วันพุธที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2552

๏~* 10 สาเหตุของวงการไอทีที่ไม่ตอบรับ iPhone *~๏‏

10 สาเหตุของวงการไอทีที่ไม่ตอบรับ iPhone


มาแล้วครับ กับเหตุผลแย่ๆ ของเหล่าพนักงานทางด้าน IT ทั้งหลายที่บอกว่าเจ้า iPhone นี่มันไม่ได้เหมาะกับการใช้งานแบบ IT เอาซะเลย ทั้งๆ ที่เป็นอุปกรณ์ไฮเทคล้ำสมัยซะขนาดนี้ เอาเป็นว่าบทความนี้เป็นการบ่งบอกอย่างชัดเจนของ iPhone ที่ไม่เหมาะกับการนำมาใช้งานจริงๆ จังๆ หรือนำมาทำงานทางด้านธุรกิจ โดยเฉพาะทาง IT แต่แน่นอนว่าคงจะเหมาะกับผู้ใช้งานทั่วๆ ไปซะมากกว่า ที่จะเอามาใช้ให้เป็นเรื่องเป็นราว หรือให้มาลดค่าใช้จ่ายหรือประหยัดเวลาการทำงานในองค์กร

สำหรับบทความนี้เป็นเพียงสาเหตุของกลุ่มคนทำงาน IT ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อจะว่า iPhone ไม่ดีอย่างไร แต่เพียงแต่บอกว่าไม่เหมาะกับการทำงานหรือไม่รองรับการทำงานแบบไหนซะมากกว่า ซึ่งบางข้อ เราอาจจะใช้กันในชีวิตประจำวัน แต่ iPhone ไม่สามารถทำได้ แต่ก็มีอีกหลายๆเหตุผลที่ iPhone สามารถตอบสนองการทำงานของเราได้ เอาล่ะ เรามาดูกันดีกว่าว่า ชาว IT ทั้งหลายที่เค้า บอกว่า 10 สาเหตุที่ไม่นำ iPhone มาใช้งานเป็นเพราะอะไร

1. iPhone ไม่รองรับการเข้ารหัสของข้อมูล ซึ่งแน่นอนอยู่แล้วว่าในวงการ หรือธุรกิจขนาดใหญ่ที่เรียกกันว่า เอนเตอร์ไพรส์ ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลมาก ซึ่ง iPhone เองไม่สามารถจะนำไฟล์ต่างๆ มาทำการเข้ารหัสได้ รวมถึงการจัดการของ admin ผู้ดูแลระบบ ก็ไม่สามารถที่จะนำระบบการจัดการดูแลกับรหัสผ่านส่วนบุคคลมาใช้กับคนในองค์กรได้ ทำให้การดูแลนั้นยุ่งยากมากขึ้น และไม่รองรับระบบเดิมที่ใช้งานกันอยู่ ซึ่งรหัสผ่านนั้นขึ้นอยู่กับผู้ใช้งานหรือคนในองค์กรผู้ใช้ iPhone เอง

2. iPhone ไม่รองรับการทำงานระบบ "Push" email หรือ การซิงค์ Calendar พุชเมล ถือว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในองค์กรหลายๆ องค์กรในปัจจุบัน ปัจจุบันอุปกรณ์ที่รองรับพุชเมลนั้นมีมากมาย แต่ iPhone ไม่สามารถจะรองรับระบบพุชได้ ทำให้การพก iPhone เมื่อนำมาใช้กับระบบขององค์กรนั้นก็จะได้เพียงเสียงเชียร์แกมอิจฉากับเพื่อนร่วมงาน ถึงความใหม่ สด น่าใช้งาน เท่ห์มากๆ แต่สุดท้ายแล้ว อีเมลของบริษัทที่สำคัญๆ ก็ไม่สามารถเช็คได้ รวมถึงการซิงค์ข้อมูลของตารางนัดหมายในปฎิธิน คอนแทค หรือรายชื่อที่อยู่คอมพิวเตอร์ นอกจากนี้เอง iPhone ก็ยังไม่รองรับการซิงค์ผ่าน Wireless อีกด้วย ต้องใช้สาย USB sync เท่านั้น

