วันพุธที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ตอบคำถามแบบพุทธ‏

Subject: FW: ตอบคำถามแบบพุทธ




คำสอนท่าน ว.วชิรเมธี จากรายการวู้ดดี้เกิดมาคุย ฉบับเต็ม (คำต่อคำ)


คำสอนท่าน ว.วชิรเมธี จากรายการวู้ดดี้เกิดมาคุย ฉบับเต็ม
ถอดแบบคำต่อคำ


วู้ดดี้ : มีหลายคนพูดว่าวู้ดดี้ไม่เหมาะสมที่จะสัมภาษณ์พระ ท่านมองว่าอย่างไรครับ
ท่าน ว.วชิรเมธี : ก็คงต้องย้อนกลับไปถามว่าคุณเอาอะไรมาวัดว่าคนอย่างวู้ดดี้ไม่เหมาะที่จะคุยกับพระ พระอาจารย์มองในเวลานี้ไม่มีใครเหมาะเท่าวู้ดดี้เลยนะ ถ้าวู้ดดี้ไม่มาสัมภาษณ์พระ เกิดมาคุยไม่สมบูรณ์แบบ

วู้ดดี้ : ก้าวร้าว พูดตรง ถามตรง มีความรุนแรงบ้างในวาจา ไม่เหมาะสมกับพระ
ท่าน ว.วชิรเมธี : พระอาจารย์คิดว่าพระไม่ได้หมายความว่าต้องเรียบร้อยแบบผ้าพับไว้ เราไปดูที่เนื้อหาสาระได้มั้ย หลายครั้งที่พระอาจารย์เปิดไปเจอวู้ดดี้สัมภาษณ์ บางทีบางตอนดีกว่าพระบางรูปเทศน์ เพราะฉะนั้นถ้าเราก้าวข้ามรูปลักษณ์ภายนอก เจาะไปที่เนื้อหาสาระก็ไม่มีปัญหาที่วู้ดดี้จะคุยกับพระไม่ได้

วู้ดดี้ : งั้นในวันนี้ผมสามารถที่จะถามพระอาจารย์ได้ทุกเรื่อง
ท่าน ว.วชิรเมธี : ก็แล้วแต่จะถาม แต่พระอาจารย์จะตอบทุกเรื่องหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

วู้ดดี้ : พระอาจารย์บวชตั้งแต่อายุยังน้อย เป็นเณรอายุ 12
ท่าน ว.วชิรเมธี : 13
วู้ดดี้ : แล้วเป็นพระมาตลอดชีวิต ทุกวันนี้ที่ผ่านมาท่านจะเทศน์เรื่องของแฟน เรื่องของชีวิต การมีกิ๊ก การไม่มีกิ๊ก แต่ท่านไม่ได้คุ้นเคยกับทางโลกเลย ท่านสามารถที่จะเข้าใจโลกและเทศน์กลับไปสู่โลกได้อย่างไรในเมื่อท่านอยู่กับวัดตลอดเวลา

ท่าน ว.วชิรเมธี : เอางี้ วู้ดดี้เคยเห็นคนที่ติดยาเสพติดมั้ย
วู้ดดี้ : เคยเห็นครับ
ท่าน ว.วชิรเมธี : แล้วคุณรู้ได้อย่างไรว่าคนติดยาเสพติดมันอันตรายมาก คุณไม่เคยลองสักนิดนึง
วู้ดดี้ : ก็เห็นผลมัน เห็นว่าเขาไม่ไปโรงเรียน สุดท้ายเขาต้องเข้าโรงพยาบาลและตาย
ท่าน ว.วชิรเมธี : ก็นั่นไง พระอาจารย์ก็ไม่จำเป็นต้องไปลองมีกิ๊ก พระอาจารย์ก็เห็นผลของมันเหมือนกัน พระอาจารย์ก็อนุมานเอาได้

