วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

เข้าป่า โบราณว่า เห็นอะไร อย่าทัก‏

Subject: เข้าป่า โบราณว่า เห็นอะไร อย่าทัก> เข้าป่า โบราณว่า เห็นอะไร
อย่าทัก
>
>
> เรื่องมีอยู่ว่า ต้น รวมตัวกับเพื่อน ๆ ได้กลุ่มหนึ่ง ประมาณ 10 คน
> แล้วนั่งคุยกันว่า เด๋วหลังเสร็จงาน
> จัดโปรแกรม ไปเที่ยวต่างจังหวัดกัน พองานเสร็จ ทุกอย่างลงตัว
> ก็เลยมานั่งคุยกันว่า ไปไหนดี เพื่อน
> คนหนึ่งพูดขึ้นว่า ไปดอยอินทรานนท์มั้ย แต่อีกคนบอกว่าฝนตก
> ไม่สนุกหรอกเข้าป่า พอคุยกันไปคุยกันมา
> ไม่ได้ข้อสรุป ต้นเลยบอก เอาตามที่เอ็งบอกนั้นละ ดอยอินทรานนท์ นั้นละ
>
> พอได้ข้อสรุป ก็แยกย้ายไปเก็บข้าวของ ก็ขับรถไป พอไปถึงที่ ดอยอินทรานนท์
> จอดรถเสร็จ ทุกคนหยิบ
> กระเป๋าของตัวเอง แล้วเพื่อนผม จังหวะว่า พาแฟนไปเปลี่ยน บรรยากาศ
> พอเราเดินไปได้สักพัก ( นี้
> คือเดินอยู่ในป่าแล้วนะครับ ) แฟนเพื่อนผม ไปเจอสิ่งที่แบบว่า คล้าย ๆ กับ
> แก้วน้ำอะไรสักอย่างเนีย
> ละ เลยเดินไปจับ แล้วหยิบมาดู ก็ไม่มีอะไร พอหันไปตันไม้ต้นอื่น
> ก็มีสิ่งแบบเดียวกันอีก เลยหันมาบอก
> ว่า รีบไปเถอะวะ มันจะมืดละ รีบเดินไปให้ถึงจุดกางเต้นเถอะ
>
> พอเดินไปได้สักระยะหนึ่ง แฟนเพื่อนผมก็บอกว่า อ้าวเห้ย
> พวกเอ็งเห็นอะไรนั้นปะหายเข้าไปแล้วอ่ะ บน
> ต้นไม้ ทุกคนบอก เห้ย เข้าป่าเห็นอะไร อย่าทัก สิ่งดีก็มีไม่ดีก็มี รีบไปเถอะ
> มันโพ้เพ้แล้ว จากนั้นก็
> เดินแล้วก็เที่ยวตามปกติ แต่เรื่องมันมาเกิดตอนที่เดินทางกลับ
>
> แฟนเพื่อนผมพูดขึ้นว่า ขอไปด้วยได้มั้ย เพื่อนผมเลยบอกว่า อ้าวไอ้ห่า
> แฟนเอ็งเป็นไรว่ะ อยู่ ๆ บอกว่า
> ไปด้วยได้มั้ย เพื่อนผมเลยบอกว่า มาด้วยกันก็กลับด้วยกันดิ
> หรือว่าเอ็งจะอยู่เที่ยวกันต่อ 2 คน ผมได้ยิน
> เสียงที่ตอบมาแบบช้าๆ ว่า ขอบคุณ
>
> ทุกคนหันมองหน้าแล้วเดินต่อ ต้นคิดในใจแล้วว่า มันต้องมีอะไรแน่เลย
> เพราะว่าทำไมตามัน ขวาง ๆ
> แปลก ๆ เหมือนไม่ใช่แฟนเพื่อนผม ที่ต้นรู้จัก พอกลับมาถึง กทม.
> ก็แยกย้ายกันกลับบ้าน เอาของไปเก็บ
> แล้วเดียวมาเจอ บ้านต้น นั่งกินสุรากัน
> เพื่อนผมคนนั้นมันก็พาแฟนมันมานั่งด้วย แล้วต้นจำได้ติดตาเลยว่า
> ในวงมีไก้ต้มน้ำปลา กับ หอยแครงอยู่
>
> แฟนเพื่อนผมบอก หิวข้าวจัง ต้นเลยบอกว่า
> เฮ้ยเอ็งไปตักข้าวมาให้แฟนเอ็งกินดิพอตักมาให้ก็ไม่กิน กิน
> เข้าไปไม่ถึง 2 คำ แล้วบอกอิ่ม สุราหมดไป 1 กลม บ้างคนก็เดินไปเข้าห้องน้ำ
> บ้างคนออกไปคุย
> โทรศัพท์ ส่วนเพื่อนผม อีก 2 คนออกไปซื้อมาต่อ
>
> ในวงไม่เหลือใคร นอกจาก แฟนเพื่อนต้น ทีแรกต้นก็ไม่ได้สนใจอะไร
> ก็นั่งคิดว่าแฟนเพื่อนต้น ปกติมัน
> เฮฮานิหว่าทำไมวันนี้มันเงียบผิ ดปกติว่ะ
>
> แล้วเพื่อนผมอีกคนที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ก็เรียกต้นว่า เฮ้มาดูไรนี่ดิ
> เห็นเต็ม ๆ 2 ตาเลย ไก่ที่ว่างอยู่ แฟน
> เพื่อนผมกินแบบ ใช้มือฉีด กระชาก ไม่ก็ไม่น่าแปลกอะ แค่กินไก่อาจจะกินไม่ถนัด
> แต่ที่แปลกคือ แฟน
