เรื่องที่ 1**เตือนภัย**
สาวๆที่ออกไปข้างนอกคนเดียวบ่อยๆ
โดยเฉพาะคนที่ออกไปข้างนอกคนเดียวบ่อยๆโดยเฉพาะสถานที่ซ้ำๆกันด้วย
เรื่องนี้เกิดในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาค่ะเพื่อนเราไปนั่งอ่านหนังสือที่ร้าน
starbucks สาขาซีคอน ตอนประมาณเที่ยงๆระหว่างที่มันนั่งอ่านหนังสือไปเรื่อยๆ
ฟังไอพอดไปด้วยก็มีผู้ชายคนนึงเดินเข้ามา! คุย ท่าทาง เกย์ๆ ตุ๊ดๆ
ผู้ชายคนนั้นบอกว่า เค้าเป็น directorมาจากฮ่องกง หรือจีน เนี่ยแหละ
กำลังมองหานักแสดงหน้าตาจีนๆหรือเกาหลีๆไปเล่นหนัง เพื่อนเรามันก็ไม่ได้ตั้งใจฟังมาก เ
พราะหูข้างนึงก็ฟังไอพอดอยู่ จากนั้นผู้ชายคนนั้นก็ยืนมือมาเชคแฮนด์เพื่อนเรามันก็จับมือเค้า
ต่อจากนั้นแปปเดียว เพื่อนเรามันบอกว่าเกิดอาการมึนหัวขึ้นทันที เหมือนตัวลอยๆขยับ
อะไรไม่ได้ยืนอยู่นิ่งๆได้อย่างเดียวเหมือนเค้าทายาอะไรซักอย่างไว้ที่มือ เ
พราะเพื่อนเราจับยาก็เลยซึมเข้าร่างกายผู้ชายคนนั้นก็พูดไปเรื่อยโดยที่เพื่อนเราบอกว่าได้ยินและจำได้ทุกอย่าง
แต่ขยับตัวหรือพูดไม่ได้เลย ผู้ชายคนนั้นก็พูดไปเรื่อยว่า
นี่น้องลดแขนหน่อยได้มั้ยแล้วก็เอามือจับแขนเพื่อนเรา ลดแก้มด้วยก็ดี
แล้วก็เอามือมาดึงๆหน้าแล้วพอมันรู้ว่าเมาได้ที่แล้วมั้งก็บอกให้เอาไอพอด
บัตรประชาชน แล้วก็เอทีเอ็มมาให้ ขอpassword ไปด้วย เพื่อนเราก็ทำตามทุกอย่าง
มันบอกว่ามันรู้ตัวแต่ควบคุมตัวเองไม่ได้ ต้องทำตามที่มันบอก
จากนั้นเพื่อนเราก็เดินกลับบ้านทั้งที่ยังไม่รู้ตัวอย่างนั้น ผ่านไปสองสามชม.มันถึงได้สติกลับมา
ปรากฎว่าเงินในเอทีเอ็มหายไปหมดแล้ว น่ากลัวเนอะ
ขนาดในร้านตอนเที่ยง เพื่อนเราก็บอกว่าคนเยอะ ไม่ได้เปลี่ยวเลย
ระวังตัวกันหน่อยนะคะสาวๆเพราะคนร้ายพวกนี้อาจจะซุ่มดูหาเหยื่อก่อน
แล้วเลือกคนที่ไปคนเดียวบ่อยๆทางที่ดี อย่าคุยกับคนแปลกหน้า
แล้วก็หาเพื่อนไปด้วยดีกว่านะจ้ะ
เรื่องที่ 2
ขอเล่าเรื่องจริงแบบไม่ต้องผ่านจอแก้วด้วยตัวเราเอง
เป็นภัยสังคมที่เกิดกับคนใกล้ตัวแบบไม่คิดว่าชาตินี้จะได้เจอะได้เจอ
เหตุการณ์เกิดกับพี่สาวของเพื่อน (ขออนุญาตนำมาเล่านะคะ)
วันที่เกิดเหตุ วันที่ 9 สิงหาคม 2551 เวลาประมาณบ่ายหน่อยๆ ครอบครัว
พี่สาวเพื่อนไปทานอาหารที่ร้าน ซิสล์เลอร์ สาขาอาคาร ซีพี ทาวเวอร์
(สถานที่เกิดเหตุ - ขอเน้น กลางกรุงเลยเพื่อน)
ตัวพี่สาวทานเสร็จก่อนก็เลยปล่อยให้สามีและลูกทานกันต่อ
โดยที่ตัวเองจะลงไปซื้อของที่ร้านวัตสัน
ที่อยู่ชั้นล่าง ระหว่างที่ลงบันไดเลื่อนก็มีชายหญิงคู่หนึ่งอยู่ข้างหน้า
แต่งตัวดี สักพักพี่สาวเพื่อนรู้สึกได้กลิ่นเหม็น
เหมือน กลิ่นตด มาจากข้างหน้า (เค้ายังนึกด่าในใจว่าแต่งตัวดีแต่ดันตดมาได้)
พอลงจากบันไดเลื่อนก็เดินตรงไป เข้าร้านวัตสัน สักครู่ก็รู้สึกง่วงนอนมากเหมือนจะหลับให้ได้
(ปกติจะเป็นคนไม่ชอบนอนกลางวัน) เลยคิดว่าโดนดีเข้าแล้วเรา
(เวลามีเมล์เรื่องภัยสังคมมอมยาแบบนี้ เพื่อนมักจะแฟ็กซ์ไปให้พี่สาวอ่านบ่อยๆ)
