วันพุธที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2553

ว่าด้วยเรื่อง "เมีย"‏

เมียหลวง
คือ ภรรยาที่เคยดีที่สุดในอดีต แต่กาลเวลาและสิ่งแวดล้อม
ทำลายความดีของเธอจนหมดสิ้นในระยะเวลาอันสั้น และทิ้ง
ความโหดร้ายไว้ให้เธอต้องรับผลกรรม คือ ความจุกจิก จู้จี้ ขี้บ่น แก่ง่าย
ตายยาก พูดมาก กินจุ อ้วนเหมือนหมู ดุเหมือนเสือ


เมียเก็บ
คือ อาหารพิเศษ มีรสชาติแตกต่างจากอาหารธรรมดาทั่วไป
เหมาะที่จะกินเป็นครั้งเป็นคราว เพื่อแก้เลี่ยน เป็นสินค้ายอดนิยม
และมีราคาแพง เงื่อนไขเยอะ


เมียน้อย
คือ ผู้หญิงที่ดีที่สุด ที่ผู้ชายเพิ่งมาค้นพบภายหลัง


เมียแต่ง
คือ ผู้หญิงที่ทรงคุณค่าและคุณผู้ชายอยากจะประทับรอยรักสุดใจ
ขาดดิ้น แต่ไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ได้ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่านี


เมียเช่า
คือ ผู้หญิงผิวคล้ำ ขี้ร้อน ใช้เสื้อผ้าน้อยชิ้น สูบบุหรี่กินเหล้าเป็นงานอดิเรก
รสนิยมสูง นิยมบริโภคของนอก มีปริมาณความรักขึ้นลงตามกระแสเงินสด


เมียจ๋า
คือ ผู้หญิงหน้าดุเหมือนเสือ ยืนชูไม้เหมือนเทพีสันติภาพ และมี
สามีนั่งคุกเข่าอยู่กับพื้น ประสานมือเหนือหน้าอกเหมือนไหว้เจ้า
เพราะมีประวัติเพิ่งทำการละเมิดข้อห้ามร้ายแรงของภรรยาบังเกิด
เกล้า ลักษณะตัวสั่น น้ำลายไหลเล็กน้อย พูดตะกุกตะกักว่า
’เมียจ๋า ’ ซึ่งเป็นคำพูดในความหมาย ขออภัย ไถ่โทษ


เมียกู
คือ ผู้หญิงสวย ขาว หุ่นเพรียวผอม อายุน้อย หน้าตาน่ารัก
เพราะยังไม่มีการรวมตัวของไขมันและตีนกา พูดจาไพเราะอ่อนหวาน
ผู้ชายที่พบเห็นจะเกิดอาการเขื่อนกั้นน้ำลายพัง ทำให้เอ่อล้นออกมานอกปาก
แสดงอาการหึงหวง กีดกันชายอื่นไม่ให้เข้าใกล้
แสดงความเป็นเจ้าของ ทั้งที่บางครั้งยังไม่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง


เมียบังเกิดเกล้า
คือ ผู้หญิงที่น่าเบื่อที่สุดในโลก ความรู้น้อย บริหารงานไม่เป็น
vision เป็นศูนย์ เผด็จการ ชอบใช้อำนาจในทางที่ผิด ข่มขู่
ทำร้ายร่างกาย ใช้คำพูดหยาบคาย บุคลิกภาพน่ารังเกียจ
เป็นที่ชิงชังของเพื่อนบ้านและผู้ชายทั่วไป โดยเฉพาะสามี
จากคุณสมบัติที่น่าสยดสยองดังกล่าว ทำให้สามีเกลียด ขยะแขยง
คลื่นไส้จนไม่อยากพูดด้วย ไม่อยากโต้ตอบ ไม่อยากมีเรื่อง

สามีที่มีภรรยาประเภทนี้ จึงใช้คำ
พูดอยู่สองคำ คือ ’ ครับ ’ และ ’ ใช่ครับ ’ และใช้สรรพนามเรียกภรรยาว่า ’ แม่ ’
มักอธิบายให้เพื่อนฟังว่า เรียกตามลูก แต่เพื่อน ๆ ไม่แน่ใจว่าเรียกตามลูกหรือ
เรียกด้วยความเคารพยำเกรง เพื่อสวัสดิภาพของตัวเอง และที่สำคัญ ได้ลบคำว่า ’ นอกใจ ’
ออกจากสมองและพจนานุกรมในบ้านเรียบร้อยแล้ว


เพิ่มเติม ความหมายของคำว่า เมีย (WIFE)

W = without = ปราศจาก

I = Information = แจ้งให้ทราบ

F = Fighting = ต่อสู้ (ทะเลาะ)

E = Every Day = ทุก ๆ วัน

รวมความก็คือ

Without Information Fighting Everyday

แปลเป็นไทยก็คือ หาเรื่องทะเลาะได้ทุก ๆ วัน โดยปราศจากการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ๕๕๕๕๕๕๕