> เพื่อนผมคนนี้ มันสำอางมาก ไม่มีทางที่จะทำแบบพวกต้นแน่
> กินหมดเสร็จจะพูดยังไง เอาเป็นกินแบบ
> สกปรก อะ
>
> ก็ยังไม่สนใจอะไร แค่ดูแล้วมันแปลก ๆ ไป เท่าไรยังไม่ได้คิดไรมาก พอมา 2 วัน
> เพื่อนโทรมาบอกว่า
> แฟนมันชอบให้ซื้อของ สด ๆ ดิบ ๆ มาให้ บอกว่าจะเอาไว้ทำกับข้าว แต่พอเช้า
> ของที่ซื้อมาหายหมด
> ทุกคนเลยบอกว่า ผิดปกติแล้วละ
>
> เลยรวมตัวกันแล้วบอกเพื่อนคนนั้นว่า วันนี้ไปซื้อมาอีกนะ แล้วมาแอบดูกันว่า
> มันเกิดอะไรขึ้น ผลที่ได้คือ
> แฟนมันลุกขึ้นมากลางดึก มาหยิบของพวกนั้นกินแบบ ไม่ใช่คนอย่าเรา ๆ
> กินอะครับที่เห็นอะ ต้นเลยบอก
> ว่า ไม่ใช่แล้วอะ เลยบอกลองเอาพระให้ใส่ พอให้พระใส่ ก็ปกติดีทุกอย่าง
> พูดจารู้เรื่อง
>
> ต้นก็ งง ว่าถ้าผีเข้าหรืออะไรยังไง เจอพระก็ต้องออกหมด แต่นี้ปกติ
> เลยบอกว่างั้นพาไปที่ ตำหนัก
> อาจารย์ต้นแล้วกัน ไม่ขอบอกนะครับว่าที่ไหน พอไปถึงที่ ตำหนัก อาจารย์เลยถา
> มว่า ไปโดนอะไรมา
> ก็เลยลอง ๆ เล่าให้ฟังว่า น่าจะเป็นแบบนี้นะ
>
> อาจารย์ต้นเลยบอกว่า แฟนเพื่อนเอ็ง โดนของดีแล้วละ สรุปง่าย ๆ เลยคือ
> ปอบผีฟ้า ที่เราเคยได้ยิน
> ชื่อหรือที่ชมกันตามทีวี นั้นละ ต้นยังบอกเลยว่า ปอบผีฟ้า ยังมีอยู่อีกหรอ
> อาจารย์ อาจารย์บอกว่ามีเยอะ
> ทางเหนือ พวกนี้จะอยู่ตามต้นไม้ ต้นเลยนึกขึ้นได้ ที่มันทักที่มันหยิบมา
> เลยเล่าให้เค้าฟังว่าแบบนี้ ๆ
>
> แล้วก็บอกว่า ต้นเอาพระห้ใส่ก็ปกติดีนะ อาจารย์เลยบอกว่า พวกนี้
> เป็นชนิดที่ว่าเก่งแล้ว แล้วที่เพื่อน
> เอ็งไปเจอเนีย ที่วาง ๆ ไว้ตามต้นไม้เนีย คือชนิดที่ว่า
> คนเลี้ยงเอาไม่อยู่แล้ว หรือที่เรียกว่า ขันแตก
> ประมาณนั้น
>
> จากนั้น อาจารย์เลยบอกว่า ปิดหน้าต่าง ปิดประตูให้หมด
> แล้วจับแฟนเพื่อนผมให้ดี อาจารย์ก็ทำการ
> เรียกขวัญ แล้วก็เอาน้ำมนต์ ทำเหมือนในหนังเลย แล้วพอตนนั้นออกจากร่าง
> อาจารย์บอกว่า ทำใจได้
> เลย ไม่เกิน 3 วัน เสียชีวิต เพื่อนผมเลยบอกว่า ทำไมหรอครับ
> ออกไปแล้วทำไมแฟนผมต้องตายแล้ว
> อาจารย์ต้นเลยบอกว่า ตนนั้นมาสิงกินข้างในไปหมดแล้ว ที่แฟนเอ็งอยู่ใน
> เพราะว่า ผีปอบตนนี้ พอผีออก
> ไป แฟนเอ็งก็เหมือนร่างที่ไร้วิญญาณแล้วละ
>
> แล้วต้นเลยถามว่า ไม่มีวิธีช่วยเลยหรอครับ อาจารย์บอกว่า ไม่มีแล้วละ
> ทำใจซะเถอะ เกิดก็ต้องมีจาก
> มนุษย์ทุกคนเกิดมาต้องชดใช้กรรมทั้งนั้นละ
> เพื่อนผมเลยกอดแฟนมันแล้วร้องไห้แบบเด็กเลย ผมยังมานั่ง
> คิดเลยว่าถ้าเกิดขึ้นกับครบครัวผมหรือคนรู้จัก เราจะทำอย่างไงดี
> จากนั้นได้ประมาณ 4 วัน แฟนเพื่อน
> ผมก็เสียชีวิตลง ร.พ.ศิริราช ตรวจแล้วลงในบัตรมรณะว่า
> เครื่องในหยุดทำงานเฉียบพัน
>
> ขอแสดงความเสียใจกับ กับครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยครับ
>
> เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
> จำไว้ว่าพบเห็นสิ่งใดอย่าทักถึงบ้านหรืออะไรแล้วค่อยมาเล่าให้ฟัง ไม่
> งั้นอาจจะเป็นเหมือนเรื่องที่ต้นได้เล่าให้ฟังนะครับ
>

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ค้นหา