ในที่สุดการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ก็ได้ผู้ชนะโครงการประกวดตั้งชื่อและตราสัญลักษณ์ บัตรระบบเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติ (ETC : Electronic Toll Collection)

"ผ่านง่ายๆ ไม่ต้องรอคิวยาว ไม่ต้อง เตรียมเงินให้ยุ่งยาก ไม่ต้องเปิดกระจก ไม่ต้องรอใบรับค่าผ่านทาง ใช้เวลาไม่นาน ไม่กี่วินาที" คือ คำนิยามของบัตร Easy Pass ที่ "ชัชวาล ทวีปถาวรวงศ์" เป็นผู้ชนะการประกวดการตั้งชื่อบัตรส่วนตราสัญลักษณ์ เป็นผลงานของ "บำรุง อิศรกุล" จาระไนความหมายออกมาได้ว่า เป็นสัญลักษณ์รูปบัตรอิเล็กทรอนิกส์ มีเส้นลวดลายโค้ง หัวลูกศรเป็นสีแดงและน้ำเงิน อันเป็นสีองค์ประกอบหลักตราสัญลักษณ์ของ กทพ. สื่อถึงการบริการที่สะดวก รวดเร็ว ทันสมัยเป้าหมายก็เพื่อประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการใช้ระบบเก็บค่าผ่านทาง ETC ระบบเก็บเงินแบบใหม่ที่ไฮเทค ที่ กทพ. ต้องการนำมาเป็นผู้ช่วยในการแก้ปัญหา รถติดบริเวณหน้าด่าน รวมทั้งอำนวย ความสะดวก และเพิ่มทางเลือกใหม่ สำหรับผู้ใช้บริการทางด่วน นอกเหนือจากระบบเก็บเงินสดในปัจจุบันโครงการนี้ กทพ.มีคิวเปิดตัวประมาณเดือนสิงหาคมนี้ ประเดิมด้วย "ทางด่วน ขั้นที่ 1 และเอกมัย-รามอินทรา" ต่อด้วยทางด่วนน้องใหม่ "รามอินทรา-วงแหวนรอบนอก" เดือนตุลาคม ต่อด้วยสาย "บางพลี-สุขสวัสดิ์" ในเดือนธันวาคม ส่วนด่วนขั้นที่ 2 และสายบางนา-ชลบุรี และทางเชื่อมจะติดตั้งแล้วเสร็จภายในปี 2553

1.บัตร Easy Pass สำหรับติดกระจกหน้ารถ เมื่อรถผ่านช่องเก็บค่าผ่านทางระบบ ETC บัตรนี้จะทำหน้าที่สื่อสารกับเสาอากาศในช่องเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติ เพื่ออ่านค่าพร้อมตัดยอดเงินในบัญชีของผู้ใช้บริการ 2.บัตร Smart Card ใช้สำหรับเติมเงิน ค่าผ่านทางในบัตร ประโยชน์ของบัตร Easy Pass นอกจากจะช่วยแก้ไขปัญหาจราจรติดขัดบริเวณหน้าด่านแล้ว ยังสามารถระบายปริมาณจราจรผ่านช่องเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติได้สูงสุดถึง 1,200 คัน/ชั่วโมง ขณะที่ประสิทธิภาพของการให้บริการ โดยใช้พนักงานเก็บเงิน ระบายปริมาณจราจรได้เพียง 450 คัน/ชั่วโมง แถมอำนวยความสะดวก รวดเร็วในการผ่านทางได้ง่าย ไม่ต้องรอใบรับค่าผ่านทาง ไม่ต้องรอคิวยาว ไม่ต้องเตรียมเงินให้ยุ่งยาก เพียงแค่วิ่งผ่านเข้าช่องเท่านั้นรับรองว่า "ผ่านง่ายๆ ไม่ต้องรอคิวยาว" ตามสโลแกน บัตร Easy Pass แน่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น