วันพุธที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

คู่ชีวิตไม่จำกัดที่คู่สมรส....

คิดว่าเป็นบทความที่มีคุณค่ามาก คนไทยสูงอายุส่วนใหญ่จะไม่ค่อยออกไปไหน และลูกหลานหลายคนก็เป็นห่วงผู้ใหญ่มากเกินไป ไม่ยอมให้ไปไหนด้วยตนเอง ทำให้ท่านเหล่านั้นต้องนั่งเหงาหงอยคอยลูกหลานอยู่กับบ้าน จิตใจก็จะเหี่ยวเฉาลงไปทุกวัน ทำให้อายุสั้นขึ้น เป็นโรคโน่นโรคนี้มากขึ้น ส่วนใหญ่ก็เป็นโรคประสาท เรียกร้องความสนใจจากลูกหลานโดยไม่ได้ตั้งใจ การเกษีรณอายุไม่ได้หมายถึงว่าต้องหยุดทำงานแล้วอยู่บ้าน น่าจะใช้เป็นโอกาสที่สองทีธรรมชาติให้เรามีเวลาว่างที่จะท่องเที่ยว ทำสาธารณกุศล เข้าสมาคมต่างๆ ทำงานอาสาสมัคร ฯลฯ พ่อเยอรมันของแจ๊ดเคยพูดอยู่เสมอว่า ยิ่งอายุมาก ยิ่งต้องคบกับเด็กๆเพื่อให้เรารู้สึกไม่แก่ เธอมีอายุเกิน 90 อย่างกระชุ่มกระชวยที่เดียว ยังอยากจะแนะนำให้ทางการสร้างโรงเรียนอนุบาลอยู่ใกล้กับบ้านพักคนชรา เพื่อให้ทั้งสองรุ่นได้มีเวลาให้กันและกัน ได้สุงสิงกัน ทำให้ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย เห็นในต่างประเทศเขาเริ่มทำกันแล้ว

ขอให้เพื่อนๆร่วมวัย (แย้มฝาโลง) ลุกขึ้นมาใช้เวลาที่เป็นประโยชน์แก่ตัวเองบ้างนะคะ จะได้อยู่เป็นเพื่อนกันนานๆ 5555












คู่ ชีวิตไม่จำกัด ที่คู่สมรส (สำคัญนะ)
คู่ชีวิตโดยทั่วไป หมายถึงคู่สมรส ปัจจุบันค่านิยมเปลี่ยนแปลงไป วัยทองสูญเสียคู่สมรสมีอยู่ไม่น้อย ดังนั้น คำนิยามคู่ชีวิตควรขยายกว้างออกไป หมายรวมถึงผู้ ที่เป็น เพื่อนในยาม แก่ ไม่เฉพาะ เจาะจงต้องเป็นคู่ผัวตัวเมียที่บ้าน
……………………………….
หมั่น ผูกมิตรหาคู่ชีวิต เติมสีสันในวัยทอง
ค่ำ วันหนึ่ง ดิฉันรับเชิญเป็นวิทยากรบรรยายในหัวข้อ “การ บริหารความ เครียด” ให้แก่บริษัทที่ปรึกษาแห่งหนึ่ง ดิฉันสังเกต เห็นมีผู้วัยทองคนหนึ่งน่าสนใจมาก เพราะผู้ฟังในห้องล้วนเป็นชายหญิงอายุขึ้นต้นเลข 3 หรือ 4 เท่านั้น ทำไมมีคนแก่ที่ดูท่าทางตั้งอกตั้งใจมาร่วมฟังด้วย
“ผม กลัวเป็นโรคอัล ไซเมอร์ ก็เลยมาขอเรียนด้วยคน” ผู้พูดอายุกว่า 70 เห็นจะได้ แต่เสียงพูดเต็มไปด้วยกำลังวังชา เดินเหินอย่าง คล่องแคล่ว ท่านคือ มร.วู ประธานบริษัท ใหญ่แห่งหนึ่งในไต้หวัน ผู้ผลิตปลากระป๋องที่ดิฉันชื่นชอบ
ดิฉัน เห็นว่าเป็น โอกาสทองหายาก จึงเรียนเชิญ ท่านขึ้นเวที ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที แนะนำหน้าที่ การงานและ เรื่องราวชีวิต ส่วนตัวต่างๆ ถือเป็นวิทยาทานแก่คนหนุ่มสาวในห้อง เพราะความสำเร็จใน ชีวิตของท่าน คือขุมทรัพย์ สำหรับการเรียน รู้
คน ประเภทคล้าย ประธานวูมีอยู่ ไม่น้อยในแวดวง สังคมเรา คนเหล่านี้ไม่ถือตัวว่าร่ำรวยหรือมีตำแหน่งสูง กลับยังพยายาม เรียนรู้จาก ชีวิต ใช้ประโยชน์ให้คุ้มค่าในแต่ละวัน เป็นผู้น่าเคารพนับถือและ เป็นเยี่ยงอย่างที่สำหรับ เราทุกคน
ดิฉัน รู้จักยายซิ้ม คนหนึ่ง ทุกครั้งที่ไปออกกำลังกายในสวนสาธารณะ มักจะได้เห็น เรือนร่างผอม เล็กของยายซิ้ม ซึ่งอายุกว่า 70 แล้ว เดินไม่มั่นคงนัก แต่เธอมักจะ ก้าวเท้ารวดเร็ว ยิ้มแย้มทักทายกับผู้คน เธอดูเป็นคนสุข นิยม มาออกกำลังกายสม่ำเสมอไม่เว้นฝนตกแดดออก เป็นตัวอย่าง ที่ดีสำหรับคำ ขวัญที่ว่า “อยู่ ให้นาน อยู่ให้สุข” เป็นผู้ที่น่านับถืออีกคนหนึ่ง
ปัญหาคือ ทุกวันนี้ยังมีชาววัยทองไม่น้อยที่ไม่สามารถออกจากกรงประตูบ้าน ได้แต่บ่นพรำ ทั้งวัน นับแต่ลูกๆต่างมีครอบครัว ตนเองเกษียณ อยู่กับบ้าน อยู่ไปวันๆซ้ำซากไร้สีสัน มีแต่ความว่างเปล่าเดียวดาย

