วันพุธที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2552

คนขายสุนัข

อ่านแล้วน้ำตา่ร่วง



"คนขายสุนัข"

มีร้านค้าแห่งหนึ่งติดประกาศขายลูกสุนัข 7 ตัว

เมื่อรู้ข่าว ก็มีเด็กๆ แวะเวียนเข้ามาเล่น มาชมลูกสุนัขทุกวัน แต่ก็ยังไม่มีใครตกลงใจซื้อ เพราะเป็นสุนัขพันธุ์ดี มีราคาค่อนข้างแพง



วันหนึ่ง ขณะที่เจ้าของร้านกำลังยุ่งอยู่กับการขายของอื่นๆ ให้แก่ลูกค้าในร้าน

เด็กชายหน้าตาน่าเอ็นดูคนหนึ่งก็มากระตุกชายเสื้อเขา

เขาก้มลงมอง และถามว่ามีอะไรให้ช่วยหรือไม่



" เพื่อนของผมบอกว่า ที่ร้านของคุณอามีลูกหมาขาย ผมอยากเลี้ยงลูกหมาสักตัว

พ่อแม่ก็อนุญาตแล้ว ขอผมดูลูกหมาของคุณอาหน่อยได้ไหมครับ" เด็กบอกอย่างสุภาพ



"อ๋อ ได้สิหนู พวกมันกำลังนอนเล่นอยู่หลังร้านน่ะ"เจ้าของร้านกล่าวอย่างยินดี

แล้วผิวปากเรียกสุนักทั้งเจ็ดออกมา

เด็กชายยิ้มร่าเมื่อเห็นลูกสุนัขวิ่งตุ้ยนุ้ยออกมาที ละตัว

เขานับ...แต่ก็มีแค่หกตัวเท่านั้น

"ไหนว่ามีเจ็ดตัว มีคนซื้อไปตัวหนึ่งแล้วหรือครับ"เด็กชายถาม



เจ้าของร้านตอบว่า " อ๋อ เปล่าหรอกหนู ยังไม่มีใครซื้อไปเลยสักตัว

เพียงแต่ตัวสุดท้ายขาหลังเขาไม่ดี มันก็เลยต้องคลานออกมา วิ่งมาพร้อมกับพี่ๆ ของมันไม่ได้"



สิ้นคำเจ้าของร้าน ลูกสุนัขตัวที่เจ็ดก็คลานออกมา

ขาหลังทั้งคู่ของมันลีบเหลือนิดเดียว มันต้องใช้ขาหน้าลากพาร่างกายออกมาจากหลังร้าน



ลูกสุนัขมองมาทางเด็กชายแล้วครางงี้ดๆ

เห็นได้ชัดว่ามันพยายามคลานมาหาเขา

หางของมันกระดิกดุ๊กดิ๊กๆ อยู่ตลอดเวลา

มันคลานเข้าไปเลียรองเท้าของเด็กชาย ท่าทางจะชอบเขามาก



เด็กชายหัวเราะแล้วอุ้มมันขึ้นมา ก่อนจะถามเจ้าของร้านว่า "หมาตัวนี้ราคาเท่าไรครับ"



"ปกติ อาบอกขายอยู่ตัวละสองพันบาทนะ"เจ้าของร้านตอบ



เด็กชายนิ่งอึ้งไปก่อนจะล้วงกระเป๋าหยิบเงินออกมานับ

เขามีเงินอยู่เพียงสี่ร้อยห้าสิบบาทเท่านั้น



"ผมมีเงินไม่พอซื้อหมาตัวนี้" เด็กชายพึมพำอย่างเศร้าใจ

เจ้าของร้านรีบบอกทันทีว่า

"โอ๊ะ! หนู ถ้าหนูอยากได้หมาตัวนี้ไปก็เอาไปเถอะไม่ต้องจ่ายเงินหรอก อายกให้หนูฟรีๆ ไปเลย"



เด็กชายฟังเจ้าของร้านแล้วชะงักไป ก่อนจะถามกลับไปอย่างไม่พอใจว่า

"ทำไมครับ ทำไมถึงบอกว่าไม่ต้องจ่ายเงินถ้าจะซื้อหมาตัวนี้"



"ก็อย่างที่หนูเห็นอย่างไรล่ะ ลูกหมาตัวนี้มันติดมาพร้อมๆ พี่ๆ น้องๆ ของมัน

และอาก็ไม่คิดว่าจะขายมันอยู่แล้ว เพราะมันพิการวิ่งก็ไม่ได้ กระโดดก็ไม่ได้

ความจริง อาไม่อยากให้หนูได้ของมีตำหนิอย่างนี้ไปนะ ลองดูตัวอื่นดีไหม"



เด็กชายเม้มปากแน่นก่อนจะพูดว่า "คุณอาดูอะไรนี่สิครับ"

ว่าแล้วเขาก็ดึงขากางเกงทั้งสองข้างขึ้น

เจ้าของร้านจึงได้เห็นว่าขาของเด็กชายคนนี้เล็กลีบเช่นเดียวกับขาหลังของลูกสุนัข

แต่ที่ทำให้เขายืนอยู่ได้ ก็เพราะมีขาเทียมช่วยพยุงเอาไว้



"คุณอาครับ ขาของผมก็ลีบใช้การอะไรไม่ได้เหมือนกัน

ผมเดินช้ากว่าเพื่อนคนอื่นๆ วิ่งก็ไม่ได้ กระโดดก็ไม่ได้

อย่างนี้ผมก็เป็นคนไร้คุณค่าหรือเปล่าครับ"



เจ้าของร้านนิ่งอึ้งไป ความรู้สึกผิดแล่นปราดเข้าสู่หัวใจของเขา



เด็กชายปล่อยขากางเกงลงแล้วพูดต่อว่า

"ผมจะซื้อสุนัขตัวนี้ในราคาสองพันบาทเท่ากับลูกหมาตัวอื่นๆ

แต่ว่าผมมีเงินไม่พอ ถ้าผมจะอ้อนวอนคุณอา ขอผ่อนราคาของลูกหมาตัวนี้

เดือนละหนึ่งร้อยบาททุกเดือน จนครบสองพันบาท คุณอาจะว่าอย่างไรครับ"



เจ้าของร้านน้ำตาไหลริน ทรุดตัวลงตรงหน้าเด็กชายและกอดเขาไว้ด้วยความประทับใ จ

พลางกล่าวขอโทษขอโพยในสิ่งที่ตนได้ทำผิดพลาดไป

เขาบอกว่าไม่ขัดข้องที่จะให้เด็กชายผ่อนค่าตัวของลูก สุนัขตัวนี้

และกล่าวว่าถ้าสุนัขทุกตัวมีเจ้านายที่จิตใจดีอย่างเด็กชาย

พวกมันก็คงจะมีชีวิตที่เป็นสุขอย่างมาก.
.....................
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
อย่าตัดสินคุณค่า จากรูปลักษณ์ภายนอก
ที่มา : นิทานสีขาว? เล่าโดย ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ค้นหา