วันอังคารที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2553

Warning!! : เรื่องเล่า วันแม่‏

สิ่งที่จะเล่าให้ฟังต่อจากนี้ เป็นเรื่องที่น่าระทึก ที่เกิดขึ้นกับตัวเองครับ เชิญติดตามได้เลยครับ
เมื่อคืนวันพุธ หลังจากได้นัดหมายแผนการทำงานกับทีมงาน และ แยกย้ายกันกลับบ้าน ตัวผมแวะเลยไปส่งแฟนกลับบ้าน แล้วออกจากบ้านแฟนมาเวลาประมาณ 4 ทุ่ม
ขณะกลับรถใต้สะพานลอย แถวพัฒนาการ-เทิดไท มุงสู่ถนนเพชรเกษม-ราชพฤกษ์ เพื่อกลับบ้านบางใหญ่
กลับรถ ตั้งลำสู่ทางตรง ยังไม่ทันเร่งความเร็วเลย มีรถมอเตอร์ไซค์ ชะลอมาปาดหน้า จอดรถขวาง ชายคนหลังไม่สวมหมวกกันน๊อค เห็นหน้าได้ชัดเจน เดินส่ายตรงมาที่รถผม
“ ซวยแล้วกรู “ ความนึกคิดแบบนี้ ออกมาทันที แล้วยื่นมือไป กด ล๊อคประตูทันที
เหลือบสายตาไปที่กระจกมองหลัง มีรถยนต์จอดต่อท้ายอย่างใกล้ชิด ข่างประหลาดใจยิ่งนัก
“ มรึงแน่นักเหรอ ขับรถปาดหน้ากรู มรึงลงมาเลย “ ว่าแล้วก็กระชากประตู
เหอะๆๆๆ มุกหมาๆ ดีนะที่รู้ทันล๊อคประตูไว้ก่อน ผม แง้มกระจกลงนิดหน่อย แล้วถามว่า
“ ผมปาดคุณที่ไหนเหรอ ถนนมีช่องเดียวมาตลอดทาง “
“ มรึงไม่ต้องพูดมาก ลงมาพูดกับกรูให้รู้เรื่อง นักเลงมากนะมรึงเนีย “ สุภาพชนตะโกนมา พร้อมกระชากประตูรถอีกที
แล้วถอยหลังไปหน่อย ถลกชายเสื้อ เพื่อจะคว้าปืนที่เอว
“ มรึงท่าจะบ้านะ “ คือคำตอบสุดท้ายที่ผมสนทนาด้วย แล้วปิดกระจก
เหยียบเบรก เหยียบคันเร่งเต็มที่ มอเตอร์ไซค์ที่ขวางหน้า เหมือนรู้ตัว คนขับเริ่มขยับรถออกด้านซ้าย แล้วผมก็เคลื่อนออกมาอย่างช้าๆ เมิ่อขับผ่านมอเตอร์ไซค์ ก็เหลือบมองกระจกมองหลัง แล้วก็ขับรถกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย
ภาพที่ผมเห็นในกระจกมองหลังคือ แทนที่สุภาพชน จะวิ่งตามมาขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ ตามหาเรื่องผมต่อ กลับยืนคุยกับรถคันหลัง
ผมสรุปได้เลยว่า มันวางแผนมาปล้นครับ
1. ด้วยที่ผมกำลังครุ่นคิดอยู่กับแผนงาน ผมรู้ตัวดีว่า ผมขับรถช้ากว่าปกติ ไม่มีทางปาดหน้าใครแน่นอน ให้แซงตลอด อีกทั้งเป็นถนนเลนดียว เพื่อมุ่งสู่ที่กลับรถใต้สะพาน ( เขาอาจจะคิดว่า คนขับเป็นผู้หญิง เหยื่อที่หมายตาเนื่องจากมองจากระยะไกล เพราะผมขับช้าตราเต่าจริงๆ )
2. เมื่อเพิ่งกลับรถ รถย่อมยังไม่มีความเร็ว เหมาะกับการปาดหน้าแล้วจอดขวาง เพราะรถจะเบรกทัน เขายังมีความปลอดภัย ลงมาเดินส่ายได้ต่อ
3. รถที่ตามประกบหลัง มีประโยชน์มาก คือ
3.1 หลอกลวงให้หลงผิด นึกว่ามีคนช่วย มีคนรู้เห็น
3.2 หากเขาสามารถเปิดประตูรถผมได้ คนในรถคันหลัง คงจะย้ายมารถผมแน่นอน
3.3 เขาจอดปิดท้ายผม ผมไม่มีสิทธิ์ที่จะถอยหลังหนี หรือ เพิ่มระยะทางเร่งความเร็วพุ่งชนได้เลย
4. บ้านเมืองนี้ คนพกปืนขี่รถจักรยานยนต์กันเกลื่อนเมืองขนาดนั้นกันเลยหรือ มีปัญหา( ที่สร้างขึ้นมาเอง ) นิดหน่อย ปืนพร้อมใช้งานทันที
5. ผมคงไม่ใช่เป้าหมายโดยตรง ทำงานอาจจะยากขึ้นหน่อย ไม่เสี่ยง เลยปล่อยผมออกมาอย่างลอยนวล
ที่บรรยายมานี้ เป็นเรื่องจริงที่เกิดกับตัวผม โดยที่ไม่คาดว่าจะเกิดขึ้นบนท้องถนนในตัวเมือง กทม.
หากผมล๊อครถไม่ทัน อะไรจะเกิดขึ้น
หากผมไม่กดคันเร่งจนมิด เขาจะหลบมั๊ย
หากผมขาดสติ ตกใจเกินเหตุ ผมคงไม่มีโอกาสมาเขียน mail ไม่มีโอกาสมาดำเนินการตามแผนที่ได้วางไว้กับทีมงานในวันนี้ ก็เป็นได้
ขอบคุณทุกท่าน ที่ได้อ่านจนถึงบรรทัดนี้ ที่เล่ามาทั้งหมด เผื่อจะเป็นประโยชน์ในยามคับขันที่อาจจะเกิดขึ้นกับได้
ขอให้สิ่งศักด์สิทธิ์ ที่ทุกท่านนับถือ จงบันดาลให้เรื่องแบบนี้ เกิดขึ้นกับคนที่เรารัก คนที่เรารู้จักเลยครับ
ด้วยรักทุกท่าน
วิสุทธิ์ สิปิยารักษ์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ค้นหา