วันอังคารที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

การพระราชทานอภัยโทษ...เปลว สีเงิน‏

การพระราชทานอภัยโทษ...“เปลว สีเงิน”

“เปลว สีเงิน” เวทนาทักษิณโฟนอิน ฟ้องให้เห็นอาการน่าเป็นห่วง เข้าทำนองกรรมสนองกรรม ผีซ้ำเจอ “ไข่แม้วดำ” หลอกกินตับขายแพกเกจใหม่ “ขอพระราชทานอภัยโทษ” พ่วงสะกดจิตคนเสื้อแดงให้ละเมอลงชื่อร่วมถวายฎีกาฯ ทั้งที่รู้ว่าองค์ประกอบไม่เข้าหลักเกณฑ์ เหมือนจงใจทำให้เกิด “ลัทธิเสื้อแดงครองประเทศ” แนะ ลิ่วล้อหิ้วปีกมานอนคุกให้ได้เสียก่อนค่อยว่ากัน ติง “มานิต จัตรจันทร์กลับ” อย่าอ้างอดีตความเป็นอธิบดีศาลอาญาบนเวทีชุมนุม ทำให้สถาบันตุลาการต้องพลอยแปดเปื้อนไปด้วย


วันนี้ (29 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ฉบับวันนี้ ในหน้า 5 คอลัมน์ “คนปลายซอย” ของ “เปลว สีเงิน” ได้เขียนบทวิเคราะห์เรื่อง ทักษิณ “ไม่มีสิทธิ์ขอพระราชทานอภัยโทษ” ภายหลังแกนนำม็อบเสื้อแดงประกาศจะล่ารายชื่อทั่วประเทศเพื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้กับนช.ทักษิณ ชินวัตร โดยรายละเอียดบทความดังกล่าว มีดังนี้

ใครจะคิดอย่างไรกับ “ทักษิณ ชินวัตร” ที่โฟนอินมาอ้อนแฟนเสื้อแดงกลางสนามหลวงเมื่อค่ำวันเสาร์ (๒๗ มิ.ย.๕๒) ผมก็ไม่ทราบนะ แต่สำหรับผมซึ่งบังเอิญเคล้าสายฝนแอบฟังเสียงสดๆ กับเขาด้วย ขอบอกด้วยความเป็นห่วงว่า “นายใหญ่อาการน่าเป็นห่วง” เพราะโรค Bipola ออกอาการ active mania เข้าขั้นระยะสุดท้าย พูดง่ายๆ คือ “ใกล้บ้า” สมบูรณ์แบบเข้าไปทุกขณะแล้ว

ก็ได้แต่ปลง “กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นพลันสนอง” นั่นแหละ....ทักษิณเอ้ย!

แล้วแทนที่พวกญาติพี่น้อง และข้าทาสบริวารทั้งหลายจะห่วงใย คิดทางช่วยเหลือเพื่อแก้ไขให้ถูกเรื่อง-ถูกราว ก่อนที่จะ “บ้าสนิท” ไปจริงๆ

ตรงกันข้าม กลับช่วยกัน “หลอกกิน-หลอกใช้” ทักษิณ เหมือนกับไม่สังเกตเห็นน้ำเสียง-คำพูดที่เต็มไปด้วยอารมณ์แห่งความรู้สึกที่แปรปรวนตลอดเวลาโฟนอินอันยาวนานเป็นพิเศษเมื่อคืนวันเสาร์?!

โดยเฉพาะ “นายวีระ มุสิกพงศ์” หนึ่งในสามเกลอหัวขวด ผมชักสงสัยว่าทักษิณหลอกใช้นายวีระ หรือว่านายวีระหลอกกินทักษิณกันแน่ เพราะเรื่อง “ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ” ที่วีระแผล็บๆ เสนอทักษิณขณะโฟนอินนั้น พูดกันตรงๆ นอกจากเป็นรายการหลอกขายแพกเกจใหม่กับทักษิณแล้ว

ยังเป็นการหลอกลวงคนเสื้อแดงทุกคนให้ “หลงเชื่อผิดๆ” ด้วย!

