วันเสาร์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2554

ไฟตัดหมอก

Subject: ไฟตัดหมอก

ไฟตัดหมอก แฟชั่น...อันตราย!

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

เสียงบ่นจากผู้ขับขี่รถยนต์บนท้องถนนมีมากขึ้นเรื่อยๆ
เกี่ยวกับแสงไฟสว่างจ้าจนบางครั้งเกินความจำเป็น
ที่สาดส่องมาจากรถที่วิ่งอยู่บนถนนเส้นเดี

เสียงบ่นจากผู้ขับขี่รถยนต์บนท้องถนนมีมากขึ้นเรื่อยๆ
เกี่ยวกับแสงไฟสว่างจ้าจนบางครั้งเกินความจำเป็น
ที่สาดส่องมาจากรถที่วิ่งอยู่บนถนนเส้นเดียวกัน

ไฟตัดหมอก อุปกรณ์แต่งรถที่กำลังเป็นแฟชั่นระบาดไปทั่วทั้งรถเก๋ง
และรถปิกอัพ คือ ที่มาของแสงสว่างจ้าบนท้องถนนยามค่ำคืน

การเปิดไฟตัดหมอกอาจดูเท่ในสายตาเจ้าของรถ
แต่สำหรับผู้ขับขี่ที่โดนแสงไฟตัดหมอกที่เปิดในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม
สาดใส่แล้วละก็กลับกลายเป็นความทุกข์ที่ส่งผลต่อทัศนวิสัยในการมองเห็น
และต้องจำทนกับสภาพนี้โดยทำอะไรไม่ได้มากนอกจากขับหนี
หรือปล่อยให้แซงหน้าไป

จากการใช้งานในช่วงเวลาที่ผิดนี้เอง
อาจทำให้คุณประโยชน์ที่มีมหาศาลของไฟตัดหมอก กลายเป็นแค่สินค้าแฟชั่น
ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายและอุบัติเหตุแก่รถยนต์คันอื่นบนท้องถนนได้

ความจริงไฟตัดหมอกมีมานานแล้ว
แต่ในเมืองไทยยังไม่เป็นที่นิยมเพราะราคาแพงและไม่มีความจำเป็น
จึงมีให้เห็นเฉพาะกับรถนำเข้าจากเขตเมืองหนาวหรือเขตเมืองที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลมากๆ
เท่านั้น ต่อมาค่านิยมเริ่มเปลี่ยนไป
เพราะการติดไฟตัดหมอกถือว่าเท่และทันสมัย
ประกอบกับราคาที่ถูกลงจึงมีการหาซื้อมาดัดแปลงติดตั้งเพิ่มเติมกัน
แม้แต่รถที่ผลิตในเมืองไทยก็ยังนิยมติดไฟตัดหมอก

"ไฟตัดหมอก" ถือกำเนิดขึ้นมาในแถบประเทศที่มีภูมิประเทศเป็นภูเขาสูง
อากาศหนาว หรือประเทศที่เป็นเกาะล้อมรอบด้วยน้ำทำให้มีฝนตกบ่อยตลอดทั้งปี
มีบรรยากาศที่ขมุกขมัวหรือมีหมอกเป็นส่วนมาก ดังนั้น
เพื่อความปลอดภัยสูงสุดในการใช้ยานพาหนะจึงมีการคิดค้นไฟตัดหมอกขึ้นมา

ไฟตัดหมอกจะใช้ไฟที่ให้ความสว่างสูง ส่วนใหญ่หลอดจะเป็นสปอตไลท์
ส่องในระนาบขนานกับพื้นถนนหรือตกพื้นในระยะไกล
ดังนั้นความสว่างจึงมีมากและส่องได้ไกลกว่า โดยเฉพาะในยามที่ฝนตกหนัก
หรือหมอกลงจัด
หลอดไฟหน้าปกติถ้าเปิดส่องในขณะที่หมอกจัด
มุมที่เอียงลงต่ำทำให้เกิดมุมสะท้อนกลับสู่สายตาของผู้ขับขี่
จึงทำให้แสงที่ส่องผ่านไปมีน้อย หรือมองเห็นแค่ในระยะไม่เกิน 10 - 15
เมตร แถมแสบตากับแสงที่สะท้อนกลับ
แต่ไฟตัดหมอกที่ส่องแบบขนานพื้นจะไม่สะท้อนมาที่ห้องโดยสาร
เพราะสามารถทะลุทะลวงได้มาก และสะท้อนกลับมาในมุมที่ไม่กระทบผู้ขับขี่
ทำให้มองเห็นได้ในระยะมากกว่า 30 - 80 เมตร

