วันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

เตือภัยสำหรับคนไประยอง เพื่อนๆส่งต่อด้วยนะ‏

Subject: Fw: เตือภัยสำหรับคนไประยอง เพื่อนๆส่งต่อด้วยนะ
--------


สำคัญมาก..........อย่าประมาทละ


เตือนภัยผู้ใช้เส้นทางเขาไม้แก้วทะลุผ่านสัตหีบ

อ่านไว้แล้วก็ระวังกันหน่อยนะครับ
สำหรับคนชอบไปเที่ยวทะเลแถบๆจังหวัดระยอง
(จากเรื่องจริงที่ผู้ประสบเหตุฟอร์เวิร์ดมาให้

เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ที่เพิ่งจะผ่านมาสด ๆร้อน ๆ นี่เอง
อยากจะเล่าให้เป็นอุทาหรณ์ เตือนเพื่อน ๆที่ขับรถเอง
โดยใช้เส้นทางเขาไม้แก้ว ทะลุผ่านสัตหีบ
(สามารถแยกไประยองได้)

เส้นทางนี้เกือบทำให้ปูและพี่อุ๊ดเป็นอะไรที่อันตรายได้มากมายเลยทีเดียว

เรื่องมีอยู่ว่า...................
วันเสาร์ที่ 11(น่าจะเป็นเดือนสิงหา)
พอเลิกงาน 5โมงเย็น ปูกับพี่อุ๊ดก็รีบขับรถไปหาพ่อกับแม่พี่อุ๊ด ที่ สัตหีบ
(ชลบุรี) ทันที

เราสองคนขับไปเส้นมอเตอร์เวย์ จนกระทั่งเกือบถึง
ทางแยกที่ป้ายจะบอกว่าตรงไปพัทยา เลี้ยวซ้ายไประยอง(เขาไม้แก้ว)

ตอนนั้นเห็นว่าจะ 4ทุ่มแล้ว ถ้าเราไปเส้นพัทยาก็กลัวว่ารถจะติด
และนานถึงจึงเลี่ยงไปเส้นระยอง (เขาไม้แก้ว)ซึ่งสามารถทะลุไปถึง กม. 10
(รพ.สิริกิต์ )
เลี้ยวขวาอีกนิด ก็ถึงบ้านพ่อกับแม่...........

ขับมาเรื่อย ๆ คนที่อยู่ระยองจะรู้ว่าเส้นทางนี้เปลี่ยวมาก
และรถยนต์วิ่งสวนทางกัน..............

ขณะนั้นเกือบ 4ทุ่ม รถเริ่มไม่ค่อยมีวิ่ง นาน ๆ จะขับสวนทางกันสักคัน
ปูกับพี่อุ๊ดขับมาเกือบจะถึงทางเข้าด้านหลังวัดชีจรรย์
ระหว่างทางปูสังเกตุเห็นขอนไม้วางพาดไหล่ทางเยอะมากกกกกกกก
จนเอ่ยปากคุยกับพี่อุ๊ดว่า
ทำไมขอนไม้เยอะจังเน๊อะ

พี่อุ๊ดก็บอกว่าสงสัยฝนตกลมแรง พากิ่งไม้หักมั้ง
แต่ปูดูแล้ว มันไม่ใช่กิ่งไม้หัก แต่เป็นขอนไม้ขนาดย่อม
ที่วางพาดไหล่ทางประมาณว่าจะให้รถที่วิ่งมาหักหลบอย่างนั้นเลย

แล้ว.............ก็มองเห็นเห็นรถคันหนึ่ง..............
กำลังจะวิ่งสวนทางรถปูไป ..................แต่แล้วจู่ ๆ
..................
รถยนต์ ( โฟร์วีลสีน้ำเงิน) ก็ขับปาดหน้าทำให้รถปูต้องเหยียบเบรคกระทันหัน(ถ้าไม่เบรคอย่างเร็ว ต้องชนกันแน่ ๆ )

ตอนนั้นตกใจมาก....หัวทิ่มเลยอ่ะ.....

รถโฟร์วีล ห่างกับรถปูประมาณ 6-7 ก้าวคิดกันว่า สงสัยรถคันนั้นจะเลี้ยวเข้าซอยแต่เอ๊ะ มันไม่มีซอย...............

คิดกันอีกว่า รถคันนั้นจะเลี้ยวรถกลับแต่เอ๊ะ ทำไมมันจอดนานจัง..............

เวลาผ่านไปประมาณ 30 วินาที ( มันนานนะถ้าเขาจะเลี้ยวรถกลับ)

แต่รถคันนั้นก็ไม่ยอมทำอะไรสักทีนิ่งอยู่อย่างนั้น...................
สักพัก รถคันนั้นดับไฟหน้ารถ.................

ปูกับพี่อุ๊ด ก็รู้เลยว่ามีอะไรไม่ดีแน่ ๆ รีบเช็ค ว่ารถล็อครึยัง
เปิดไฟสูงใส่มัน แล้วพี่อุ๊ดก็ รีบเอามีดข้างเบาะ
มาให้ปูถือไว้............ส่วนพี่อุ๊ดเอง
รีบหันไปคว้าปืนหลังเบาะ ( เวลาต้องการใช้มันทำไมมันหาไม่เจอสักที)

ถึงหาเจอก็ยังไม่ได้ใส่ลูก....ฮ่วย... )

ตอนนั้น เวลานั้นเชื่อมั้ยเพื่อน ๆ
ไม่มีรถผ่านมาสักคันเลย............ปูกลัวมากกกกกกก

มองดูพี่อุ๊ดเอง ก็คงไม่ต่างจากปู........ปูมองที่รถมันตลอด

แต่เหมือนกับว่ามันดูเชิงเรา คือมันเองก็ยังไม่ลงจากรถ
คือต่างคนต่างจอดอย่างนั้นรถปูจะถอยหลังก็ไม่ได้
เพราะมีขอนไม้พาดอยู่เยอะมากกกกจะเดินหน้าก็ไม่ได้เพราะคงไม่พ้นรถมัน

กลัวว่ามันจะถอยชนด้วย............