เพราะการที่บอกกับคนเสื้อแดงในวงชุมนุมว่าจะรวบรวมรายชื่อให้ได้เป็นล้าน เพื่อทำฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ทักษิณนั้น โดยข้อเท็จจริงแล้ว ทักษิณยังไม่เข้าองค์ประกอบที่ทำได้ ขืนทำก็จะขัดต่อหลักเกณฑ์การขอพระราชทานอภัยโทษ

การที่นายวีระนำสิ่งที่ไม่ถูกต้องบอกกับคนเสื้อแดงให้เข้าใจผิด โดยสิ่งนั้นเกี่ยวกับพระราชอำนาจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโดยตรง เมื่อทำไปแล้ว แต่ผลที่ออกมาไม่เป็นดังปรารถนา

นั่น..มิเป็นการทำให้ประชาชนผู้เป็นพสกนิกรเกิดความสั่นไหวในศรัทธาต่อสถาบันเบื้องสูง อันเป็นผลมาจากการบิดเบือนข้อเท็จจริงของนายวีระครั้งนี้หรือ?

หรือว่าเป็นเจตนา-เป็นความจงใจ “ทำให้เกิด” จากคณะพรรคผู้เป็นแกน “คนเสื้อแดง” ที่พยายามนำ “ลัทธิแดง” เข้ามายึดครองประเทศไทย ดังที่เปลือยตัวตน-เปลือยพฤติกรรมให้เห็นชัดกันอยู่ขณะนี้

นายวีระเรียนสูง จบกฎหมายจากธรรมศาสตร์มิใช่หรือ เคยเป็นถึงรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย และในคณะพรรคเสื้อแดงจะว่าไปแล้วก็เป็นแหล่งรวมพวกทนาย พวกนักกฎหมายอยู่เป็นร้อย จะอ้างว่าไม่รู้กฎหมาย ทำไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ เห็นจะไม่ได้

นอกจากบรรดาทนายความแล้ว ยังมีอดีตผู้พิพากษาปรากฏตัว ปรากฏบทบาทในขบวนการพยายามล้มล้างรัฐบาล ล้มล้างสถาบันอยู่หลายคน เช่น นายมานิต จิตรจันทร์กลับ ผู้เป็น ส.ส.ระบบสัดส่วนพรรคเพื่อไทยขณะนี้ด้วย

อันนี้ไม่ว่ากัน ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพจะทำ จะแสดงออก ถ้าสิ่งนั้นไม่ผิดกฎหมาย แต่ขอติงไว้นิดสำหรับนายมานิต คุณพ้นไปแล้วจากสถาบันตุลาการ คุณต้องการเป็นสาวกทักษิณ ผู้ที่ศาลอาญาระบุไว้ตามคำพิพากษาว่า..ที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ พูดว่า “ทักษิณอยากเป็นประธานาธิบดี” นั้น

ไม่ผิด เป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต!

เช่นนี้หมายความว่าอย่างไร ระดับนายมานิตย่อมทราบดี ตรงนี้ก็เรื่องหนึ่ง แต่อีกเรื่องหนึ่งที่ผมบอกว่าขอติงก็คือ คุณจะร่วมปลุกปั่น ปลุกระดมอะไรก็ทำไป แก่ขนาดนั้นแล้ว มีสติ-สัมปชัญญะคิดได้แค่นั้น ก็ทำไปเถอะ

แต่อย่าให้พวกคุณนำคำว่า “อดีตอธิบดีศาลอาญา” ขึ้นไปประกาศต่อท้ายชื่อ “มานิต จัตรจันทร์กลับ” บนเวทีชุมนุมคนเสื้อแดงเลย ผมได้ยินแล้วบาดหู-แสลงใจ และหดหู่เป็นอย่างมาก และคิดว่าคนอีกจำนวนมากก็คงเหมือนผม

คุณเลือกที่จะไปทางนั้น ไปทางเปลี่ยนประเทศไทยเป็นแดง คุณก็ไปเถอะ!