วู้ดดี้ : แต่พระอาจารย์อยู่ในวัด พระอาจารย์ไม่ได้ไปใช้ชีวิตอยู่กับเขา
ท่าน ว.วชิรเมธี : พระอาจารย์อยู่ในวัด แต่ไม่ได้หมายความว่าพระอาจารย์ถูกปิดหูปิดตา ตรงกันข้ามอยู่ในวัดบางทีรู้ดีกว่าชาวโลกด้วยซ้ำไป เพราะชาวโลกเปรียบเสมือนนักมวยที่อยู่บนเวที คุณชกสะเปะสะปะ คุณถูกต่อย คุณถูกน็อก คุณมึนไปหมด คนอยู่ข้างเวทีเห็นชัดที่สุดว่าคุณชกยังไง พระไม่จำเป็นต้องไปตะลุมบอนกับกิเลสเหมือนคุณหรอก แต่พระอยู่ข้างเวที พระรู้ว่ากิเสลมันร้ายแค่ไหน
จากคุณ
: autumn whispers

เขียนเมื่อ
: 6 ต.ค. 52 08:21:43

ถูกใจ
: สายน้ำหนาว, armearn, Vip_Lek, HK-G36C, tiara, ถ้าใจเราจะยิ้มได้ทุกวัน, The Gargoyle, tete-a-tete, grinny2545, ถ้วยน้ำชาสีฟ้าม่วง, aomam_jung, b39kew, Noo_moon, I'm wu, เรื่องมหัศจรรย์, Hidden white dragon, pan-pan, skysealands, ซิ้มซิ่ง, ชื่อไม่มีปัญหา, เด็กใต้หน้าหมวย, อัศเจรีย์, รักแท้ไม่มีในโลก, daonyx, พฤหัส, Arora, อยู่คนเดียวเปล่าเปลี่ยวใจ, ผีฟรีคิก, ดอกสวะ, SilverAria, นางฟ้าซามูไร, เม่นน้อยลอยลม, กังป๋วย, kansiree, Nick, hey_happy, ขอเอี่ยวด้วยคนน่ะ, ศรานรา, indian walnut, GMX, แก้มห้อย, aze_entaneer, nazi ayam, seeyoulater, คาการิ, <<~Seven~Days~Ago~>>, ปองดาว, รัตติกัลยา, moshita, forcy 5740, นิลศุก, ร่มไม้ชายน้ำ, Nymph~*, มังกรอ้วน, เพลงพันทาง, จ๊ะจ๋าหน่อยนะจ๊ะ, thippy56_, Claymore, ผู้บ่าวกินแมว, ซอสมะเขือเทศ-โซดา, Cheriez, keangie, ponnini, hiyono, allegrox7, angpang, visualizer, nuncharee, คุณเชื่อในพรหมลิขิตไหม?, จันทราส่องแสง, ตุ๊กตาขาวีน, iCeBuB, ก้าวไปตามใจฝัน, NLaT, ผักบุ้งไฟแรง, punnapar, s.o.s, huntress, ระริก~ระริก~, ~ที่ผ่านมาเรียกว่าอะไร~, windy139, ฉะฉาน



--------------------------------------------------------------------------------

bookmark
เก็บเข้าคลังกระทู้
ส่งต่อกระทู้
พิมพ์
หน้าหลัก
กระทู้ก่อนหน้า
กระทู้ถัดไป





















--------------------------------------------------------------------------------


ความคิดเห็นที่ 1


วู้ดดี้ : งั้นมีกิ๊กผิดมั้ยครับถ้าเต็มใจทั้งคู่
ท่าน ว.วชิรเมธี : เต็มใจทั้งคู่ กิ๊กไม่ใช่ชู้ แต่ถ้าแฟนรู้ต้องเลิกใช่มั้ย นี่นิยามของกิ๊ก

วู้ดดี้ : แต่ถ้าแฟนไม่รู้และทั้งคู่เต็มใจที่จะเป็นกิ๊กกัน
ท่าน ว.วชิรเมธี : ถ้าไม่มีอะไรผิดปกติในระบบความสัมพันธ์แบบนี้ทำไมคุณต้องเลิก คุณก็คบกันต่อไปสิ

วู้ดดี้ : ก็คงรู้สึกผิดไงฮะ
ท่าน ว.วชิรเมธี : ก็นั่นแหละ ถ้ามันรู้สึกผิดก็แสดงว่ามันชอบธรรมมั้ยล่ะ
วู้ดดี้ : ไม่
ท่าน ว.วชิรเมธี : ก็มันไม่ชอบธรรม คำตอบมันอยู่ในตัวอยู่แล้วว่ามันไม่ดี

