วันอังคารที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ด้วยรักและปราถนาดี‏

เนื่องในวันพุธที่ 22 ก.ค. 2552 ที่ใกล้จะมาถึงนี้ เป็นวันที่จะเกิด “สุริยคราส” ในประเทศไทยจะเริ่มเห็นเป็นบางส่วน

ในเวลา 7.00 – 9.00 น. ในปรากฏการณ์ครั้งนี้ทางโหราศาสตร์ถือเป็นเคราะห์หนักที่สุดสำหรับชาวราศีกรกฎ และมีอิทธิฤทธิ์

แรงที่สุด หากใครโดนรังสี หรือได้อาบรังสีในช่วงเวลา 7.00 – 9.00 น. จะได้รับเคราะห์หนัก จะพบเจอแต่โชคร้าย จะมีโรคภัย

ไข้เจ็บหรือเจ็บป่วยขั้นรุนแรง และอื่นๆ ฯลฯ ในทางที่ไม่ดี ดังนั้นหากท่านใดที่มีความเชื่อในเรื่องโหราศาสตร์ ควรหลีกเลี่ยง

การโดนอาบรังสีในเวลานี้ “วันพุธที่ 22 ก.ค. 52 เวลา 7.00 – 9.00 น.”

1. ในหลักวิทยาศาสตร์ ถือว่ารังสีของสุริยคราส เป็นรังสีที่มีอันตรายต่อสุขภาพร่างกาย

2. ในหลักของโหราศาสตร์ ถือว่าการโดนหรืออาบรังสีของสุริยคราส ถือเป็นเคราะห์ที่ยิ่งใหญ่และรุนแรง



ด้วยรักและปรารถนาดี

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สุริยคราส ปี 2552 ครั้งแรกจะเกิดในวันที่ 26 ม.ค.52 เป็นสุริยคราสวงแหวน ส่วนในวันที่ 22 ก.ค. 52 จะเกิดสุริยคราสเต็มดวง

สุริยคราส ปี 2552 จะเกิดขึ้นถึง 2 ครั้งถึงแม้ประเทศไทยจะมองเห็นแค่บางส่วน ปี 2552 ลุ้นชมสุริยคราสกันเต็มตาอีก 2 ครั้ง

คนไทยห้ามพลาดเด็ดขาด แม้จะได้เห็นอาทิตย์เว้าแหว่งแค่บางส่วน ปรากฏการณ์แรก "สุริยุปราคาวงแหวน" เกิดขึ้นในเดือน ม.ค.

และอีกครั้งในเดือน ก.ค. กับ "สุริยุปราคาเต็มดวง" ที่ปีนี้พิเศษกว่าครั้งไหน เพราะคราสจับเต็มดวงนานกว่า 6 นาที




สุริยุปราคาบางส่วนเหนือมหาสมุทร (ภาพจากแฟ้ม/นาซา)


นายอารี สวัสดี อุปนายกสมาคมดาราศาสตร์ไทย เปิดเผยว่า ปรากฏการณ์สุริยคราสที่จะเกิดขึ้นในปี 52 นั้นมี 2 ครั้งด้วย ครั้งแรกจะเกิดใน

วันที่ 26 ม.ค.52 เป็นสุริยุปราคาวงแหวน เนื่องจากดวงจันทร์มีขนาดปรากฏเล็กกว่าดวงอาทิตย์ เส้นทางของสุริยคราสวงแหวนส่วนใหญ่

อยู่ในทะเล ส่วนในวันที่ 22 ก.ค. 52 จะเกิดสุริยคราสเต็มดวงที่ มีเส้นทางผ่าน ประเทศอินเดีย เนปาล ภูฏาน บังกลาเทศ ตอนเหนือของ

พม่า จีน และบางเกาะทางตอนใต้ของญี่ปุ่น และเข้าสู่มหาสมุทรแปซิฟิกก่อนจะสิ้นสุดลง สุริยุปราคาเต็มดวงในครั้งนี้น่าสนใจเป็นพิเศษ