แต่อย่าลาก “สถาบันตุลาการ” ไปแปดเปื้อนกับการกระทำของคุณเลย คนในสถาบันตุลาการ คือคนที่ทำงานภายใต้พระปรมาภิไธย แล้วนี่...คุณกำลังทำอะไรต่อบ้าน-ต่อเมือง หือ?

การลากนามสถาบันไปใช้เช่นนี้ คุณหวังให้คนฟังแล้วเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนต่อพระราชอำนาจที่ทรงใช้ผ่านสถาบันตุลาการใช่ไหม?

และอดีตตุลาการที่ไม่เป็นดังท่าน โดยเฉพาะที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในสถาบันตุลาการปัจจุบัน ได้ยินคนคนหนึ่งที่เคยดำรงตำแหน่งสูงในสถาบัน นำชื่อไปใช้ในทิศทางที่ไม่เป็นคุณต่อบ้านเมืองตามระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เช่นนี้ ท่านเหล่านั้นจะรู้สึกอึดอัด และรันทดหดหู่ขนาดไหน?

ผมฟังนายวีระตะโกนชื่อมานิต แล้วต่อสร้อยด้วยคำว่า “อดีตอธิบดีศาลอาญา” ต่อหน้าคนเสื้อแดงที่หวังล้มแผ่นดินเพื่อทักษิณครั้งแล้ว-ครั้งเล่า เศร้าใจครับ จึงจำต้องพูดเผื่อช่วยสะกิดต่อมสำนึกคุณได้บ้าง

ย้อนกลับไปที่ทักษิณ ถ้าท่านฟังจะต้องรู้สึกเหมือนผมว่า ทักษิณอยู่ในสภาพสูญเสียการควบคุมตัวเองด้วยสติ-สัมปชัญญะแล้ว

ตลอดเวลาที่พูด อารมณ์แปรปรวนตลอด เดี๋ยวเศร้า-หดหู่ อ้อนวอนขอร้องให้พากลับบ้าน เหมือนเด็กรบเร้าผู้ปกครอง เดี๋ยวเกรี้ยวกราด-คุคลั่งหลั่งเลือด เดี๋ยวอวดรวย อวดเศรษฐี เหมืองทองไม่เอาแล้ว-กระจอก ชวนชาวบ้านไปทำเหมือนเพชร รวยกันวันละเป็นร้อย-เป็นพันล้าน เดี๋ยวบอกเหงา ทอดอาลัยตายอยาก กลัวตายกลางทะเลทรายขึ้นมาแล้ว

เดี๋ยวบอกว่าเป็นนักปฏิบัติธรรม นั่งวิปัสสนากรรมฐาน อยู่ที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องกลับก็สบายใจ เดี๋ยวเอาอีกแล้ว อ้อนจะกลับมาบริหารกอบกู้เศรษฐกิจไทยให้รวยกันทั้งประเทศ

ผมฟังแล้วสมเพช-เวทนาจริงๆ เพราะอาการอย่างนี้ มันอาการของคน “บ้าเข้าขั้น” แล้ว!

แล้วมาถูกนายวีระหลอกคนบ้าเข้าอีก หลอกจะให้โฟนอิน นัน-สต็อป ยันสว่าง เคราะห์ดีลูกพี่บ้าน้อยกว่าลูกน้อง ข้อเสนอนี้เลยพับไป แต่นายวีระก็ยังนำแพกเกจใหม่มาหลอกขายต่อจนได้ นั่นคือแพ็กเกจ "ล่ารายชื่อคนเสื้อแดงทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ"

แพกเกจนี้จะต้องจ่ายเท่าไหร่ก็ไม่รู้นะ?

