วันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ท่าบริหารสำหรับคนใช้คอมเยอะๆ เวิร์คดีแฮะ

นี่เลย..คนที่เอาแต่พิมพ์คอมทั้งวัน ก็ต้องระวังเรื่องนิ้วล็อก หรือว่าผังผืดหินปูนเกาะที่ข้อมือกันบ้างล่ะน๊า อย่าประมาทไปเชียว

เริ่มจากตั้งแขนขึ้นมาข้างนึงก่อน ประมาณว่าจะอามิตตาพุทยังงั้นเลย สมมติว่า ตั้งแขนขวาละกัน



จากนั้นก็ให้หันฝ่ามือด้านที่มีลายมือเข้าหาตัว เอามือซ้ายประกบที่หลังมือขวา พยายามให้นิ้วโป้งซ้ายดันเข้าที่โคนนิ้วก้อยขวา



หายใจ เข้า-หายใจออก พร้อมกับบิดข้อมือช้า ๆ ให้ฝ่ามือขวาหันออกนอกตัว พยายามลดมือลง พร้อมกับตั้งศอกขวาขึ้นด้วยนะ จะได้เพิ่มกำลังในการบิดให้มากขึ้น เวลาบิดต้องบิดช้า ๆ นะ ห้ามบิดเร็ว ๆ และแรง ๆ เป็นอันขาดถ้ายังไม่อยากข้อมือซ้น



ระหว่างที่บิดก็ให้ค้างไว้ประมาณ 5 วิ แล้วทำซ้ำอีกครั้ง โดยเปลี่ยนไปทำอีกข้างนึง



ต่อนะจ๊ะ

ตั้งแขนขึ้น ชูไปข้างหน้า สมมติว่าเป็นแขนขวาละกัน พลิกมือเอานิ้วโป้งชี้พื้น บริเวณสันมือจะชี้ขึ้นข้างบน





จากนั้นก็เอามือซ้ายจับที่สันมือขวาเอาไว้



มือ ซ้ายค่อย ๆ จับมือขวาบิดชี้ขึ้นข้างบน พร้อม ๆ กับดึงมือทั้งสองข้างเข้าหาตัว ศอกของเราจะกางออก ตอนนี้พี่จุ๋มของเราจะเริ่มรู้สึกตึงตรงข้อมืออย่างมาก แต่พี่จุ๋มก็ยังยิ้มแย้มเช่นเคย แหมเก็บอาการมิดชิดเชียวนะเพ่ ให้ค้างไว้ 5 วิ เช่นเคย จากนั้นก็ให้ทำสลับกะอีกข้าง



อ่ะ ให้ดูอีกข้างนึง



ตอนนี้ขอวิชาการนิดนึงนะ เดี๋ยวจะหาว่าเล่นอยู่เรื่อยเลย


การ บริหารข้อมือแบบนี้ จะเป็นการบิดในทิศทางที่ตรงกันข้ามกัน คือ จะบิดเข้าและบิดออก ซึ่งจะช่วยให้ข้อมือมีความยืดหยุ่นมากขึ้น กระตุ้นปลายประสาท ทำให้เลือดมีการหมุนเวียนที่ดีขึ้น แก้เมื่อยข้อมือเวลาที่ต้องพิมพ์คอมนาน ๆ ป้องกันหินปูนมาเกาะตามข้อมือได้ด้วยจ้า

เริ่มจากเหยียดแขนขวาไปข้างหน้าก่อน พยายามให้แขนตรง จากนั้นให้เอาแขนซ้ายมาดันบริเวณข้อศอกขวาให้แขนขวาเข้ามาชิดลำตัวให้มากที่ สุด ท่าจะคล้าย ๆ กับอุลตร้าแมนกำลังปล่อยแสงยังงั้นเลย



อย่าลืมว่าแขนขวาจะต้องตึงและตรงเท่านั้นนะจ๊ะ มันจะรู้สึกตีงบริเวณหัวไหล่ช่วงแขน และเป็นการยืดสะบักด้วย