วู้ดดี้ : งั้นสำหรับผู้ชายบางคนมีภรรยาสองสามคน แล้วภรรยาอยู่บ้านหลังเดียวกัน กินนอนด้วยกันได้ โอเคไม่มีปัญหา เมียคนที่หนึ่งคนที่สองคนที่สามยอมรับซึ่งกันและกัน อย่างนี้ครอบครัวนี้ก็ไม่ถือว่าเป็นการทำบาป
ท่าน ว.วชิรเมธี : กิ๊กหมายถึงความสัมพันธ์ที่ละเมิดจริยธรรมทางเพศ แต่ที่คุณโยมวู้ดดี้เล่ามาน่ะ เขารู้เห็นเป็นใจกันทั้งหมดใช่มั้ย ถูกต้องตามกฎหมายทั้งหมดใช่มั้ย
วู้ดดี้ : ไม่ถูกต้องตามกฎหมายเพราะไม่มีกฎหมายรองรับ
ท่าน ว.วชิรเมธี : แต่เขาบริหารจัดการได้มั้ยล่ะ
วู้ดดี้ : ได้ครับ
ท่าน ว.วชิรเมธี : แล้วภรรยาทั้งสามคนเขายอมรับได้มั้ยล่ะ
วู้ดดี้ : ยอมรับหมดครับ
ท่าน ว.วชิรเมธี : ก็ถ้ารับได้หมดก็ไม่เป็นปัญหา

วู้ดดี้ : ท่าน ว. ตั้งแต่โตขึ้นมาผมสังเกตว่าคนมักจะชวนผมเข้าวัด ไปทำบุญกันเถอะ ไปนั่งสมาธิในวัด ไปไหว้พระแล้วคุณจะมีความสุข แต่ผมเห็นหลายคนเขาไปเพราะเขามีความทุกข์เรื่องเพื่อน เรื่องงาน เรื่องแฟน ชีวิตเป็นทุกข์เลยต้องเข้าไปในวัด แต่ผมเอง ผมมีความรู้สึกว่าผมไม่มีตรงนั้น ผมไม่ได้มีความต้องการที่จะไปไหว้พระ ไม่มีความต้องการที่จะไปเข้าวัด ถามว่าแล้วสุดท้ายวู้ดดี้จะต้องเข้าวัดทำไมล่ะครับพระอาจารย์
ท่าน ว.วชิรเมธี : จริงๆ วัดก็ไม่เคยเรียกร้องให้ใครมาเข้านะ พระอาจารย์ก็ไม่เคยเห็นพระพุทธเจ้าบอกว่ามาเข้าวัดกันเถอะ พระพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมะแล้วพระองค์ก็เดินไป ใครอยากฟังธรรมก็มาฟังเท่านั้นเอง ก็มีแต่เราคนไทยนี่แหละที่บอกว่าเข้าวัดๆๆ
จากคุณ
: autumn whispers

เขียนเมื่อ
: 6 ต.ค. 52 08:22:10

ถูกใจ
: Nymph~*, ท่านหญิงแอนนาเบล, thippy56_, nuncharee, NLaT, punnapar, s.o.s




















ความคิดเห็นที่ 2


วู้ดดี้ : ต้องไปไหว้วัดนี้อยู่บนภูเขา วัดนี้ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ต้องบินไปถึงเชียงใหม่ ต้องมาเชียงราย ต้องลงมาภาคใต้ ต้องวัดนี้ โห...สุดยอดมาก อยู่ใต้น้ำ พระธาตุนี้ศักดิ์สิทธิ์มาก คนก็ต้องบินไป แล้วบางทีเราก็คล้อยตามไปด้วย อ๋อเหรอ ถ้าไหว้พระวัดนี้ที่องศาแบบนี้ ไหว้ทิศอย่างนี้แล้วกราบอย่างนี้ คุณจะมีบุญมากกว่าทุกคนในประเทศชาตินี้ จริงหรือเปล่า
ท่าน ว.วชิรเมธี : พระอาจารย์ฟังดูมันยิ่งไม่ใช่ไหว้พระตามแนวพุทธเลยนะ เพราะว่าไหว้พระตามแนวพุทธมันไหว้ที่ใจ ฉุดเข้าวัดนี่ประเสริฐมั้ยล่ะ
วู้ดดี้ : ครับ
ท่าน ว.วชิรเมธี : เพราะฉะนั้นโชคดีขนาดไหนที่มีคนชวนคุณเข้าวัดมาตลอดเวลา คนที่โชคร้ายก็คือ ไป...คืนนี้ไปผับมั้ย คืนนี้ไปอาร์ซีเอมั้ย