ในทำนองเดียวกัน เมื่อพื้นถนนเปียกหรือฝนหยุดตกใหม่ๆ ในตอนกลางคืน
ไฟหน้าปกติที่ส่องลงผิวถนนจะถูกพื้นน้ำสะท้อนออกไปอีกมุมหนึ่ง
ซึ่งบางครั้งแทบจะมองไม่เห็นผิวถนนด้วยซ้ำ
แต่ไฟตัดหมอกที่แทบจะไม่ส่องลงพื้นถนนยังสามารถมองเห็นผิวถนนในระยะสายตาได้อย่างชัดเจน
ซึ่งในแถบประเทศเขตเมืองหนาวได้ออกกฎบังคับให้รถทุกคัน
ต้องมีไฟตัดหมอกเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

ปัจจุบันคนไทยนิยมตกแต่งรถด้วยไฟตัดหมอก และมักเปิดใช้อย่างพร่ำเพรื่อ
ผิดวิธี ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้เส้นทางรายอื่นๆ เพราะ
ไฟตัดหมอกเป็นไฟที่ให้ความสว่างสูง
ส่วนใหญ่หลอดจะเป็นสปอตไลท์จึงสามารถส่องสว่างไปได้ไกล
ซึ่งหากเปิดใช้ในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม
แสงจากหลอดไฟตัดหมอกจะไปแยงและรบกวนสายตาผู้ที่ขับรถสวนทางมาทำให้ตาพร่ามัว
จึงมีโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุได้สูงกว่าปกติ

การใช้ไฟตัดหมอกให้ถูกวิธี
จึงมีการรณรงค์กันอย่างต่อเนื่องจากทั้งทางภาครัฐ และเอกชน
โดยกรณีที่จำเป็นต้องเปิดไฟตัดหมอก ประกอบด้วย

1. ฝนตกปรอยๆ หรือตกหนัก ไฟตัดหมอกจะมีประโยชน์มาก
แม้จะเป็นช่วงกลางวันก็ตามเพราะมันสามารถช่วยให้รถที่สวนมามองเห็นไฟตัดหมอกอย่างชัดเจน

2. เมื่อขึ้นภูเขาสูงหรือยอดเขา
โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาวทั้งตอนเช้าและตอนกลางคืน เพราะที่สูงๆ นั้น
หมอกจะมีมากกว่าปกติ

3. ในช่วงกลางคืนหลังฝนหยุดตกหรือถนนยังเปียกอยู่
ซึ่งไฟตัดหมอกจะช่วยให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ดีขึ้น
เพราะไฟหน้าปกติถูกน้ำสะท้อนไปเกือบหมดแล้ว

4. ทุกกรณีที่มีหมอกหรือควันเกิดขึ้นบนท้องถนนที่บดบังทัศนวิสัยให้มองเห็นได้น้อยกว่า
50 เมตร

แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น
ควรปิดไฟตัดหมอกทันทีที่มีรถสวนมาในระยะที่มองเห็นไฟหน้าของรถที่สวนมาได้อย่างชัดเจน
แม้แต่รถที่มีระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติก็จะสั่งปิดไฟตัดหมอก
คงไว้เฉพาะไฟปกติเมื่อสัญญาณจับได้ว่ามีไฟสะท้อนมาในมุมตรงข้าม

การใช้ไฟตัดหมอกอย่างถูกวิธีจะก่อให้เกิดประโยชน์และช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน
และเสริมทัศนวิสัยของผู้ขับขี่ให้ดีขึ้น

ในทางตรงกันข้าม การเปิดไฟตัดหมอกอย่างพร่ำเพรื่อ ไม่มีมารยาท และผิดวิธี
นอกจากจะรบกวนสายตาและสร้างความรำคาญให้กับผู้ขับรถรายอื่นๆ
ที่ร่วมใช้เส้นทางแล้ว
ยังเพิ่มโอกาสทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายกว่าปกติอีกด้วย



"ปัจจุบันคนไทยนิยมตกแต่งรถด้วยไฟตัดหมอก และมักเปิดใช้อย่างพร่ำเพรื่อ
ผิดวิธี ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้เส้นทางรายอื่นๆ"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ค้นหา