วันศุกร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2553

รองเท้าแบบไหนที่ปลอดภัยกับคุณ

รองเท้าแบบไหนที่ปลอดภัยกับคุณ

อาจจะดูเป็นเรื่องที่จู้จี้จุกจิกไปสักนิดสำหรับเรื่องของรองเท้า เพราะบางคนอาจเห็นว่า "จะรองเท้าอะไรก็ช่างเถอะ ขอให้ใส่แล้วไม่กัดก็พอ"

ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว นอกจากการถูกรองเท้ากัด รองเท้ายังสามารถทำให้เท้าของเราได้รับบาดเจ็บหรือพิการได้อีกด้วย อีกทั้งยังมีส่วนทำให้เกิดโรคที่เกี่ยวกับเท้า อาทิ นิ้วหัวแม่เท้าผิดรูป ตาปลา เล็บขบ และเอ็นฝ่าเท้าอักเสบ เป็นต้น

ดังนั้น ถึงเวลาหรือยังที่เราจะมาใส่ใจในการเลือกรองเท้าเพื่อสุขภาพของเท้าที่จะแข็งแรงตลอดไป

รู้จักส่วนต่างๆ ของรองเท้าให้ถ่องแท้

ก่อนอื่นเราควรจะมาทำความรู้จักส่วนต่างๆ ของรองเท้ากันก่อน เพื่อที่เราจะได้ละเอียดต่อการเลือกรองเท้า เพราะถ้าพลาดเพียงส่วนใดส่วนหนึ่งก็อาจจะทำให้สิ่งไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นกับเท้าก็เป็นได้

Vamp หรือ ส่วนบนบริเวณที่เป็นรูรองเท้าที่ใช้เชือกผูก ควรทำมาจากผ้าหรือหนังที่อ่อนนุ่มสักหน่อย เพราะหากแข็งเกินไป จะก่อให้เกิดตาปลาขึ้นบริเวณเท้า

Toe Box หรือ ส่วนที่หุ้มนิ้วเท้า ซึ่งอาจจะมีทั้งรูปร่างกลมหรือรูปร่างเป็นเหลี่ยมก็ได้ เมื่อใส่รองเท้าแล้วบริเวณนี้ควรจะเหลือพื้นที่เพื่อให้นิ้วเท้าขยับได้อย่าให้อัดแน่นบีบนิ้วเท้าจนเกินไป เพราะอาจทำให้นิ้วเท้าของเราผิดรูปผิดร่าง

Heel Couter หรือ ส่วนพื้นบริเวณส้นเท้า เป็นส่วนรองรับน้ำหนักจากบริเวณส้นเท้าของเรา ควรจะบุด้วยวัสดุที่มีความอ่อนนุ่มแต่รับน้ำหนักได้เป็นอย่างดี เพื่อที่ในเวลาก้าวเดินเท้าจะได้มีความมั่นคง ไม่ทำให้ล้มง่าย

Heel Tab หรือ ส่วนของรองเท้าที่ล้อมรอบเอ็นร้อยหวาย ควรจะบุด้วยวัสดุที่นุ่มและไม่มีตะเข็บ เพื่อป้องกันการเสียดสีผิวหนังบริเวณนั้น

Sole หรือ ส่วนพื้นรองเท้า ประกอบไปด้วย Insole พื้นด้านในที่เท้าเราสัมผัส Outsole พื้นรองเท้าด้านนอก และ Midsole แผ่นที่รองรับแรงกระแทกอยู่ระหว่างกลาง พื้นรองเท้าที่ดีควรจะอ่อนนุ่มเพื่อกันการกระแทก และไม่ควรหนาจนเกินไป

Heel หรือ ส่วนส้นเท้า เป็นส่วนที่สำคัญเพราะเป็นส่วนที่ต้องรับน้ำหนักเวลาที่เราเดิน ควรจะเลือกส้นเท้าที่กว้างและนุ่ม ส้นรองเท้าไม่ควรเกิน 2 นิ้ว เพราะส้นยิ่งสูงจะทำให้เจ็บฝ่าเท้าได้มากขึ้น

รองเท้าที่ดีมีลักษณะอย่างไร

- รองเท้าต้องมีลักษณะเหมือนรูปเท้าของผู้สวมใส่ และต้องสวมใส่พอดีกับเท้า การที่รองเท้ากว้างหรือแคบจนเกินไป จะทำให้เท้าได้รับบาดเจ็บได้ง่าย

- รองเท้าต้องทำจากวัสดุที่อ่อนนุ่มต่อเท้า รองเท้าต้องมีพื้นที่นุ่ม สามารถกันกระแทกได้และไม่ลื่น พื้นรองเท้าที่ทำจากยางจะมีประสิทธิภาพดีกว่าหนังสัตว์

- ไม่ควรเลือกซื้อรองเท้าที่มีตะเข็บในบริเวณที่เราได้รับบาดเจ็บ อาทิ บริเวณนิ้วหัวแม่เท้า

- ควรเลือกใช้รองเท้าแบบที่ใช้เชือกผูกเพราะจะใส่ได้พอดีกว่ารองเท้าที่ไม่ใช้เชือกผูกแม้จะสวมใส่สะดวกก็ตาม