จะขอพระราชทานอภัยโทษขึ้นไปได้อย่างไร ผมต้องรีบบอก เดี๋ยวประชาชนทั่วไปจะพลอยหลงผิดตามนายวีระไปด้วย ก่อนอื่น ต้องทราบก่อนว่า การพระราชทานอภัยโทษนั้น กรอบมีอยู่ว่า

.................

“การพระราชทานอภัยโทษ"หมายถึง การพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์แก่ผู้ต้องโทษ ให้ได้รับการปล่อยตัว หรือลดโทษ แล้วแต่กรณี ทั้งเป็นไปในรูปของการพระราชทานอภัยโทษเป็นการเฉพาะรายแก่ผู้ต้องโทษที่ได้ยื่นเรื่องราวทูลเกล้าฯถวายฏีกาขอพระราชทานอภัยโทษขึ้นมา

และในรูปของการพระราชทานอภัยโทษเนื่องในโอกาส หรือในวาระที่สำคัญเกี่ยวกับองค์พระมหากษัตริย์ และบ้านเมือง โดยจะกำหนดเป็นพระราชกฤษฎีกา”

เนี่ยะ..กรอบหลักการใหญ่ๆมีอย่างนี้ แล้วทักษิณมันเข้ากรอบหลักการที่จะขอพระราชทานอภัยโทษได้ที่ไหน วีระต้องรู้ ยิ่งนายมานิตยิ่งต้องรู้ใหญ่ แล้วเอาสถาบันเบื้องสูงมาเป็นเครื่องมือหลอกลวงประชาชนเพื่อให้เข้าใจผิดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ได้อย่างไรกัน หือ?

แปลความง่ายๆ คือ การพระราชทานอภัยโทษมี ๒ แบบ คือแบบทั่วไป อย่างที่เห็นกับนักโทษตอนวันสำคัญๆ ของพระมหากษัตริย์ เช่นวันเฉลิมพระชนมพรรษา เป็นต้น กับแบบเฉพาะรายบุคคล อย่างกับทักษิณนี้ ถือว่าเป็นรายบุคคล

แต่สาระหลักคือ ไม่ว่าจะแบบไหน การอภัยโทษนั้น มีให้เฉพาะ ผู้ต้องโทษ อยู่ในขณะนั้นเท่านั้น จะขอพระราชทานอภัยโทษให้กับบุคคลที่ยังไม่ต้องโทษไม่ได้

เอากันตรงๆ คือ คนที่ติดคุก ตัวอยู่ในคุก-เป็นนักโทษเด็ดขาดแล้วเท่านั้น จึงจะมีสิทธิ์ยื่นเรื่องราวทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

แล้วทักษิณติดคุกหรือยัง ตัวอยู่ในคุก-เป็๋นนักโทษหรือเปล่า?

คำตอบคือ เปล่า ทักษิณยังไม่ได้ติดคุก และตัวก็ไม่ได้อยู่ในคุก!!

นั่นคือ ทักษิณยังไม่ใช่นักโทษ เป็นเพียงผู้หลบหนีคำสั่งศาล และคำตัดสินของศาลเท่านั้น ขอย้ำชัดๆ....ทักษิณยังไม่มีโทษ ยังไม่ได้เป็นนักโทษ

และเมื่อไม่มีโทษ ยังไม่ได้เป็นนักโทษเด็ดขาด แล้วจะทูลเกล้าฯถวายฏีกาของพระราชทานอภัยโทษให้ทักษิณได้อย่างไรกัน ไม่มีที่ไนในโลกหรอกครับที่ คนไม่มีโทษแล้วจะไปขออภัยโทษ

และก็ไม่มีระบบที่ไหนอีกเช่นกัน จะพระราชทานอภัยโทษให้กับคนที่ไม่มีโทษ!

