วันอังคารที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

มหัศจรรย์ จาก ปลาทู‏

มหัศจรรย์ จาก ปลาทู

คอลัมน์ วาไรตี้เฮลท์





"ปลาทู"
ปลาทะเลที่ผู้คนคุ้นเคยกันมาตั้งแต่ไหนแต่ไรด้วยเป็นสัตว์ทะเลที่เป็นเหมือนเพื่อนสนิทกับสำรับกับข้าวคนไทยมานานเท่านาน



ปลาทูคลุกข้าวเคล้าน้ำปลา น้ำพริกปลาทูอันเลื่องชื่อ
ต้มยำปลาทู เมี่ยงปลาทู ปลาทูต้มกะทิ ฯลฯ
ล้วนแต่เป็นอาหารอร่อยทรงคุณค่า เหมาะกับทุกเพศทุกวัย
ตั้งแต่เด็กไปจนถึงวัยรุ่น วัยทำงาน และคนชรา



นั่นเป็นเพราะคุณสมบัติอันเพียบพร้อมของปลาทูที่เปี่ยมไปด้วย
"วิตามินดี" ที่ช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัสเข้าลำไส้
เพื่อนำไปสร้างเสริมและซ่อมแซมกระดูกและฟัน
ทั้งยังช่วยรักษาระบบประสาทและการทำงานของหัวใจให้อยู่ในสภาพที่ดีสม่ำเสมอ
และยังช่วยในเรื่องการแข็งตัวของเลือด
ช่วยควบคุมแคลเซียมไปยังส่วนต่างๆ อย่างเพียงพอ
ทั้งยังมีไอโอดีนส่วนประกอบสำคัญของฮอร์โมนที่ทำหน้าที่ควบคุมให้ร่างกายเจริญเติบโตตามปกติ




ปลาทูยังมีกรดอะมิโนโปรตีนที่จำเป็นต่อร่างกายสูงกว่าปลาชนิดอื่น
โดยเฉพาะไลซีน ที่เพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ
กระดูก เส้นเอ็น ข้อ และทรีโอนีน ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตในวัยเด็ก




ที่สำคัญปลาเพื่อนรักตัวนี้ยังมี "โอเมก้า
3" ที่ทรงคุณค่ากับร่างกายมากมาย



ศ.น.พ.ปิติ พลังวชิรา ผอ.ศูนย์โรคผิวหนัง
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
(มศว.) ผู้เชี่ยวชาญด้าน Antiaging Medicine กล่าวว่า
"โอเมก้า 3" เป็นกรดไขมันประเภทไม่อิ่มตัว
ซึ่งจากการวิจัย พบว่าการรับประทานอาหารที่มีไขมันที่จำเป็นต่อร่างกายที่มีอยู่ในปลานั้น
จะมีส่วนช่วยลดคอเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์สร้างสมดุล
ปรับระดับความข้นของเลือดให้อยู่ในภาวะปกติเป็นการช่วยลดอัตรา
การเกิดโรคหัวใจ และยังช่วยบำรุงตับอ่อนเลี่ยงความเสี่ยงที่จะ
ทำให้เกิดโรคเบาหวานได้



นอกจากนี้มีการพบว่าการรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยโอเมก้า
3 ช่วยให้ระบบประสาทและสมองดีขึ้น ป้องกันและแก้ไขโรคความจำเสื่อม
หรือโรคที่สมองไม่สั่งงาน ช่วยเสริมสภาวะจิตใจ
สุขภาพสายตา เสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรค
และช่วยป้องกันมะเร็งบางชนิด



คุณสมบัติอันเต็มเปี่ยมนี้ส่วนใหญ่แล้วจะพบอยู่ใน
"น้ำมันปลา" หรือน้ำมันที่สกัดจากปลาที่อยู่ในเขตหนาว
แซลมอน ปลาแมคเคอเรล หรือ ปลาทะเลน้ำลึก
อย่างปลาโอ ปลาซาบะ ปลาทูน่า รวมไปถึงปลากะพง
และ "ปลาทู" ยอดฮิตของเราด้วย



เนื้อปลาทู 100 กรัม จะมีสารโอเมก้า 3 อยู่ประมาณ
2-3 กรัม ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายที่ต้องการได้รับโอเมก้า
3 ประมาณวันละ 3 กรัมเท่านั้น



"ผู้ที่อยากมีคุณภาพชีวิตที่ดีควรจะหาอาหารที่ประกอบด้วยโอเมก้า
3 และหาน้ำมันปลารับประทานได้ตั้งแต่ในวัยเด็ก
ซึ่งเป็นวัยแห่งการ เจริญเติบโต และที่สำคัญในวัยนี้โอเมก้า
3 จะช่วยบำรุงสมอง จนถึงวัยสูงอายุที่ร่างกายเริ่มเสื่อมสภาพ
โอเมก้า 3 ก็ช่วยปรับสมดุล ให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นได้"




หากผู้ที่ต้องการจะเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงโดยอาศัยประโยชน์จากปลาทะเลน้ำลึกแล้ว
ปลาทูถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ




นี่คือ มหัศจรรย์ปลาทู เพื่อนสนิทคนไทย !!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ค้นหา