ชาว วัยทองต้องมี แผนชีวิต
อันที่จริง ชาววัยทองควรวางแผนชีวิตวัยทองสำหรับอีก 20-30 ปีข้างหน้า สมัยวัยไฟแรง แผนชีวิตเน้นที่การงาน การเงิน ลูกเต้าและการเจริญเติบโต โดยละเลยแผนสุขภาพ การพักผ่อนหย่อนใจและบริการสังคม
หลัง เกษียณ สุขภาพกลายเป็นแผนอันดับแรก แต่คนส่วนใหญ่ ก็ยังมองข้าม การพักผ่อนหย่อนใจและ บริการสังคม
มีผู้วัยทองท่านหนึ่งซึ่งดิฉันนับถือเป็นตัวอย่างสุดยอดในชีวิต หลังเกษียณเธอ ยังดำเนินชีวิตอย่างมีสีสัน ถ่ายรูป วาดเขียน ท่องเที่ยว ร่ำเรียน พบเพื่อน เป็นรายการส่วนใหญ่ในชีวิต ดิฉันเคยถามท่านว่า “ไม่ ต้องช่วยเลี้ยง หลานหรือ” เธอตอบอย่างไม่ลังเลว่า “นั่น เป็นเรื่องของ ลูก ธุระของฉันเองก็ทำไม่หวัดไม่ไหวอยู่แล้ว”
สรุปคือ แผนชีวิตต้องดำเนินอย่างต่อเนื่องตลอดไป เพียงแต่ต้อง ปรับอันดับก่อน หลังในระยะที่ต่างกัน แนวคิดเกี่ยวกับ “คู่ ชีวิต” ในการวางแผนสำหรับชาววัยทองแล้ว จำเป็นต้องไตร่ตรองในมุมกว้าง

คุณ มีคู่ชีวิตกี่ คน?
คู่ ชีวิตมีความ สำคัญยิ่งในโลก ของคนวัยทอง เพราะลูกๆ แยกไปอยู่ต่างหากหรือไม่ก็ง่วนอยู่กับธุระของเขาเอง ผู้วัยทองมีเพื่อนคุยรอบข้างหรือไม่จึงเป็นเรื่องที่ไม่อาจมองข้าม ฉะนั้น ชาววัยทองต้องออกจากบ้าน เข้าสู่ชุมชน มีปฏิสัมพันธ์กับสังคม โดยเฉพาะต้องไป คบหาคู่ชีวิต

ใคร บ้างที่เป็นคู่ ชีวิตคุณได้?
1. พี่ น้องจากครอบ ครัวเดิม
2. ลูกหลานและคนรุ่น ใหม่
3. เพื่อนร่วมเรียนและ เพื่อนร่วมงาน ในอดีต
4. ชาวบ้านในชุมชน
5. สมาชิกในชั้นเรียน ผู้ใหญ่
6. ศาสนิกชน กลุ่มต่าง ๆ
7. อาสาสมัครที่มาเยือนตามบ้าน
ลองใช้เวลาสัก 5 นาที จดดูว่าปัจจุบันคุณมีคู่ชีวิตทั้งหมดกี่คน หากมีมากกว่า 20 คน แสดงว่าชีวิตวัยทองของคุณมีสีสันมาก หากมี 10 คน ขึ้นไป ถือว่ามีสีสันพอสมควร หากมีเพียง 5 คนโดยประมาณ ต้องสำนึกว่าเกิดวิกฤตกาลแล้ว เพราะเครือข่าย สนับสนุนนับวัน อ่อนแอลง วันเวลาแห่งภาวะถดถอยนับวันย่างใกล้เข้ามา
แป๊ะแก่ผู้หนึ่งฟังคำแนะนำจากเมีย ไปร่วมวงกับ “คณะ กินดื่มเที่ยว เล่น” เขายิ้มหราคุยว่า “ชีวิตผมมีเพื่อน เพิ่มขึ้น 20 กว่าคน วันนี้ไปไต่เขา วันรุ่งไปดูนิทรรศการภาพเขียน อีกวันไปชิมอาหารชนบท เราเวียนกันเป็นเจ้าภาพ ใช้เงินไม่มาก เพิ่มรสชาติแก่ ชีวิตมากโข”
แสดงว่าคู่ชีวิตยิ่งมากยิ่งดี เพราะแต่ละคนมี ประสบการณ์ ชีวิตที่ต่างกัน สั่งสมภูมิปัญญาชีวิตคนละแบบ เมื่อจุดประกาย ชีวิตพร้อมกัน ก่อให้เกิดเสียงหัวเราะเฮฮา กระตุ้นความคึกคะนองขึ้นมา
โปรดจำไว้ คู่ชีวิตอย่ามีหนึ่ง มากได้ยิ่งดี ฉะนั้น หมั่นจับตาเป้าหมายรอบข้างนะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ค้นหา