วันเสาร์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2554

นักเรียนที่...ถูกเฆี่ยน!...เป็นประจำ

นักเรียนที่...ถูกเฆี่ยน!...เป็นประจำ





ในชีวิตความเป็นครูของสมชาย พูนสวัสดิ์ แห่งโรงเรียนมัธยมเทพา ไม่เคยมีลูกศิษย์คนไหนที่จะถูกครูตีมากเท่ากับนักเรียนที่ชื่อ สมเพียร แซ่เจ่ง

ครูสมชายตั้งกติกาว่าถ้าใครมาสายจะถูกครูเฆี่ยน ปรากฏว่าสมเพียรมาสายทุกวัน แม้จะถูกครูเฆี่ยนทุกวัน ๆ ละสามที แต่สมเพียรก็ยังมาสายไม่หยุด ราวกับไม่รู้จักเข็ดหลาบ เขาทนถูกครูตีทุกวันจนเรียนจบ

๓๐ ปีต่อมา โรงเรียนต้องการทำป้ายโรงเรียนใหม่ให้สมศักดิ์ศรี ผู้อำนวยการจึงขอให้ครูสมชาย โทรไปหาลูกศิษย์คนนี้ ซึ่งตอนนั้นเป็นตำรวจคุ้มครองเหมืองหินอ่อน ครูสมชายรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ เพราะมั่นใจว่าลูกศิษย์คนนี้ไม่มีวันลืมรอยไม้เรียวของครู แต่เมื่อออกปากขอความช่วยเหลือ เขากลับตอบทันทีว่า “ได้เลยครับ ไม่มีอะไรขัดข้อง” ครูสมชายถึงกับอึ้งไปเลย จากนั้นก็บอกความในใจว่า “ครูขอโทษนะที่สมัยเรียน ครูตีเธอทุกวันเลย” แต่เขาไม่โกรธครูเลย

แล้วเขาก็เล่าความ จริงให้ฟังว่า ตอนนั้นเขาเป็นเด็กวัด ต้องตามหลวงพ่อไปบิณฑบาต หลวงพ่อท่านชรามากจึงเดินช้า กว่าเขาจะกลับถึงวัดและได้กินข้าวก้นบาตรก็ได้เวลาเรียนแล้ว แต่เขายังต้องเก็บข้าวไว้กินตอนเย็น ถ้าไม่ทำอย่างนี้ก็ไม่มีอะไรจะกิน เลยต้องมาสายทุกวัน

ครูสมชายเพิ่งถึงบางอ้อตอนนั้นเอง แล้วเขาก็พูดต่อว่า “ครูครับ ไม่ต้องเสียใจ ถ้าครูไม่เฆี่ยนผม ป่านนี้ผมเป็นโจรไปแล้ว ไม่ได้ใส่เครื่องแบบตำรวจอย่างนี้”

เวลาผ่านไปนานถึง ๓๐ ปี ครูสมชายถึงเพิ่งรู้ว่าลูกศิษย์คนนี้ไม่ได้เกกมะเหรกเกเร หากเพียงแต่ครูถามเขาสักคำว่าทำไมเขามาสายเป็นประจำ ก็คงจะไม่ลงโทษเขามากมายขนาดนั้น

ทางด้านสมเพียร แม้ชีวิตจะดูเหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ลำบากยากแค้นแล้วยังไม่วายถูกครูเฆี่ยนทุกวันราวกับเป็นเด็กเหลือขอ แต่เขาก็ไม่ได้ก่นด่าชะตากรรม แต่ยังขอบคุณครู ที่ตีเขาจนได้ดี

น่าเสียดายที่คนที่เห็นความดีของเขานั้นมิใช่ผู้บังคับบัญชาชั้นสูง มิเช่นนั้นเขาคงมีชีวิตที่สุขสงบในบั้นปลาย

สมเพียร แซ่เจ่ง คนนี้ ต่อมาเปลี่ยนนามสกุลเป็น สมเพียร เอกสมญา คนเดียวกับ “จ่าเพียร” ของชาวบ้านที่บันนังสตา ซึ่งได้รับเลื่อนยศจาก พ.ต.อ. เป็น พล.ต.อ.
หลังจากที่ชีวิตเขาหาไม่แล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ค้นหา