เนื่องจากระยะเวลาขณะดวงจันทร์บดบังดวงอาทิตย์จนมืดมิด กินเวลานานกว่า 6 นาที นับว่ายาวนานที่สุดในศตวรรษที่ 21 โดยจุดที่เห็น

สุริยุปราคาเต็มดวงนานที่สุดอยู่บริเวณทะเลทางด้านตะวันออกของ เกาะดิโวะจิมะ ประเทศญี่ปุ่น ยาวนานประมาณ 6 นาที 39 วินาที ตรงกับ

เวลาประมาณ 9.29 น. ของประเทศไทยไทย ทั้งนี้ สุริยคราสเต็มดวงสามารถเกิดขึ้นได้นานสุดราว 7 นาที ส่วนสุริยคราสเต็มดวงที่เคยเกิดขึ้น

ในประเทศไทยเมื่อปี 2538 กินเวลาประมาณ 2 นาทีเท่านั้น ส่วนประเทศไทยก็จะเห็นเป็นเพียงสุริยุปราคาบางส่วนเช่นกัน โดยจะเริ่มต้น

และสิ้นสุดลงในช่วงเวลาประมาณ 7.00-9.00 น. ซึ่งในครั้งนี้จังหวัดในภาคเหนือและตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีโอกาสเห็น

ดวงอาทิตย์เว้าแหว่งได้มากที่สุด สำหรับปี 2552 นั้นยังได้รับการประกาศให้เป็น "ปีดาราศาสตร์สากล" อีกด้วย เนื่องในวาระครบรอบ 400

การศึกษาดาราศาสตร์เป็นครั้งแรกอย่างจริงจังของ “กาลิเลโอ กาลิเลอิ” นักวิทยาศาสตร์ชาวอิตาลี ผู้ประดิษฐ์กล้องโทรทัศน์เป็นคนแรกและ

พิสูจน์ได้ว่าโลกมีสัณฐานกลมและ โคจรรอบดวงอาทิตย์ ด้าน น.ส.ประพีร์ วิราพร นายกสมาคมดาราศาสตร์ กล่าวกับผู้จัดการวิทยาศาสตร์ว่า

ข้อสำคัญในการชมปรากฏการณ์สุริยุปราคาคือ ห้ามดูด้วยตาเปล่าเด็ดขาด เพราะอาจเป็นอันตรายถึงตาบอดได้ และห้ามดูผ่านฟิล์มเอ็กซ์เรย์

ฟิล์มขาวดำ หรือกระจกรมควัน เพราะยังไม่มีความปลอดภัยเพียงพอ ซึ่งอาจเกิดอันตรายต่อดวงตาได้เช่นกัน

วิธีการดูสุริยุปราคาที่ถูกต้องคือการมองผ่านแผ่นฟิล์มชนิดพิเศษที่ใช้ในการสังเกตดวงอาทิตย์โดยเฉพาะ ซึ่งช่วยป้องกันดวงตาจากรังสีที่เป็น

อันตรายจากดวงอาทิตย์ได้ จึงมีความปลอดภัย 100% หรือชมปรากฏการณ์ทางอ้อมผ่านเงาของดวงอาทิตย์ที่ตกกระทบลงบนฉากรับแสง

ในการนี้ทางสมาคมดาราศาสตร์ไทยก็ได้จัดทำแผ่นฟิล์มดังกล่าวในรูปแบบ "แว่นสุริยะ" สำหรับชมปรากฏการณ์สุริยุปราคาที่สามารถเก็บไว้ใช้

ได้นานหลายสิบปี โดยจำหน่ายในราคาชิ้นละ 50 บาท ผู้สนใจปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์หรือแว่นสุริยะ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สมาคม

ดาราศาสตร์ไทย โทร. 02-381-7409-10.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ค้นหา