3. iPhone ไม่รองรับการทำงานของ โปรแกรมค่ายอื่นๆ โดยที่มีการรับประกัน การรับประกันถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญกับอุปกรณ์ที่มีราคาค่าตัวเป็นหมื่น เช่นกัน แต่ว่า iPhone จะหลุดจากการรับประกันในทันที หากพบว่าเครื่อง iPhone ที่เราๆ ท่านๆ ใช้งานกันอยู่นี้ มีการลงโปรแกรมเพิ่มเติมที่เรียกว่า Third Party หรืออีกนัยนึงก็คือเป็นโปรแกรมที่ไม่ได้รับการรับรองจากทาง Apple หรือเป็นโปรแกรมที่ทาง Apple เป็นผู้พัฒนาขึ้นมา นั่นก็หมายความว่า โปรแกรมที่เราใช้งานเพิ่มเติมกันอยู่ในทุกวันนี้ เป็นโปรแกรมของปาร์ตี้ที่สามกันทั้งนั้นเลยล่ะครับ แต่ว่า Apple ก็สัญญาว่าจะออก SDK มาให้ผู้พัฒนาโปรแกรมต่างๆ ให้รองรับการใช้งานของ iPhone เช่นกัน ดังนั้นธุรกิจทางด้านซอฟท์แวร์ของ iPhone จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลย ถ้าทาง Apple ไม่เปิดโอกาสให้ และถึงมีโปรแกรมอื่นๆ ใช้งานกันแต่ ประกันของ iPhone ก็หลุดทันที

4. iPhone ไม่รองรับการทำรีโมตหรือล็อคการทำงาน ในที่นี้หากเป็นในฝ่ายไอทีก็คงจะหมายถึงการที่รีโมตเข้ามาที่เครื่อง iPhone เพื่อทำการล็อคหรือเช็คข้อมูลต่างๆ ของเครื่องได้ และยังไม่มีโปรแกรมที่จะมาจัดการในเรื่องนี้

5. iPhone ช้าไปแล้วสำหรับคีย์บอร์ดแบบปุ่มจริงๆ(Hardware keyboard) ซึ่ง iPhone คงไม่ได้อยากจะมีอยู่แล้ว แต่คนใช้งานโดยเฉพาะทางแถบยุโรปหรืออเมริกา ปุ่มกดหรือคีย์บอร์ดที่ติดมากับเครื่องด้วย คงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า และยิ่งเมื่อเทียบการป้อนข้อมูลหรือใส่ข้อมูลต่างๆผ่านทาง virtual keyboardไม่ว่าจะเป็นการส่ง อีเมล หรือจดเอกสาร ก็แน่นอนว่าช้ากว่าการป้อนข้อมูลด้วยคีย์บอร์ด (hardware keyvoard) แบบติดมากับเครื่องอยู่แล้ว

6. iPhone ไม่รองรับการทำงานข้ามโอเปอร์เรเตอร์ แน่นอนอยู่แล้วว่า iPhone มีระบบล็อคสำหรับใช้งานในประเทศต่างๆ ที่ผูกติดกับโอเปอร์เรเตอร์หรือที่เค้าเรียกกันว่า carrier นี่เอง นอกจากนี้ยังมีติดสัญญาการใช้งานกับโอเปอร์เรเตอร์นั้นๆเป็นปีๆ อีกด้วย เมื่อมีการล็อคแล้วทำให้การซื้อเครื่อง และนำไปใช้งานในต่างประเทศกัน ทำให้ไม่สามารถใช้งานได้ จึงเป็นที่มาที่ไปของการปลดล็อค iPhone และ Apple ก็ไม่นิ่งดูดาย ออก patch firmware มาแก้ไขช่องโหว่ที่เหล่าแฮ็คเกอร์หาเจออยู่ตลอด กลับกลายเป็นเรื่องและกระแสที่ทุกๆ คนต่างๆ เฝ้ารอ