วู้ดดี้ : แต่ถ้าไปแล้วไม่ดื่มเหล้าล่ะพระอาจารย์ ไปแล้วมันเต้นแล้วมีความสุข ผมก็มีความสุข มันร้องเพลงไปด้วย แล้วมันได้ปลดปล่อย นั่นมันคือความสุข มันไม่ใช่ความทุกข์ไม่ใช่เหรอพระอาจารย์
ท่าน ว.วชิรเมธี : พระอาจารย์อยากจะบอกว่านั่นเป็นความทุกข์ที่รอเวลาอยู่
วู้ดดี้ : ยังไงครับ
ท่าน ว.วชิรเมธี : ผลไม้ทุกผลมีโอกาสที่จะหล่นมั้ย
วู้ดดี้ : มีครับ
ท่าน ว.วชิรเมธี : คนทุกคนก็เหมือนผลไม้ ขณะที่มันมีความสุขก็มีความทุกข์แฝงอยู่ในนั้นตลอดเวลา แต่ถ้าคนที่ไม่เคยเข้าวัดไม่เคยเรียนธรรมะเลยนะ วันนี้คุณจะสุข พรุ่งนี้คุณจะทุกข์ ชีวิตคุณจะสุขๆ ทุกข์ๆ กระเด็นกระดอน

วู้ดดี้ : เพราะมีอบายมุขล้อมรอบเหรอ
ท่าน ว.วชิรเมธี : คุณมีโอกาสที่จะทุกข์ได้ตลอดเวลา วันนี้ทุกข์ยังไม่มาถึงแต่ไม่ได้หมายความว่ามันไม่มา ทุกข์ไม่ได้เกิดจากข้างนอก ทุกข์เกิดจากในนี้ เมื่อเรามีความเห็นผิด คิดชั่ว พูดชั่ว ทำชั่ว ทุกข์อยู่ตรงนั้น นรกก็อยู่ตรงนั้น
จากคุณ
: autumn whispers

เขียนเมื่อ
: 6 ต.ค. 52 08:22:42

ถูกใจ
: Nymph~*, thippy56_, Dr.modx, nuncharee, NLaT, punnapar, s.o.s




















ความคิดเห็นที่ 3


ตอนนี้ผมยังไม่ค่อยเข้าใจเรื่องที่ท่านพูดสักเท่าไหร่นัก ทำไมคนเรามีความสุขแล้วต้องมีทุกข์รออยู่ คิดแบบนั้นก็ไม่ต้องมีกันพอดีสิครับ ผมชักจะหวั่นไหวแล้วล่ะครับว่าวันนี้ผมจะได้อะไรกลับไปหรือเปล่า

เมื่อวู้ดดี้เดินเข้ามาที่ศูนย์วิปัสสนาอาศรมอิสรชน จ.เชียงราย ผมแปลกใจเลยล่ะครับ เพราะจะมีป้ายติดตามต้นไม้เต็มไปหมด ท่าน ว.วชิรเมธีบอกผมว่า เหล่านี้คือต้นไม้พูดได้

