วันพุธที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ภัยเลขบัตรเครดิต

เรื่องราวต่อไปนี้คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง ผู้ที่ใช้บัตรเครดิตควรจะรับทราบเอาไว้ เพราะจะได้เรียนรู้การหลอกลวงฉ้อฉลจากการแอบอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของบัตร Visa (วีซ่า) และ Master Card (มาสเตอร์การ์ด) ซึ่งผู้ประสบเหตุการณ์ได้เล่าให้ฟังว่า...





เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ภรรยาของผมได้รับโทรศัพท์จากคนที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของบัตรวีซ่า ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้โทร.มาเพื่อแจ้งว่า

เจ้าหน้าที่ : สวัสดีค่ะ ดิฉัน... (ชื่อ)... โทร.จากฝ่ายรักษาความปลอดภัยของบัตรวีซ่าค่ะ คือเราตรวจสอบพบความผิดปกติในการสั่งซื้อสินค้าจากบัตรของคุณ จึงโทร.มาตรวจสอบว่าบัตรวีซ่าของคุณที่ออกโดยธนาคาร... มีการสั่งซื้ออุปกรณ์ระบบป้องกันภัยมูลค่าสองหมื่นบาท จากบริษัทในอริโซน่าหรือเปล่าค่ะ
เหยื่อ : เปล่านี่ค่ะ

เจ้าหน้าที่ : ถ้าอย่างนั้นเราจะทำเรื่องคืนเงินให้คุณกลับคืนนะคะ ขณะนี้เรากำลังตรวจสอบบริษัทฉ้อฉลโดยมีวงเงินที่มักจะฉ้อฉลลูกค้าครั้งละหนึ่งหมื่นสองพันถึงสองหมื่นบาท แล้วยังไงเราจะส่งหนังสือการแจ้งคืนเงินให้คุณทราบที่...(ที่อยู่ของคุณ)... ไม่ทราบว่าที่อยู่ถูกต้องไหมคะ
เหยื่อ : ถูกต้องค่ะ
เจ้าหน้าที่ : ดิฉันจะทำการสืบสวนเรื่องนี้ต่อไป หากคุณมีอะไรสงสัยให้โทร.มาสอบถามได้ตามหมายเลขหลังบัตรเครดิตของคุณได้เลยนะคะ ติดต่อได้ที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัย โดยการโทร.ไปตรวจสอบคุณจะต้องระบุหมายเลขอ้างอิงหกหลักตามนี้ด้วยนะคะ... (บอกหมายเลขหกหลัก) คุณต้องการให้ดิฉันทวนหมายเลขอีกครั้งมั้ยคะ

หลังจากนี้คือขั้นตอนการเริ่มต้นฉ้อโกง โดยคนที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ในสายจะสอบถามข้อมูลส่วนตัวของคุณซึ่งเป็นเจ้าของบัตร

เจ้าหน้าที่ : เพื่อตรวจสอบความเป็นเจ้าของบัตรที่แท้จริง ดิฉันรบกวนให้คุณดูหมายเลขเจ็ดตัวสุดท้าย ซึ่งสี่ตัวแรกจะเป็นหมายเลขบัตร สามตัวต่อมาจะเป็นเลขสำหรับรักษาความปลอดภัย ดิฉันขอทราบเพื่อแสดงตัวเป็นเจ้าของบัตรที่แท้จริงด้วยค่ะ
เหยื่อ : (ทบทวนหมายเลขตามที่ถูกถาม)

เจ้าหน้าที่ : หมายเลขถูกต้องค่ะ ดิฉันต้องการให้แน่ใจว่าบัตรยังอยู่กับตัวคุณ มิได้สูญหายหรือว่าถูกขโมยนะคะ
เหยื่อ : ค่ะ

เจ้าหน้าที่ : คุณมีข้อสงสัยอื่นใดอีกหรือเปล่าคะ
เหยื่อ : ไม่มีค่ะ
เจ้าหน้าที่ : หากมีข้อสงสัยใดๆภายหลังติดต่อสอบถามได้ตามหมายเลขหลังบัตรเลยนะคะ ขอบคุณค่ะ

แม้ว่าคุณจะรู้สึกว่าคุณเองไม่ได้พูดหรือตอบโต้ให้ข้อมูลอะไรกับเจ้าหน้าที่ในสายมากนัก แต่หารู้ไหมว่า ณ เวลานี้คุณได้ถูกฉ้อโกงไปเรียบร้อยแล้ว หลังจากวางสายไปได้ยี่สิบนาที ภรรยาของผมเกิดเอะใจขึ้นมา จึงโทร.กลับไปที่เจ้าหน้าที่ของบัตรดังกล่าวปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ของบัตรวีซ่าตัวจริงแจ้งว่าภรรยาของผมได้ถูกหลอกซะแล้ว เพราะเมื่อสิบห้านาทีที่ผ่านมาได้มีรายการสั่งซื้อสินค้าจำนวนสองหมื่นบาททางอินเตอร์เน็ต ซึ่งได้มีการส่งบิลมาเรียกเก็บเรียบร้อย

ซึ่งในที่สุดแล้วทางบัตรวีซ่าได้ทำการยกเลิกบัตรใบดังกล่าวและออกบัตรใบใหม่ให้ สำหรับปัญหาที่เกิดในครั้งนี้ โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ทราบว่า การฉ้อโกงครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อคุณได้แจ้งหมายเลขสามตัวสุดท้ายด้านหลังบัตรให้เจ้าหน้าที่ตัวปลอมทราบ

เจ้าหน้าที่ตัวจริงได้แจ้งให้ทราบว่าหมายเลขสามตัวหลังบัตรนั้นเป็นสิ่งสำคัญมาก ห้ามบอกให้ใครทราบโดยเด็ดขาด ถ้าหากมีคนโทร.มาพูดคุยสอบถามเรื่องราวประมาณนี้ หรือเรื่องราวที่ฟังดูแล้วน่าสงสัย ให้โทร.สอบถามที่เจ้าหน้าที่ของบัตรจากหมายเลขข้างหลังบัตรโดยตรงเลยจะดีที่สุด

เพราะนอกจากภรรยาผมที่โดนเข้ากับตัวในครั้งนี้แล้ว พอหนึ่งอาทิตย์ผ่านไปก็มีโทรศัพท์ถึงผม โดยแจ้งว่าโทร.จากบัตรมาสเตอร์การ์ด และทางคนที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ก็พูดแบะสอบถามข้อมูลที่ไม่ต่างจากที่ภรรยาผมเจอเลยสักนิด ซึ่งครั้งนี้ผมไม่ได้คุยกับเค้าจนจบ แต่รีบวางแล้วโทร.ไปแจ้งความกับทางสถานีตำรวจ ซึ่งทางตำรวจได้ให้ข้อมูลว่าได้รับการแจ้งความแบบนี้หลายรายแล้วในช่วงนี้

ผมจึงเข้าใจว่านี่เป็นอีกวิธีที่คนร้ายจะฉ้อฉลจากผู้บริสุทิ์ได้ ผู้ใช้บัตรเครดิตบางคนไม่เคยได้รับรู้ข้อมูลเหล่านี้อาจจะตกเป็นเหยื่อได้ เพราะฉะนั้นช่วยกระจายข่าวบอกกันต่อๆไปด้วยนะครับ คนที่คุณรักและรู้จักจะได้ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อ...





. ขอขอบคุณ :
ภัยร้ายใกล้ตัว By Mr.Stop
ผู้สนับสนุนเนื้อหา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ค้นหา