7. iPhone ไม่รองรับคนจน (ราคาแพงมาก) iPhone ออกจะไฮเทคซะขนาดนี้ ขืนมาขายราคาไม่กี่พันคงโดนดูถูกแย่เลย ก็เลยมีราคาซะสูงลิ่วเลย จะสังเกตุเห็นได้ในช่วงแรกๆ ที่ออกมาราคาแพงมาก จนกระทั่งมีการประกาศลดราคาออกมา ทำให้คนที่ซื่อมาใช้งานกันก่อนน้ำตาร่วงกันเป็นทิวแถว แต่แน่นอนว่าราคาที่เราได้ซื้อมาใช้งานกันอยู่ทุกวันนี้เป็นราคาติดสัญญา แต่ถ้าหากเป็นราคาตัวเครื่องจริงๆ แล้วล่ะรับรองว่าเห็นราคาแล้วอาจจะหนาวเลยก็ได้

8. iPhone ยังเป็นยุคแรกเท่านั้น แน่นอนว่าคงไม่มีอุปกรณ์อะไรออกมาแล้วไม่มีข้อบกพร่องเลย ซึ่งเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว และ iPhone เองก็ต้องเรียกว่าเป็นหน้าใหม่ในตลาดมือถือหรือโมบายล์ ซึ่งยังมีจุดอ่อนอีกมากมายให้พัฒนาและปรับปรุงในยุคต่อๆไป ตัวอย่างเช่น ไม่สามารถจะทำการแอคทีฟโดยใช้เวลาสั้นๆ แบตเตอรี่ยังอยู่ได้ไม่นานเท่าไหร่ คุณภาพเสียงก็ไม่ได้ดีกว่าอุปกรณ์โมบายล์รุ่นอื่นๆ และตอนนี้ยังรองรับที่ 2.5G อยู่เท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าตามข่าวแล้วอนาคตของ iPhone คงจะมีเวอร์ชั่น 3G ออกมาในไม่ช้า

9. iPhone ไม่รองรับการเปลี่ยนแบตเตอรี่แบบถอดเปลี่ยนได้เอง เป็นอีกหนึ่งประเด็นสำคัญสำหรับการใช้งาน iPhone หากไม่มีพลังงานหลงเหลืออยู่ แล้วเราจะทำยังไงกันดี ซึ่งตรงส่วนนี้เองทำให้การใช้งานต้องขาดช่วงไป หรือถ้าจะเปลี่ยนก็ยากลำบากไม่น้อยเลย

10. iPhone ไม่มีการรับรองว่าเหมาะสมกับธุรกิจใดๆ สำหรับส่วนนี้คงมีผลสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ๆ ที่ iPhone เองไม่รองรับหรือไม่เหมาะกับการทำงานระดับนี้เลย และไม่มีโซลูชั่นทีจะนำมาใช้งานในธุรกิตต่างๆ และผู้ใช้งาน iPhone เองก็คงรู้ดีว่า iPhone ไม่ได้เกิดมาเพื่อ Business

นี้เป็นเพียงเหตุผลที่ทำไมทาง IT จึงไม่อยากใช้งาน iPhone ร่วมกับระบบหรือธุรกิจในองค์กร แต่ถ้าใช้งานส่วนตัวล่ะก็ เชื่อแน่ว่าคนไหนก็คนนั้นล่ะครับที่ได้จับ iPhone เป็นอันต้องเสียตังค์ ซื้อมาใช้งานแน่ๆ แน่นอนว่าหากจะนำ iPhone มาใช้เพื่อความบันเทิงล่ะก็รับรองว่ามาถูกทางแล้วล่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ค้นหา