วู้ดดี้ : พึงชนะคนชั่วด้วยความดี มีให้อ่านทุกต้น
ท่าน ว.วชิรเมธี : มี คุณโยมเดินไป คุณโยมจะเห็นทุกหนทุกแห่ง อาตมามีความรู้สึกว่าเวลาเดินมาถ้าพระอาจารย์ไม่อยู่ ต้นไม้เทศน์แทนก็ได้
วู้ดดี้ : ผมกลัวมากว่าที่แห่งนี้ห้ามฆ่าสัตว์ แต่มดมันเยอะมาก ถ้าผมเหยียบมดตายผมจะตกนรกมั้ยครับ
ท่าน ว.วชิรเมธี : เจตนาจะเหยียบมีมั้ยล่ะ
วู้ดดี้ : ไม่มี
ท่าน ว.วชิรเมธี : ก็ไม่บาปก็แค่นั้นเอง วัดกันที่เจตนา กรรมไม่มี บาปไม่มีแก่ผู้ไม่เจตนาแค่นั้นเอง
วู้ดดี้ : ขับรถบนไฮเวย์เหยียบ 180 เพราะจะรีบไปหาภรรยาที่กำลังคลอดลูก แต่ดันไปชนคนแก่ตาย ไม่มีเจตนา บาปมั้ยครับ
ท่าน ว.วชิรเมธี : ก็เป็นแค่กิริยาไม่ถือเป็นกรรม แต่อย่าทำบ่อยๆ
วู้ดดี้ : โอเค อันนั้นผมแค่ยกตัวอย่างมันไม่เกี่ยวกับผมนะครับพระอาจารย์
ท่าน ว.วชิรเมธี : เจริญพร


รายการของผมจะเสนอประเด็นหนึ่งอยู่บ่อยๆ ล่ะครับ ผมก็เลยอยากจะรู้ว่าท่าน ว. คิดยังไง
วู้ดดี้ : พระอาจารย์เคยดูหมอดูมั้ยครับ
ท่าน ว.วชิรเมธี : ไม่จำเป็น พระอาจารย์คิดว่าคนที่รู้จักตัวเองไม่มีใครไปหาหมอดู
วู้ดดี้ : พระอาจารย์เชื่อเรื่องหมอดูมั้ยครับ
ท่าน ว.วชิรเมธี : ไม่เชื่อ พระอาจารย์เชื่อกฎแห่งกรรม กฎแห่งการกระทำ กฎที่บอกว่าชีวิตของเราจะเป็นอะไร ยังไง ขึ้นอยู่กับเรา ดีชั่วอยู่ที่ตัวเรา สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว

วู้ดดี้ : แต่บางทีที่หมอดูแม่นมาก พระอาจารย์ จนบางทีทำให้เราหวั่นไหว โอ้โห...มันเป๊ะว่ะ เราจะเอาชนะตรงนี้ได้ยังไง
ท่าน ว.วชิรเมธี : มันก็แล้วแต่เรานะ ถ้าคุณเลือกที่จะเชื่อ หมอดูก็จะมีอิทธิพลกับคุณ ถ้าคุณเลือกที่จะไม่เชื่อ หมอดูก็จะไม่มีอิทธิพลกับคุณ เพราะฉะนั้นมันไม่เป็นปัญหา มันอยู่ที่เรานะ แต่พระอาจารย์พูดอย่างนี้ไม่ได้หมายความว่าพระอาจารย์รังเกียจหมอดู หมอดูก็เป็นศาสตร์แขนงหนึ่ง อาจจะเรียกว่าเป็นสถิติศาสตร์เพราะว่ากว่าที่จะประมวลองค์ความรู้ ประมวลเหตุการณ์ต่างๆ แล้วมาฟันธงให้ใครมันมีที่มาที่ไป พระอาจารย์ก็เคยเรียนวิชานี้ แต่พระอาจารย์ไม่ได้ใช้เท่านั้นเอง

ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่ว่าหมอดูทายแม่นหรือไม่แม่นนะ ปัญหามันอยู่ที่หมอดูไปทายให้คนที่เต็มใจให้ทายหรือเปล่า ถ้าเขาเต็มใจให้ทาย คุณทายไปเหอะ แต่ถ้าเขาไม่อยากให้คุณดูแล้วคุณดัดจริตไปดูให้เขา คุณละเมิดสิทธิมนุษยชนนะรู้มั้ย
จากคุณ
: autumn whispers

เขียนเมื่อ
: 6 ต.ค. 52 08:23:25

ถูกใจ
: forcy 5740, Nymph~*, thippy56_, nuncharee, NLaT, punnapar, s.o.s, Cho2Cho




















