วันอังคารที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2554

พ่อครับขอยืมตังค์หน่อย‏

"พ่อครับ ขอยืมตังค์หน่อย"

เสร็จจากงานถึงบ้าน เกือบสามทุ่มเข้าไปแล้ว เขาเดินเข้าบ้าน ที่ดูเงียบเหงา
เนื่องจากภรรยาเสียชีวิตไปเมื่อปีกลาย ทิ้งลูกชายคนเดียวไว้ กับเขาให้หาเลี้ยงลูกตามลำพัง
ดีว่าเจ้าหนูน้อยพอจะช่วยตัวเองได้บ้าง อาหารก็กิน อาหารปิ่นโต ที่ผูกประจำ หากินเองได้

ทำให้ไม่เป็นภาระมากมายนัก

เข้ามาในบ้าน เหงื่ออาบแก้ม ยังไม่ทันได้พัก ผู้เป็นพ่อเห็นหน้าลูกชายวัยซน

ที่รอรับหน้า เอ่ยปากทัก

"พ่อครับ วันนี้ทำงานเหนื่อยมั้ยครับ"

"เหนื่อยสิลูก แล้ววันนี้ทำการบ้านเสร็จแล้วเหรอ"

ผู้เป็นพ่อตอบเนือยๆ พร้อมกับถาม ต่อด้วยความเคยชิน

"เสร็จหมดแล้วครับ คือ ผมมีเรื่องบางอย่างอยากจะถามพ่อน่ะ พ่อว่างหรือยังครับ"
ลูกชาย ตัวน้อย ถามต่อ

"เดี๋ยวพ่อจะไปอาบน้ำ หาข้าวกินข้าวซักหน่อย แล้วคงจะเข้านอน

วันนี้เหนื่อยเหลือเกิน

ว่าแต่แกจะถามอะไรพ่อเหรอ"

ผู้เป็นพ่อ ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนล้า

"คือผมอยากรู้ ว่า พ่อทำงานได้ ค่าจ้างวันละเท่าไร ครับ"

ลูกชายถามด้วยน้ำเสียงใสซื่อ

หันมามองหน้าลูกชาย พร้อมกับขมวดคิ้วด้วยความสงสัย แล้วผู้เป็นพ่อ แต่ก็ตอบไปว่า

" วันล่ะ สี่ร้อย"

"งั้นผม ขอยืม ตังค์ พ่อ ซักสองร้อยได้มั้ยครับ "

ลูกชาย ตัวน้อย เอ่ยปากด้วยสายตาวิงวอน

"หา แกว่าไง นะ"

ผู้เป็นพ่อ ขึ้นเสียงด้วยอารมณ์ ก่อนที่จะหันมา พูดกับลูกชายด้วยเสียงเข้มขึ้นกว่าเดิม

"นี่ฟังนะ แกคิดว่าเงินทอง หาได้ง่ายๆเหรอ กว่าพ่อจะได้เงินสี่ร้อยบาท

ต้องทำงานเหนื่อยตั้งแต่เช้ายันค่ำ แต่พอกลับมาถึงบ้าน

เจอแก รอขอยืมเงินพ่อง่ายๆแบบนี้นี่นะ

แกลองไปคิดดูให้ดีสิ ว่า แกทำประโยชน์อะไรให้พ่อบ้าง

พ่อถึงจะต้องให้เงินสองร้อยนี่ให้แกยืม"

เด็กชายยืนนิ่ง มองหน้าพ่อ ไม่มีเสียงหลุดออกจากปาก

แต่น้ำตาไหลซึมลงอาบร่องแก้มทั้งสองข้าง

ก่อนที่จะหันหลังเดินกลับห้องตัวเอง อย่างซึมเซา


หลังจากอาบน้ำเสร็จ แวะเข้าครัว หาข้าวปลากินเรียบร้อย เขาหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบเดินไปที่ระเบียง
ความรู้สึกเคร่งเครียดที่ได้รับมาจากงานนอกบ้านเริ่มผ่อนคลาย