ดูอีกข้างนึง ทำเหมือนกันเปี๊ยบเลย


ท่า เมื่อกี้จะเป็นการยืดช่วงไหล่ ให้ตามมาด้วยท่ายืดสะบักหลัง และหลังส่วนบน ซึ่งจะช่วยแก้เมื่อยไหล่ เมื่อยบ่าเวลาที่นั่งทำงานนาน ๆ ได้เหมือนกันนะเอ้อ

ก่อนอื่นก็ให้ประสานมือเข้าด้วยกันยืดไปข้างหน้าอย่างนี้



จัด ลำตัวให้ตรงก่อนนะ จากนั้นก็ให้ก้มศีรษะลง ก้มเฉพาะศีรษะจริง ๆ นะ อย่าก้มตัวลงมาด้วย พยายามให้หน้าซุกลงระหว่างแขนทั้งสองข้างจนแขนแนบหู พยายามกดคางชิดอก หายใจเข้าออกช้า ๆ อาจจะอึดอัดเล็กน้อยอยู่บ้าง แต่ที่สำคัญคือพยายามให้หลังตรง ก้มลงมาแต่คอกับศีรษะเท่านั้น ตอนนี้จะรู้สึกตึงบริเวณสะบักทั้งสองข้าง หัวไหล่ บ่า จนถึงต้นคอ



เค้า ว่ากันว่าการกดคางชิดอกจะเป็นการกดนวดต่อมไทรอยด์ (เพิ่งรู้เหมือนกันว่าต่อมไทรอยด์จะอยู่ตรงบริเวณใต้คอหอย) ซึ่งต่อมทัยรอยด์ เป็นต่อมไร้ท่อต่อมหนึ่งในร่างกาย มีหน้าที่ในการสร้างฮอร์โมนทัยรอยด์ ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำหน้าที่ในการเผาผลาญสารอาหาร ให้เป็นพลังงาน ต่อมทัยรอยด์ มีลักษณะคล้ายผีเสื้อ อยู่บริเวณกลางลำคอส่วนล่าง

อ่ะ ให้ดูรูปละกัน เดี๋ยวหาว่าโม้



เพราะ งั้นการกดคางชิดอก ในทางตำราโยคะจึงเป็นการนวดต่อมทัยรอยด์ช่วยทำให้ระบบเผาผลาญในร่างกายดี ขึ้น และเมื่อทำท่านี้แล้วจะต้องแก้ด้วยท่าแหงนหน้าขึ้น เพื่อให้เลือดไปเลี้ยงบริเวณต่อมทัยรอยด์

มาลองท่าแก้กันนะ

เริ่มจากนี่เลย เอามือประสานกันไว้ใต้คาง (คว่ำฝ่ามือลง) กางศอกทั้งสองข้างออก



ค่อย ๆ ยกศอกชี้ขึ้นข้างบน พร้อม ๆ กับฝ่ามือที่ประสานกันอยู่ดันคางจนแหงนหน้าขึ้น ค้างไว้ประมาณ 5 วิ แล้วก็คลายท่า



เอา ล่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาทำมาหากิน ตามมาติด ๆ ด้วยท่าง่าย ๆ กะเก้าอี้ทำงานเลย ไหน ๆ ก็เชิญพี่จุ๋มมาเป็นนางแบบกิติมศักดิ์แล้ว ก็เอาให้คุ้ม อิอิ

พยายาม นั่งเขยิบออกมาห่างจากพนักพิงสักหน่อย จากนั้นก็ให้เอื้อมมือทั้งสองข้างไปจับที่พนักพิงด้านหลัง แล้วยืดแขนให้ตึงสุด ๆ แอ่นหลัง แหงนหน้า ทีนี้ล่ะจะได้ฟิลลิ่งของความตึงไล่มาเลยตั้งแต่หลัง ไหล่ แขน



ทีนี้ ก็สบายตัวละ เห็นไม๊ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชุด ไม่ต้องหาสถานที่ ไม่ต้องรอว่ามีเวลาว่างเมื่อไร ถ้าอยากจะออกกำลังกาย ก็ทำได้เลย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ค้นหา