มือปูก็คลำ หาโทรศัพท์ หาไม่เจอ.............กดไม่ถูก.........

สักพัก .................
มันเปิดประตูรถออกมา เป็นผู้ชาย 2 คน
แต่คนขับยังอยู่ในรถ.................... ไม่ปิดหน้า ไม่ใสหมวก
เป็นวัยกลางคน.............

หัวใจปูแทบอยู่ตาตุ่ม.........กลัวมากกกกกกกกกกกก

รู้ว่าตัวเองเสียงสั่นนน

บอกพี่อุ๊ดว่า

พี่อุ๊ดทำไงดี มันจะทำอะไร ปูกลัว............(สติไม่อยู่กับตัวแล้ว)

พี่อุ๊ดบอกปูว่าใจเย็น ๆ ปู ใจเย็น ๆ

ให้ปูข้ามไปอยู่เบาะหลังแล้วถ้ามันทุกกระจกรถ
ให้ปูเอามีดแทงมันเลยนะ
( ถ้าเป็นเพื่อน ๆจะก้าวไปหลังรถกันมั้ยอ่ะ.........แต่ปูไม่ไปตอนนั้นคิดว่า อยู่ด้วยกัน เป็นอะไรก็เป็นด้วยกัน )

แล้วพี่อุ๊ดก็บีบแตรรถ ให้มันเสียงดังบีบแบบต่อเนื่อง เท่าที่จะบีบได้ให้เสียงดังเข้าไว้

ส่วนปูเอง ก็จับมีดแน่น หัวสมองคิดไรไม่ออก รู้แค่ว่าปูจ้องมันอยู่(ทำได้แค่นั้น )

พอผู้ชายคนที่ 2ลงจากรถ มันก็เดิมมาหาผู้ชายคนแรก
แล้วก็เดินมาทางรถปู
มันเดินมาจวนจะถึงอยู่แล้ว พี่อุ๊ดก็บีบแตรเสียงดัง..................

พอดีมีรถกำลังวิ่งมาจากด้านหน้า 1 คัน และรถวิ่งมาข้างหลัง 2 คัน
มันคงเห็นท่าไม่ดี ก็รีบวิ่งหันหลังกลับขึ้นรถมันแล้วรีบเลี้ยวออกไปทันที

รถคันที่มาด้านหลัง 2 คัน เขามาด้วยกัน จอดรถแล้วลงมาถามว่าเป็นอะไรรึเปล่า
เพราะเขาเห็นรถปูส่องไฟที่รถมัน นานแล้ว........... (เขาบอกว่าเขาเป็นคนแถวนี้ )
และได้ยินเสียงแตรรถ เขาก็รีบออกมาดูกันและคิดกันว่าต้องมีอะไรแน่ๆ

สักพักเสียงโทรศัพท์พี่อุ๊ดก็ดังขึ้น แม่พี่อุ๊ดโทรมา ถามว่าถึงไหนแล้ว
รู้สึกเป็นห่วงยังไงก็ไม่รู้.......

คุยกับคนที่ขับรถมา 2คัน เขาเป็นลุงกับหลานกัน บอกกับปูว่า
แถวนี้ปล้นกันเยอะมาก พอดีว่ามาเฝ้าไร่ แล้วได้ยินเสียงรถเบรค
เห็นไฟส่องรถพร้อมกับเสียงแตรรถ
ก็เลยรีบพาหลานออกมา..............ถึงตอนนี้ปูเพิ่งจะร้องไห้ออก........น้ำตาทะลักออกมาเลย ทั้งดีใจ
ทั้งตกใจ...........ขอบคุณ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
ลุงกับหลาน มากๆ ๆๆ ๆ ๆ ๆ

เพราะถ้าเขาไม่มาไม่รู้ว่าปูกับพี่อุ๊ดจะเจออะไรกันบ้าง...........ไม่กล้าคิด..
......กลัวมากกกกก

เพื่อน ๆ น้าๆ
ถ้าจำเป็นต้องไประยอง หรือสัตหีบ พยายามอย่าใช้เส้นทางนี้นะ
ให้ยอมเสียเวลาไปเส้นพัทยา เข้าสัตหีบแล้วตรงไประยองจะปลอดภัยกว่ามากเลย

ดีใจที่เราสองคนปลอดภัยกลับมา.............
ดีใจที่เราสองคนไม่เป็นอะไร............

ขอบคุณลุงกับหลาน......ขอบคุณมาก ๆ ๆ ......(ลืมถามชื่อซะอีก.......)

และดีใจ........ที่ได้กลับมาเล่าเรื่องนี้ให้เพ ื่อน ๆฟัง................

ได้รับเมล์แล้วส่งต่อด้วยครับ พวกคนเราจะได้ปลอดภัย ดีกว่าโดนพวกคนชั่วมาปล้น อันตรายมาก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ค้นหา