ความคิดเห็นที่ 4


วู้ดดี้ : นี่พระอาจารย์ไม่ได้แขวะใครใช่มั้ยครับ
ท่าน ว.วชิรเมธี : ไม่ได้แขวะเลย พระอาจารย์ไม่ได้พูดถึงใครเลยในประโยคนี้ เป็นประโยคที่ไม่มีประธานไม่มีกรรมมีแต่กิริยาล้วนๆ
วู้ดดี้ : 5555555555

วู้ดดี้ : การห้อยพระเลยดีกว่าฮะ เขาสามารถที่จะทำให้ตัวเขาเองพ้นจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ทางอากาศ ทางน้ำได้หมด ต้องหลวงพ่อนี่ หลวงพ่อนั่น คือเต็มไปหมดเลย อันนี้มันจริงมั้ย
ท่าน ว.วชิรเมธี : ก็ถ้ามันจริงอย่างนั้น กฎแห่งกรรมพระพุทธเจ้าก็เป็นหมันน่ะสิ แสดงว่าการห้อยพระไปง้างกฎแห่งกรรม มันมีกฎอีกกฎหนึ่งที่เหนือกฎแห่งกรรมนะเนี่ย คือการห้อยพระแล้วมันไม่เป็นอะไรเลย ถ้ามันจริง ประเทศไทยผลิตพระยี่ห้อนี้ส่งออกนอก แล้วส่งคนไทยไปสงครามโลกเลยนะ เราจะเป็นมหาอำนาจโลก เพราะอะไรทำอะไรเราไม่ได้เลย ไม่ต้องไปวิจัยวิจารณ์อะไรแล้ว เอาพระรุ่นนี้ไป รับรองนะ

วู้ดดี้ : มันบาปมั้ยสำหรับคนทำธุรกิจตรงนี้ คือพิมพ์พระเยอะๆ แล้วก็ต้นทุนอาจจะซัก 5 บาทแต่อัพราคาเป็นค่าเช่ารูปละ 1,500 แล้วก็ได้กำไรเป็นล้าน สุดท้ายเขาช่วยคนไทยจริงมั้ยฮะ
ท่าน ว.วชิรเมธี : บาปไม่บาปมันวัดกันที่เจตนา คุณห้อยพระ คุณปั๊มพระให้คนบูชา คุณอยู่กับพระนะ แต่บางทีคุณอาจจะไม่ได้อยู่กับพุทธ ถามว่ามันทำแล้วดีหรือไม่ดีให้วัดที่เจตนา ถ้าเขามีเจตนาว่าอยากให้พระที่เขาปั๊มออกมาเยอะๆ เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน เป็นสัญลักษณ์ของความมีศีลมีธรรมนี้ไม่บาป
แต่ถ้าเขาคิดแต่ว่าที่ฉันปั๊มออกมารุ่นนี้แล้วฉันจะรวยเป็นร้อยล้านเป็นพันล้าน เขากำลังทำธุรกิจพุทธพาณิชย์ 100% น่าเป็นอย่างนี้ไม่ได้บุญ


วู้ดดี้ : มาพูดถึงเรื่องนี้ดีกว่าครับพระอาจารย์ เรื่องของกรรม ช่วงนี้จะมีคนพูดถึงเยอะมาก แปลกนะทำไมมันกลายเป็น trend เมื่อปีที่ผ่านมา แก้กรรม จนกระทั่งศาสนาพุทธเองหลายๆ วัดผมก็ยังเห็น อ้าว...มาที่วัดนี้แล้วเราจะมาแก้กรรมได้ ชาติที่แล้วคุณมีกรรม ชาตินี้คุณจะต้องแก้แล้วชาติหน้าคุณจะได้ดีขึ้น ถามนะครับว่าตกลงมันจริงมั้ย การแก้กรรมด้วยการตัดกรรม
ท่าน ว.วชิรเมธี : คนไทยนี่ชอบแก้กรรม ก็ทำเหมือนว่าเรากำลังถูกมัดเอาไว้ก็เลยต้องมาแก้ หรือบางทีก็ต้องทำพิธีตัดกรรม ก็เหมือนกันว่ากรรมมันเป็นผ้าผืนหนึ่งหรือยังไง เป็นเชือกเส้นหนึ่งหรือยังไง กรรมก็คือตัวความคิดของเรานั่นเอง ฉะนั้นมันง่ายนิดเดียวนะถ้าจะตัดกรรมก็เปลี่ยนความคิด

