วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

น้ำ กับ โค้ก ความต่างที่ไม่ธรรมดา (แล้วจะกล้ากินมะเนี่ย) อ่านนะต้องอ่านส่งให้เพราะรักและปราถนาดีนะ‏

น้ำโค้กที่ไม่ธรรมดา
Water & Coke น้ำ กับ โค้ก

ถ้าท่านรู้เรื่องนี้
ท่านจะดื่มน้ำมากขึ้น เพราะน้ำเป็นส่วนสำคัญของร่างกาย 75%

มีงานวิจัยพบว่าในคน 100 คน
ที่ดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว จะช่วยให้คน 80 คนลดอาการปวดหลังปวดข้อลงได้

ดื่มน้ำวันละ 5 แก้ว ลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งของลำไส้ใหญ่ได้ ถึง 45 % มะเร็งเต้านมได้ 79%
และมะเร็งกระเพาะปัสสาวะได้เกือบ 50%!

ทีนี้มาลองรู้จักน้ำ ' โค้ก ' กันหน่อย แน่นอนโค้กรสชาดยอดเยี่ยม

แต่ตำรวจทางหลวงจะบรรทุกโค้ก 2 แกลลอน ในช่องท้ายรถ เพื่อเวลามีรถชนกันสามารถเอา ' น้ำโค้ก ' ล้างเลือดบนถนนได้เกลี้ยงเกลา

ถ้าเอา T-bone steak ใส่ในชามกะละมังที่มีน้ำโค้กเต็ม จะพบว่าจะถูกละลายไปหมดใน 2 วัน

รินโค้ก 1 กระป๋องลงในโถส้วมทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง แล้วชักโครก กรดซิตริกในโค้ก จะล้างคราบสกปรกในโถส้วมได้สะอาด
ถ้าต้องการกัดสนิมที่กันชนชุมโครเมี่ยมของรถ ให้เอาที่ขัดที่ทำด้วย foil ชุบโค้ก ขัดสนิมจะออกหมด

ถ้าจะล้างทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่ที่มีคราบกรดเกลือเกาะขาวๆ ให้เทน้ำโค้ก ฟองจะกัดคราบขาวออกได้หมด ถ้าจุดขวดติดแน่น งัดไม่ออก เอาผ้าชุบน้ำโค้กหุ้มไว้หลายๆ นาที จะบิดจุดขวดออกได้โดยง่าย

ถ้าจะปิ้ง moist ham ให้เทโค้ก 1 กระป๋อง เทลงในกระทะ ห่อแฮมด้วยอะลูมิเนียมฟอล์ยแล้วปิ้ง 30 นาที
ุ ก่อนแฮมจะสุก แกะฟอล์ยออก ปล่อยให้น้ำเนื้อหยดลงไปผสมกับน้ำโค้กในกระทะ ท่านจะได้น้ำเกรวี่สีน้ำตาล

การล้างคราบไขมันจากเสื้อผ้า ให้ใช้น้ำโค้ก 1 กระป๋อง ผสมกับผงซักฟอกในปริมาณที่จะใส่ในเครื่องซัก ปล่อยให้ซักด้วยเครื่องตามปกติ
โค้กจะช่วยกำจัดคราบไขมันได้สะอาดหมดจด

ท่านสามารถผสมโค้กลงในน้ำล้างกระจกรถยนต์ ฟอสฟอริคแอซิดในโค้ก จะช่วยทำความสะอาดกระจกได้ดี

น้ำโค้กมี pH 2.8 ถ้าตัดเล็บแช่ในน้ำโค้ก 4 วัน จะละลายหมด

เวลาขนย้ายน้ำโค้กเข้มข้น เพื่อส่งตามโรงงานทั่วโลก ที่รถ truck จะต้องติดป้ายไว้ว่า ' มีวัตถุที่มีกรดกัดกร่อนได้ เป็นอันตราย '

บริษัทขายน้ำโค้ก! ใช้น้ำโค้กทำความสะอาดเครื่องยนต์ของรถ truck มานานประมาณ 20 ปีแล้ว

ท่านยังอยากดื่ม โ ค ้ก
หรือดื่มน้ำกัน เลือกเอาเอง
แปลโดย ศ.กิตติคุณ นพ.เสก อักษรานุเคราะห์
หน่วยงาน : ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู
วันที่ลงบทความ 21 เม.ย. 45

ช่วยกัน FWD
บทความนี้ต่อให้คนที่คุณรักและห่วงใยด้วย.......

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ค้นหา