses and the samplings along the Silom Road till the Bangkok Bank and Soi Lalai-sab – Don’t miss it!




อย่าอยู่ในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินเกิน 90 นาทีนะจ๊ะ จะโดนปรับ‏

อย่าอยู่ในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินเกิน 90 นาทีนะจ๊ะ
เรื่องนี้เจอกับตัวเองเลย คือเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 2552 (เมื่อวาน) เรากำลังเดินทางกลับบ้าน จากออฟฟิตที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินลุมพินีไปสถานีบางซื่อ ตอนก่อนเข้าไปในสถานีรถไฟฟ้าเราก็โทรหาเพื่อน เพื่อนจะมาขายของที่สวนลุมไนท์ เราก็ถามว่าอยู่ไหนแล้ว เพื่อนบอกว่าอยู่สถานีคลองเตย เราเลยบอกว่าเรากำลังจะถึงสถานีลุมพินีแล้ว เดี๋ยวเจอกัน แบบว่ากะจะเจอกันคุยซัก 10-15 นาที เราเลยบอกเพื่อนว่าเอออยู่ในนั้นแหละ ไม่ต้องออกมาจากสถานีหรอก เพราะคุยกันแป๊บนึงเอง เราคุยกันในนั้นละกัน เราก็แตะบัตรโดยสาร (ตั๋วเดือน) เข้าไปในสถานีประมาณ 19.30 น. ก็ไปเจอเพื่อนอ่ะนะ แบบว่าคุยไปคุยมาเพลินอ่ะ เม้าท์กระจาย ยืนคุยกันเกือบ ชม.ได้ 555555+++ เราก็บอกเออจะกลับบ้านแล้วนี่ 2 ทุ่มครึ่งแระ ให้เพื่อนไปเปิดร้านขายของต่อ เราก็ขึ้นรถไฟฟ้าจากสถานีลุมพินีมาสถานีบางซื่อ จะใช้เวลาประมาณ 30-35 นาที พอตอนแตะบัตรโดยสารออกก็ประมาณ 21.00 น. (คงเกิน 90 นาทีไปไม่
นานหรอก) ประตูมันไม่เปิดให้อ่ะ เราเลยติดต่อเจ้าหน้าที่ เค้าแจ้งว่าเราอยู่ในสถานีรถไฟฟ้าเกิน 90 นาที ต้องเสียค่าปรับ 41 บาท (ตามอัตราราคาค่าโดยสารสูงสุด) เราก็บอกว่าใช่เราอยู่ในนั้นเกิน 90 นาทีจริงเพราะแวะคุยกับเพื่อน แต่ไม่เห็นเคยได้รับข่าวสารจากทางรถไฟฟ้าเลยว่า ถ้าอยู่ในสถานี (คือในพื้นที่สถานีรถไฟฟ้าทุกสถานี แบบว่าไม่ได้แตะบัตรโดยสารออกน่ะ) เกิน 90 นาทีจะถูกปรับ เค้าเลยบอกว่า มีโบชัวร์อยู่ แล้วก็หยิบมาให้เรา เราก็งงบอกว่าซื้อบัตรโดยสารมา 1 ปีแล้วทำไมไม่เคยเห็นพนักงานขายแจกใบนี้ให้ข่าวสารข้อมูล ที่สำคัญคือไอ้ใบประชาสัมพันธ์นี้อยู่ด้านในที่พนักงานหยิบได้เท่านั้น คือไม่มีเอามาวางข้างนอกให้เราหยิบดูอ่ะ …เราบอกว่าไม่เห็นเคยรู้เรื่องจะได้เอาไปเขียนเมลล์บอกต่อพนักงานบอก เชิญค่ะ ..โห ท้าทายแบบนี้ชอบจริง ๆ เราบอกจริง ๆ แล้วตอนที่เราซื้อบัตร พนักงานขายควรจะถามว่ามีใบนี้หรือยัง ถ้าไม่มีก็ควรจะให้ ไม่ใช้เอาไปเก็บไว้ซะมิดชิด (คงเอาไว้ชั่งกิโลขายม้างงงง กูละเบื่อ) พนักงานก็กวน (ประสาท ส้นเท้ามาก) บอกว่า 41 บาทค่ะ เราก็หยิบให้ 40 แล้วเอากระเป๋าใส่เหรียญมาจะหยิบให้อีก 1 บาท น้องแกก็บอกว่า ขาด 1 บาท เราบอกเดี๋ยวหยิบอยู่ แล้วที่นี้พี่พนักงานอีกคน 1 เดินมาคุยกับเรา เค้าก็พูดจาดีนะ เราก็คุยกับเค้าว่าเออพี่น่าจะมีแจ้งนะซื้อตั๋วมาปีนึงแล้วไม่เห็นรู้เรื่องเลย ไอ้น้องเวรนั่นพูดอีกขาดบาทนึง เราเลยบอกว่าหยิบอยู่ไม่เห็นหรือไง (นึกในใจ อีโง่....แม่งให้ไป 40 แระอีกบาทเดียวคงไม่ชักดาบหรอก)



ช่วยกันฟอร์เวิร์ดต่อๆกันไปละกันนะ จะได้ไม่เสียค่าโง่นะค้าบบบบ



ถ้าเมลล์นี้ไปถึง บมจ. รถไฟฟ้ากรุงเทพได้จะดีมาก เค้าจะได้เอาใบนี้ออกมาให้คนโดยสารหยิบได้...ไม่ต้องถูกมัดมือชกแบบนี้ ..อันนี้โฆษณาให้ไม่คิดเงินนะเนี่ย ไหน ๆ พนักงานเค้าก็ท้าทายมาแระ เราก็เสียเวลาเขียนซะหน่อย ไม่งั้นเดี๋ยว MRT จะมีรายได้ค่าเบี้ยปรับมากเกิน งบประมาณที่ตั้งไว้อ่ะ ไม่รู้ BTS เป็นแบบเดียวกับ MRT ป่าวนะลองเช็คดูละกันนะจ๊ะ

ค้นหา