วู้ดดี้ : แล้วมันมีกรรมจริงมั้ยครับ โลกใบนี้ มันมีเวรมันมีกรรมมั้ย ถามจริงๆว่ามันมีชาติที่แล้ว ชาตินี้ ชาติหน้า มันมีจริงมั้ย
ท่าน ว.วชิรเมธี : คือตามหลักพุทธมันมี
วู้ดดี้ : แต่มันพิสูจน์ไม่ได้น่ะพระอาจารย์
ท่าน ว.วชิรเมธี : แล้วมันจะเสียหายตรงไหนถ้ามันพิสูจน์ไม่ได้
วู้ดดี้ : วู้ดดี้มีความรู้สึกว่าเวลาคนเราตาย มันก็แค่กลายเป็นผงธุลี แล้วมันก็ลงไปฝังในดินหรือเป็นขี้เถ้า มันจะไปชาติหน้าได้จริงเหรอ มันมีจริงเหรอ
ท่าน ว.วชิรเมธี : มี หลายสิ่งหลายอย่างที่เราเอาเข้าห้องแล๊ปไม่ได้นะ มันก็มีจริงๆ ฉะนั้นเราอย่าไปคิดว่าความจริงมันต้องเป็นความจริงที่พิสูจน์ได้เท่านั้น อย่างความรักก็ดี ความโลภก็ดี ความโกรธก็ดี ความหลงก็ดี อิจฉาตาร้อนก็ดี เอาเข้าห้องแล็ปได้มั้ย
วู้ดดี้ : ไม่ได้
ท่าน ว.วชิรเมธี : แล้วมันมีมั้ย ความรักมีมั้ย ความโลภน่ะมีมั้ย กามารมณ์น่ะมีมั้ย
วู้ดดี้ : เยอะ
ท่าน ว.วชิรเมธี : เอาไปพิสูจน์ได้มั้ยของพวกนี้
วู้ดดี้ : ไม่ได้
ท่าน ว.วชิรเมธี : นั่นสิ แต่มันมี เพราะฉะนั้นชาติหน้าเราก็ไม่ต้องไปคิดว่าพิสูจน์ยังไง พิสูจน์ไม่ได้แล้วมันจะมียังไง

วู้ดดี้ : อาจารย์ไม่เคยเห็นใช่มั้ยฮะ
ท่าน ว.วชิรเมธี : ของพวกนี้เขาไม่เห็นด้วยตา ต้องเห็นด้วยปัญญาสิ ใช่มั้ยล่ะ เพราะฉะนั้นเรื่องพวกนี้คุณจะสงสัยก็ได้ไม่ได้ทำให้พุทธศาสนาสูงขึ้นหรือต่ำลง สิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่โลกหน้ามีหรือไม่มีนะ มันอยู่ที่ว่าโลกนี้มันมีแล้วคุณใช้ชีวิตในโลกนี้ยังไง
จากคุณ
: autumn whispers

เขียนเมื่อ
: 6 ต.ค. 52 08:24:16

ถูกใจ
: Nymph~*, thippy56_, nuncharee, NLaT, punnapar, s.o.s




















ความคิดเห็นที่ 5


เป็นครั้งแรกน่ะครับที่แขกรับเชิญทำให้ผมอึ้ง เพราะหลายเรื่องที่ผมถามคำถามยากๆ ท่านก็ตอบออกมาได้ง่ายๆ เสียเหลือเกิน แต่ผมก็ยังไม่ได้เห็นด้วยกับท่านทั้งหมดนะครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องชาตินี้ชาติหน้าและอีกหลายเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้ ผมอดคิดไม่ได้นะครับว่ายังไงธรรมะก็ยังเป็นเรื่องที่ห่างไกลจะตัวผมอยู่ดี