พระพุทธเจ้าทรงกล่าวถึงภรรยา ที่ภาษาชาวบ้านอย่างเรา ๆ เรียกว่า "เมีย" มีด้วยกัน ๗ ประเภท ดังนี้
ภรรยา ๗ ประเภท

ปัญหา พระผู้มีพระภาคทรงจำแนกภรรยาไว้กี่ประเภท มีอะไรบ้าง ?
พุทธดำรัสตอบ

“......ดูก่อนสุชาดา ภรรยาของบุรุษ ๗ จำพวกนี้... คือ

ภรรยาเสมอด้วยเพชฌฆาต ๑

ภรรยาเสมอด้วยโจร ๑

ภรรยาเสมอด้วยนาย ๑

ภรรยาเสมอด้วยแม่ ๑

ภรรยาเสมอด้วยพี่สาวน้องสาว ๑

ภรรยาเสมอด้วยเพื่อน ๑

ภรรยาเสมอด้วยทาสี ๑

ปัญหา ที่ว่าภรรยาเสมอด้วยเพชฌฆาตนั้น เป็นอย่างไร ?
พุทธดำรัสตอบ “.....ภรรยาผู้มีจิตประทุษร้าย ไม่อนุเคราะห์ด้วยประโยชน์เกื้อกูล ยินดีในชายอื่น ดูหมิ่นสามี เป็นผู้อันเขาซื้อมาด้วยทรัพย์ พยายามจะฆ่าผัว ภรรยาของบุรุษเห็นปานนี้เรียกว่าวธกภริยา ภรรยาผู้เสมอด้วยเพชฌฆาต”

ปัญหา ที่ว่าภรรยาเสมอด้วยโจร นั้น มีลักษณะอย่างไร ?
พุทธดำรัสตอบ “.....สามีของหญิงประกอบด้วยศิลปกรรม พาณิชยกรรม และกสิกรรม ได้ทรัพย์ใดมา ภรรยาปรารถนาจะยักยอกทรัพย์แม้มีอยู่น้อยนั้นเสีย ภรรยาของบุรุษเห็นปานนี้เรียกว่าโจรีภริยา ภรรยาผู้เสมอด้วยโจร”

ปัญหา ที่ว่าภรรยาเสมอด้วยนายนั้น มีลักษณะอย่างไร ?
พุทธดำรัสตอบ “.....ภรรยาที่ไม่สนใจการงาน เกียจคร้าน กินมาก ปากร้าย ปากกล้า ร้ายกาจ กล่าวคำหยาบข่มขี่สามีผู้ขยันขันแข็ง ภรรยาของบุรุษเห็นปานนี้เรียกว่าอัยยภริยา ภรรยาผู้เสมอด้วยนาย”

ปัญหา ที่ว่าภรรยาเสมอด้วยแม่นั้น มีลักษณะอย่างไร ?
พุทธดำรัสตอบ “.....ภรรยาใดอนุเคราะห์ด้วยประโยชน์เกื้อกูลทุกเมื่อ ตามรักษาสามีเหมือนมารดารักษาบุตร รักษาทรัพย์ที่สามีหามาได้ไว้ ภรรยาของบุรุษเห็นปานนี้เรียกว่ามาตาภริยา ภรรยาผู้เสมอด้วยแม่”

ปัญหา ที่ว่าภรรยาเสมอด้วยพี่สาวน้องสาวนั้น มีลักษณะอย่างไร ?
พุทธดำรัสตอบ “.....ภรรยาที่เป็นเหมือนพี่สาวน้องสาว มีความเคารพในสามีของตน เป็นคนละอายบาป เป็นไปตามอำนาจสามี ภรรยาของบุรุษเห็นปานนี้เรียกว่าภคินีภริยา ภรรยาผู้เสมอด้วยพี่สาวน้องสาว”

ปัญหา ที่ว่าภรรยาเสมอด้วยเพื่อนนั้น มีลักษณะอย่างไร ?
พุทธดำรัสตอบ “.....ภรรยาใดในโลกนี้ เห็นสามีและชื่นชมยินดีเหมือนเพื่อนผู้จากไปนานแล้วกลับมา เป็นหญิงมีตระกูล มีศีล มีวัตร ปฏิบัติสามี ภรรยาของบุรุษเห็นปานนี้เรียกว่าสขีภริยา ภรรยาผู้เสมอด้วยเพื่อน”

ปัญหา ที่ว่าภรรยาเสมอด้วยทาสีนั้น มีลักษณะอย่างไร ?
พุทธดำรัสตอบ “.....ภรรยาที่สามีเฆี่ยนตี ขู่ตะคอก ก็ไม่โกรธ ไม่คิดพิโรธโกรธตอบสามี อดทนได้ เป็นไปตามอำนาจสามี ภรรยาของบุรุษเห็นปานนี้เรียกว่าทาสีภริยา ภรรยาผู้เสมอด้วยทาสี”

ภริยาสูตร ส. อํ. (๖๐)
ตบ. ๒๓ : ๙๓-๙๕ ตท. ๒๓ : ๘๗-๘๘

แล้ว "ภรรยา" ของท่านเป็นแบบใด?

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ค้นหา