พี่สาวเพื่อนรีบหยิบมือถือโทรหาสามีกับลูก
ให้รีบมาเจอกัน เดชะบุญเก่ายังดีอยู่ สามีกับลูกเช็คบิลเสร็จแล้ว
และกำลังจะลงไปหา เลยรีบตามมาสมทบ แล้วพากันกลับบ้าน
เพื่อนเล่าว่า ขึ้นรถปุ๊บ พี่สาวก็หลับปั๊บทันทีเลยสรุปกันว่าเจอตดมหาภัยซะแล้ว
ก็เล่ามาเพื่อเตือนเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ กันไว้
(ช่วยกันส่งต่อเตือนพี่น้องเพื่อนฝูงของตัวเองด้วยนะ)เพราะสถานที่เป็นที่
เราคุ้นเคยเดินเล่นกันบ่อย ๆ จนอาจจะไม่ระวังตัว
เปิดช่องให้พวกมารสังคมมาทำมิดีมิร้ายกับตัวเราและทรัพย์สินได้
วันที่เกิดเหตุ เพื่อนเล่าว่าพี่สาวเขาใส่จี้เพชรอยู่
แต่ก็ไม่ใช่วูบวาบใหญ่โตขนาดจะนำภัยมาหาตัวได้
เพราะแต่งตัวก็ธรรมดาไม่ฟู่ฟ่าอะไร
มีกระเป๋าตังค์ติดตัวไปด้วยใบหนึ่ง
หากเราไปเดินคนเดียวและเจอเหตุการณ์แบบนี้ ขอแนะนำเพื่อน ๆ
ถ้าได้กลิ่นแปลก ๆ ให้รีบกลั้นลมหายใจ
แล้วรีบออกมาให้พ้นแถวนั้น พยายามฝืนตัวเองหาพนักงานขายของ
(อย่าเอาคนแถว นั้น เพราะอาจเป็นพวกมันรออยู่ก็ได้)
แล้วรีบบอกพนักงานก่อนเลยว่า เรามาคนเดียว
เพราะพวกมารสังคมอาจจะทำเนียนเห็นยาออกฤทธิ์แล้วอ้างตัวว่ามากับเราได้...
เฮ้อ... ทำได้แต่เตือน ๆ กัน
เมื่อไหร่พวกมารจะหมดไปจากสังคมกันซะที
ขอให้ปลอดภัยกันทุก ๆ คนนะคะ
เรื่องที่ 3
คนมาแจกโบร์ชัร์ก็ต้องระวังนะเรื่องคนเอาเอกสารหรือโบร์ชัวร์มาแจกตามห้างก้อน่ากลัวนะ ต้องระวังด้วย
เมื่อก่อนก็จะรับๆ ไว้เพราะสงสารคนแจก แต่ไม่กี่เดือนนี่เองน้องที่ทำงานเก่าเพิ่งโดนไปที่ โลตัสคลองสี่รังสิตเรื่องก้อคือเค้าจะไปซื้อของใช้เข้าบ้าน ไปกันสามคน พ่อ แม่ ลูก ตัวน้องผู้หญิงเข้าไปซื้อของใช้และ
ให้สามีพาลูกไปรอ และเล่นที่บ้านบอล พอเค้าซื้อของเสร็จมาหาสามีที่บ้านบอล มองหาลูกในบ้านบอลก็ไม่มีแล้ว
สามีก็นั่งอยู่ที่หน้าบ้านบอลที่เดิม เรียกอยู่ตั้งพักถึงจะรู้สึกตัว สามีรู้สึกตัวก็ตกใจมากที่รู้ว่าลูกหายไปแล้ว
เค้าบอกว่า ขณะนั่งดูลูกเล่นอยู่ดีดี ก็มีคนเดินเข้ามาแจก โบร์ ชัวร์ให้อ่าน ก็เลยรับไว้แล้วพอเปิดปุ๊บ
ก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลยมารู้ตอนที่ภรรยามาเรียกนี่แหละ เค้าหากันให้ทั่วห้างเลยแหละ แต่เป็นโชคดีของครอบครัวนี้มากๆ
เพราะก่อนที่จะเข้าไปซื้อของเค้าแวะซื้อขนมที่ร้านขนมไทยตรงทางเข้าห้างแล้วแม่ค้าขนมก็จำครอบครัวนี้ได้ แม่ค้าเล่าว่าเด็กออกมากับผู้ชาย คนนึงแต่เด็กร้องไห้เสียงดังลั่นเลย
ก็เลยเป็นที่สังเกตุแม่ค้าก็เลยเรียกไว้แล้วถามหาพ่อแม่เด็ก ระหว่างนั้นคนร้ายก็เลยชิงหนีไป.....คิดดูสิ....
.ถ้าแม่ค้าจำเด็กไม่ได้ หรือถ้าคนร้ายมันทำให้เด็กหมดสติแล้วทำทีเป็นเด็กหลับแล้วอุ้มไปหละไม่อยากคิดเลยว่าตอนนี้ครอบครัวนี้จะเป็นยังไง ตอนนี้น้องที่ทำงานเก่าที่เป็นแม่เด็กยังขวัญผวาไม่หายเลย
กลัวไปหมด โชคดีมากๆ บุญช่วยจริงๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น