คิดไปถึงอดีตที่ผ่านและงานที่ทำมาทั้งวัน

แล้วก็ย้อนกลับคิดไปถึงลูกชายตัวน้อย

ลูกเป็นเด็กดี ไม่เคยเกเร ไม่เคยเอ่ยปากขอเงินเพิ่ม

นอกจากเงินค่าขนมที่เขาให้ประจำวันเท่านั้น

แต่วันนี้ทำไมถึงเอ่ยปากยืมเงิน

เมื่อสักครู่ เขาเหนื่อยเกินไป หรือ เครียดเกินไปหรือป่าว

ถึงได้ใช้อารมณ์กับลูกไปอย่างนั้น

เมื่อได้คิด เขาดับบุหรี่ แล้วเดินไปที่ห้องลูกชายไฟในห้องนอนดับแล้ว

เมื่อเปิดประตูเข้าไป เอื้อมมือเปิดไฟในห้อง หนูน้อยนอนตะแคงหน้า

ตายังคงลืมจ้องมองมาที่ประตู แก้มที่แนบกับหมอน ชุ่มด้วยน้ำตา

พร้อมเสียงสะอื้นเบาๆ อยู่คนเดียว

เขาเดินไปนั่งที่ขอบเตียงมือลูบผม ลูกชายเบาๆ

พร้อมกับเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเครือ จุกคอ

"พ่อขอโทษ นะลูก เมื่อกี้พ่อเหนื่อยมามากเลยใช้อารมณ์ กับลูกมากไปหน่อย

จริงๆ ตะกี้พ่อไม่ได้ถามลูกด้วยซ้ำว่า ลูกอยากยืมเงินพ่อไปทำไม

ลูกอาจจะมีเหตุจำเป็นที่จะต้องใช้เงินก็ได้

เงินแม้ว่าจะหาได้ลำบาก ไม่ได้ได้มาง่ายๆ

แต่ถ้าลูกมีเหตุผลเพียงพอ พ่อจะให้ยืม

เพราะว่า ลูกน่ะสำคัญสำหรับพ่อเหนือ สิ่งอื่นใด และพ่อรักลูกจ้ะ"

"ว่าแต่ ไหนลูกลองบอกพ่อสิว่า ลูกอยากยืมเงินสองร้อยไปทำอะไร"

ผู้เป็นพ่อถามลูกชายที่มองหน้าพ่อนิ่ง

ด้วยน้ำเสียงปราณี เต็มเปี่ยมด้วยความรัก

ลูกชายตัวน้อย ส่งเสียงสะอื้นจากลำคอ

"พ่อครับ ตั้งแต่แม่ตาย ผมเห็นพ่อต้องทำงานหนัก

เพื่อหาเงินทุกวัน จนไม่ได้พัก

ไม่ได้อยู่กับผมเลย เราแทบไม่มีเวลาได้อยู่ด้วยกัน

ผมเลย ค่อยๆ เก็บค่าขนมของผมไว้ตลอดมา

จนถึงตอนนี้ผมเก็บได้สองร้อยบาทแล้ว

แต่พอผมรู้จากพ่อว่า พ่อทำงานได้ ค่าจ้างวันล่ะสี่ร้อย

ผมคิดว่าผมคงรอไม่ไหว ที่จะเก็บเงินให้ครบสี่ร้อย

มันนานเกินไปครับ

ผมจึงอยากยืมพ่อเพิ่มอีกสองร้อย ให้เป็นสี่ร้อย

เพื่อจะได้ใช้เป็นค่าจ้างให้พ่อได้พัก

ได้อยู่กับผมซักวันนึงครับ"




เงินทอง อาจจะจำเป็น ต่อการดำรงชีวิต
แต่ ครอบครัว ยังคงต้องการ ความรัก ความอบอุ่น
และ
เวลาที่มีให้ แก่กัน

"อย่าห่วงงานจนลืม ครอบครัว และ คนที่คุณรัก"
====================================

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ค้นหา