- หลีกเลี่ยงรองเท้าที่มีน้ำหนักมากโดยเฉพาะรองเท้าที่ส่วนหัวรองเท้าทำจากยางและมีขนาดใหญ่ เพราะจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย

- รองเท้าที่ดีส้นรองเท้าไม่ควรสูงเกิน 1 นิ้ว และหากต้องใส่ส้นสูงก็ไม่ควรเกิน 2 นิ้ว และใส่ไม่เกิน 3 ชั่วโมงในแต่ละครั้ง ที่สำคัญควรถอดออกหากไม่จำเป็นต้องเดิน

การเลือกรองเท้าสำหรับเด็ก

เมื่อเด็กเริ่มเดินได้ (ประมาณอายุ 12-14 เดือน) ควรเลือกซื้อรองเท้าที่พอดีกับเท้า และควรเปลี่ยนรองเท้าให้เด็กทุกๆ 3-6 เดือน เพราะเด็กจะเจริญเติบโตขึ้นเรื่อยๆ สังเกตง่ายๆ จากพฤติกรรมที่เด็กชอบถอดรองเท้าบ่อยๆ นั่นแสดงว่าเด็กเริ่มจะรู้สึกไม่สบายเท้าแล้ว สาเหตุน่าจะเกิดจากรองเท้าคับไป จากนั้นก็ให้ดูที่เท้าของเด็กว่ามีรอยแดง รอยถลอก หรือรอยกดทับหรือไม่

การเลือกรองเท้าสำหรับผู้หญิง

ผู้หญิงส่วนใหญ่มักจะเลือกใส่รองเท้าที่มีส้นสูงและปลายเท้าแคบเพื่อความสวยงาม ซึ่งนี่เองที่ทำให้เกิดอาการปวดเท้า นิ้วเท้า น่อง และหลัง ทางที่ดีควรเลือกสวมรองเท้าที่มีส้นเตี้ย และปลายเท้ากว้างจะดีกว่า อาจจะไม่สวยสง่า แต่ก็ใส่สบายไม่อึดอัด และอันตราย

การเลือกรองเท้ากีฬา


รองเท้าวิ่ง

รองเท้าวิ่งที่ดีจะต้องมีแผ่นรองเท้าที่กันกระแทก และจะต้องมีหุ้มส้นที่พอเหมาะ เพื่อป้องกันเอ็นอักเสบ ปวดส้นเท้า และกระดูกหัก

รองเท้าสำหรับเต้น

รองเท้าที่ใช้งานแบบนี้ต้องมีน้ำหนักที่เบาเพื่อไม่ก่อให้เกิดอาการเมื่อยเวลาขยับร่างกายมากๆ และตรงฝ่าเท้าควรจะมีแผ่นกันกระแทกที่อ่อนนุ่ม เพราะส่วนนี้เป็นส่วนที่มีการกระแทกมากที่สุด

รองเท้าสำหรับการเล่น Basketball

พื้นรองเท้าต้องหนาและแข็งเพื่อการทรงตัวที่ดี และต้องเป็นรองเท้าหุ้มข้อเพื่อป้องกันข้อพลิก

รองเท้าสำหรับการเล่น Tennis

ต้องเป็นรองเท้าที่ป้องกันข้อเท้าขณะที่มีการสไลด์ออกข้างได้อย่างดี อีกทั้งพื้นรองเท้าไม่จำเป็นต้องมีแผ่นกันกระแทกที่หนาเกินไปเพื่อการเคลื่อนตัวที่สะดวกสบาย

รองเท้าสำหรับเดิน

รองเท้าสำหรับเดินควรเป็นรองเท้าที่มีน้ำหนักเบา และควรมีแผ่นกันกระแทกที่ส้นเท้าและบริเวณกลางฝ่าเท้า ซึ่งจะช่วยลดอาการปวดบริเวณส้นเท้าและฝ่าเท้า นอกจากนี้พื้นรองเท้าควรจะมีลักษณะออกป้านๆ เพื่อให้การถ่ายเทน้ำหนักจากส้นเท้าไปยังนิ้วเท้าได้สะดวก และลดแรงกดทับที่ฝ่าเท้าได้อย่างดี

Tip

สำหรับผู้ที่เล่นกีฬามากกว่า 3 วันต่อสัปดาห์ จำเป็นอย่างมากที่ต้องใช้รองเท้าสำหรับกีฬาชนิดนั้นและโปรดจำไว้ว่าหากเราวิ่ง 400-800 กิโลเมตร หรือเต้นแอโรบิคมากกว่า 300 ชั่วโมง รองเท้าที่เราใส่จะสูญเสียคุณสมบัติในการกันกระแทกไป ฉะนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนรองเท้าทันทีที่เสื่อมสภาพอย่าไปเสียดาย และหากเราใส่รองเท้าแล้วมีปัญหาปวดที่ส้นเท้า ฝ่าเท้า อาจจะต้องหาอุปกรณ์เสริม เช่น แผ่นรองส้นเท้า แผ่นรองฝ่าเท้า มาช่วย แต่ถ้ายังไม่ดีขึ้นแนะนำให้ลองเข้าไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ค้นหา