ยังมีอีกหลายเรื่องที่ผมสงสัย พุทธศาสนิกชนก็ต้องทำใจหน่อยนะครับ เพราะคำถามที่ผมจะถามนี้อาจทำผมกำลังจะท้าทายท่าน
วู้ดดี้ : ขอพูดถึงพุทธพาณิชย์หน่อยดีกว่า ท่านเคยได้ยินมั้ยฮะ ถ้าบางคนจะบอกว่าพระเดี๋ยวนี้จะเริ่มค้าขายกันมากขึ้น ออกตามทีวี ออกตามรายการต่างๆ ขายหนังสืออะไรมากมาย ท่านเองก็เป็นหนึ่งในนั้น
ท่าน ว.วชิรเมธี : มันจะเป็นพุทธพาณิชย์หรือไม่ มันไปวัดที่เจตนาสิ ถ้าพระอาจารย์เขียนหนังสือขาย มีเงินมีทองร่ำรวยมหาศาลแล้วก็ทำตัวเป็นหลวงเสี่ย พระอาจารย์กำลังทำพุทธพาณิชย์ แต่การเทศน์แต่ละครั้งฟังได้แค่คนเดียวเหมือนวู้ดดี้มาคุยกับพระอาจารย์ที่เชียงราย ถ้าเราถอดบทสนทนานี้พิมพ์เป็นหนังสืออ่านกันทั่วโลกทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ภาษาอะไรก็ได้ คนเปิดหูเปิดตาและเรียนรู้ธรรมะ พระอาจารย์ไม่ได้คิดถึงเงินที่จะได้ คิดถึงแต่ประโยชน์ที่จะได้แก่ชาวโลก อย่างนี้เรียกว่าพาณิชย์ได้มั้ย ไม่ได้ เพราะฉะนั้นจะเป็นพุทธพาณิชย์ก็ต่อเมื่อเรามุ่งไปที่กำไรคือเม็ดเงิน แต่ถ้าเรามุ่งไปที่กำไรคือสติปัญญา คือความเฉลียวฉลาด คือความรู้ คือความหายโง่งมงาย ไม่มีทางเป็นพุทธพาณิชย์

วู้ดดี้ : แล้วส่วนใหญ่กำไรที่ได้จากการตีพิมพ์อะไรต่างๆ หรือว่ากับหลายๆ อย่างที่เราทำ ท่านเอาเงินนั้นไปบริจาคต่อยังไง หรือว่าเอาไปใช้ลงทุนต่อยังไง
ท่าน ว.วชิรเมธี : พระอาจารย์ใช้เป็นทุนการศึกษาทั้งหมด ไม่เชื่อไปดูได้เลย พระอาจารย์สร้างโรงเรียนให้สามเณรที่วัดบ้านเกิดของพระอาจารย์ มีนักเรียนที่รับทุนจากพระอาจารย์ตั้งแต่ต้นจนถึงทุกวันนี้นะ ทั้งพระทั้งเด็กทั้งเยาวชนเป็นพันคน


วู้ดดี้ : อย่างนึงที่ค้างคาใจก็คือเรื่องของเรต เอางี้ดีกว่ามีคนบอกว่าพระเดี๋ยวนี้ออกตามรายการต่างๆหรือว่าจะนิมนต์ไปไหนต่อไหน ไปสถานที่บางสถานที่ที่พิเศษจะต้องมีเรต เป็นแสนบ้าง เป็นล้านบ้าง วันนี้ผมมาเองยังถามทีมงานเลยว่าคุยกับท่าน ว.วชิรเมธีกี่บาท จริงมั้ยฮะว่ามันเป็นล้านๆ เลยหรือมันยังไง
ท่าน ว.วชิรเมธี : พระอาจารย์คิดว่าคนคิดอย่างนี้ต่ำนะ ไม่ใช่ว่าเรตมันต่ำ คือพระอาจารย์คิดว่า เขาคิดว่าพระเป็นดารา


วู้ดดี้ : ท่านมีสังกัดมั้ยครับ
ท่าน ว.วชิรเมธี : ไม่มี วันก่อนมีคนโทรศัพท์มาหาพระอาจารย์ ขอโทษนะครับต้องขออนุญาต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ค้นหา