เข้าใจกันให้ชัดตามนี้นะครับ อย่าไปหลงเข้าใจผิดตามการสร้างกระแสของนายวีระ เขาคงหวังหลอกใช้ทักษิณเป็นสะพานไปสู่เป้าหมายลัทธิแดงของพวกเขา เพราะเมื่อประชาชนคนเสื้อแดงไม่ได้ดังหวัง กระแสก็จะตีกลับไปเป็นการมองด้วยเข้าใจผิดๆต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

อาจเป็นการ “เดินตามแผน” ไปสู่การล้มอำมาตย์-สถาปนาลัทธิแดงรูปแบบประธานาธิบดีของเขาก็ได้ ผมก็เดาใจพวกเขาไม่ถูก เห็นแต่หมู่นี้พวกสัตว์ป่าสลัดลายออกมาปลุกระดม โชว์หมวกดาวแดง โชว์เครื่องแบบแดงกันให้รึ่มไปหมด!

เอ้า...ก็ทราบองค์ประกอบตามหลักการอีกนิด คนที่จะมีสิทธิ์ถวายฏีกาขอพระราชทานยอภัยโทษได้นั้น ต้องเป็นนักโทษคดีถึงที่สุดแล้วเท่านั้น คือเป็นนักโทษเด็ดขาด ไม่มีอุทธรณ์-ฏีกาอะไรอีก และคนที่จะยื่นเรื่องทูลเกล้าฯถวายฏีกา ก็จะต้องเป็นตัวนักโทษเอง หรือ พ่อ แม่ ลูก เมีย เท่านั้น

คนอื่นนอกจากนี้ ต่อให้คนเสื้อแดงเป็นล้าน ก็ไม่มีสิทธิ์!

นั่นก็คือ ทักษิณไม่เข้าข่ายที่จะขอพระราชทานอภัยโทษได้ ถึงแม้คำตัดสินศาลฏีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองจะเป็นที่สุด แต่ทักษิณหลบหนี ยังไม่ได้มารับโทษ จึงไม่มีสิทธิ์ขอพระราชทานอภัยโทษ นอกจากกลับมาติดคุก-เป็นโทษอยู่ในคุกก่อนเท่านั้น จึงจะมีสิทธิ์ยื่นฏีกาขอพระราชทานอภัยโทษผ่านเรือนจำ หรือกระทรวงมหาดไทย หรือสำนักราชเลขาธิการ เพื่อนำความขึ้นกราบบังคมทูล

ก็จะเห็นชัดว่า ที่นายวีระประกาศจะรวบรวมรายชื่อถวายฏีกานั้น ไม่มีสิทธิ์ที่จะทำ และไม่มีสิทธิ์ที่จะถวายฏีกา ๑.คนเสื้อแดงไม่ใช่พ่อ ไม่ใช่แม่ ไม่ใช่ลูก และไม่ใช่เมียของทักษิณ

และ ๒.ตัวทักษิณไปมุดหัวอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ ไม่มีตัวอยู่ในคุก แถมยังคุยโขมงทั้ง ๖ โมงเช้า และ ๖ โมงเย็นว่า ตัวเองไม่มีความผิดแล้วจะขอพระราชทานโทษให้กับคนไม่มีความผิด-ไม่มีโทษได้อย่างไร?

ถ้าคนเสื้อแดงและพรรคเพื่อไทย รักจริง-ปรารถนาดีจริง ต่อทักษิณ ต้องช่วยกันเอาตัวทักษิณกลับมาเข้าคุกให้ได้เสียก่อน เป็น “นักโทษชายทักษิณ” เต็มตัวเมื่อไหร่แล้วนั่นแหละ ด้วยโทษที่มีนั้น ทักษิณและญาติจึงมีสิทธิ์ยื่นเรื่องทูลเกล้าฯถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ ส่วนจะได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับพระบรมราชวินิจฉัยขององค์พระมหากษัตริย์ อย่าเที่ยวปลุกปั่นหวังเอาคนหมู่มากมาบีบเช่นนี้เป็นอันขาด.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ค้นหา