วันอังคารที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2552

คนเก่งจริงไม่เรื่องมาก คนฉลาดจริงไม่มากเรื่อง‏

คนเก่งจริงไม่เรื่องมาก คนฉลาดจริงไม่มากเรื่อง

โดย วินทร์ เลียววาริณ
ผมเป็นมนุษย์เงินเดือนมานานร่วมสามสิบปี.. ห้าปีในนั้นผมทำงานในต่างประเทศ .. เมื่อกลับมาเมืองไทย ผมพบเรื่องอัศจรรย์อีกเรื่องหนึ่ง นั่นคือหลายคนมองการก้าวเท้าออกจากสำนักงานตรงเวลา “ เป็นเรื่องประหลาดที่สุดในโลก ”

ผมรู้ความจริงภายหลังว่า … คนจำนวนมากไม่ยอมออกจากสำนักงานตรงเวลา เพื่อแสดงให้เจ้านายเห็นว่า ตนเองขยันขันแข็ง ยิ่งอยู่ดึก ยิ่งเป็นพนักงานตัวอย่าง เสียสละเพื่อองค์กร น่ายกย่องชมเชย บ่อยครั้งมีผลถึงการได้รับโบนัสตอนท้ายปี.. เนื่องจากเจ้านายมักเห็นหน้าเห็นตาใครคนนั้น หลังเวลาเลิกงานแล้วเสมอ


หากไม่เคยทำงานในต่างประเทศมาก่อน ผมอาจเข้าร่วมวงไพบูลย์ “ มาสายกลับดึก ” ด้วย แต่หลายปีในชีวิตการทำงานในประเทศที่มีประสิทธิภาพในการจัดการที่สุด..ทำให้เห็นค่าเวลาทุกนาทีในชีวิต ผมกลับมองว่าคนที่อยู่ดึกเป็นประจำคือพวกไร้ประสิทธิภาพ ไม่สามารถทำงานให้เสร็จทันเวลา .. จึงต้องอยู่ดึก ยิ่งทำงานมากชั่วโมงยิ่งแสดงถึงการทำงานโดยไม่มีการวางแผน ไม่มองภาพรวม
ลองคิดดู การอยู่ดึกเพื่อทำงานพิเศษหนึ่งคืนหมายถึงค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น เครื่องปรับอากาศทำงานมากขึ้น ค่าทะนุบำรุงสูงขึ้น ผลกระทบต่อคนทำงานคือพักผ่อนน้อยกว่าที่ควรเป็น ยิ่งอยู่ดึกประสิทธิภาพของงานในวันถัดไปยิ่งตกต่ำลง
มือกระบี่ชั้นหนึ่งในแผ่นดินมองท่วงทีของศัตรูอย่างระวัง ตวัดกระบี่ในมือเพียงฉับเดียว ก็เข่นฆ่าฝ่ายตรงข้าม มือกระบี่ชั้นรองต้องประกระบี่ดังโคร้งเคร้งนานนับชั่วโมง ราวกับอยากบอกโลกว่า .. ข้าก็ใช้กระบี่นะโว้ย โลกรับรู้ แต่คมกระบี่ก็บิ่น ต้องเสียเวลาลับกระบี่อีกหลายวัน
งานดีอย่างเดียวไม่พอ ต้องตรงเวลาด้วย งานดีไม่มีทางเกิดขึ้นตามยถากรรม .. หรืออารมณ์ขึ้นลง ไปจนถึงความหนาแน่นรัดกุมของกฎเกณฑ์ “ ตอกบัตร ” ปริมาณเวลาในการทำงานชิ้นหนึ่ง ไม่ได้เป็นสัดส่วนกับคุณภาพของผลงานเสมอไป บ่อยครั้งเป็นปฏิภาคกัน ..หลายครั้งงานที่ให้เวลาน้อย กลับออกมาดีกว่างานที่ให้เวลามาก

“ คนเก่งจริงไม่เรื่องมาก คนฉลาดจริงไม่มากเรื่อง ทำงานเสร็จแล้วก็เลิก! ไม่ต้องรอเทวดาบนสวรรค์วิมานมารับรู้ ” เพราะถึงเวลานั้นเทวดาก็กลับบ้านไปนานแล้ว !!!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ค้นหา