วันอังคารที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2553

คงไม่สายเกินไป หากจะส่งข้อความนี้ให้ทุกๆคนได้อ่าน

คงไม่สายเกินไป หากจะส่งข้อความนี้ให้ทุกๆคนได้อ่าน
อยากให้ทุกคนได้อ่านและตระหนักถึงความสำคัญของ “ เธอ ”


อ่านแล้วอย่าร้องเหมือนเรานะ...

ความรู้สึกของน้องคนหนึ่งที่บรรยายออกมาจากใจ

ในขณะที่.... หนูก็เป็นเช่นเด็กวัยรุ่นทั่วๆ ไป เรียน เที่ยว นอน กิน
ดึกๆ หนูก็โทรคุยกับแฟนของหนู
ซึ่งทั้งหมดเหล่านี้มันก็เป็นกิจวัตรประจำวันของหนู
และหนูก็เชื่อว่าใครๆ เค้าก็ทำแบบนี้กัน
' จ้า ตัวเอง วันนี้กินข้าวรื้อยาง '
' กินกับอะไรบ้าง แล้วตอนกินตัวเองคิดถึงเค้ามั้ยเนี่ย '
' รู้มั้ยตัวเอง ถ้าเค้าเป็นผีเนี่ย เค้าอยากเป็นกระสือที่รักจะได้เห็นใจไง '
' ตัวเองวางก่อนดิ ก่อนดิ '
ประโยคต่างๆ ที่หนูได้คิดและคัดสรรเตรียมพร้อมมาต่างๆ ก่อนโทร
หนูยังคงใช้เวลาส่วนใหญ่ตอนดึกไปกับการคุยโทรศัพท์
ระยะเวลาอันหนูได้ใช้ไปในแต่ละครั้งนั้น
พอรู้สึกอีกทีก็ผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว
แต่หนูก็ไม่ชอบนะ หากใครจะมาว่าหนูไร้สาระ
ก็ไม่เห็นหรอคนส่วนใหญ่เค้าก็ทำกัน
' เอ้อ เกือบลืมไปอีกอย่าง กิจวัตรอีกอย่างนึงของหนูก็คือ
แม่ของหนูมักชอบโทรหาหนูทุกวัน ' ' ตอนนี้ลูกอยู่หอรึยัง '
' เย็นนี้กินข้าวอิ่มมั้ย ' ' วันนี้เรียนเป็นยังไงบ้าง ' ' อย่าไปเที่ยวที่ไหนไกลนะ '
โธ่!คำถามเดิมๆ หนูก็ตอบไปแบบเดิมๆ
แม่หนูก็ไม่เบื่อซักที ยังคงโทรหาหนูเป็นประจำ
โชคดีที่หนูพยายามตัดบทคุย
หนูกับแม่น่ะคุยกันไม่กี่นาทีก็วางแล้ว
ก็มันไม่มีอะไรจะคุยจะให้หนูทำยังไง
จนกระทั่งวันนั้น ' ตัวเองตอบเค้าได้รึยังว่ารักเค้ามั้ย '
' เร็วๆสิ เค้ายังอุฒส่าห์บอกรักตัวเองไปแล้วนะ '
' แล้วยังจะใจร้ายไม่บอกรักเค้าอีกหรอ '
ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ เสียงจากโทรศัพท์บอกหนูว่ามีสายซ้อน
หนูมองไปที่หน้าจอมันขึ้นชื่อว่า 'Home'
' โธ่ แม่โทรมาทำไมตอนนี้เนี่ย กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเลย '
หนูไม่สลับสายหนู หนูยังคงคุยกับสุดที่รักของหนูต่อไป
เพราะหนูรู้ว่าสิ่งที่แม่จะคุยกับหนูก็คงเป็นประโยคเดิมๆ
' และนั่นก็เป็นโอกาสสุดท้าย ที่หนูจะมีโอกาสฟังเสียงของแม่ '
หลังจากนั้นไม่นานทางญาติของหนูโทรมาแจ้งหนูว่า
เมื่อคืนนี้บ้านของหนูถูกขโมยเข้า และแม่ของหนูขัดขืน
และได้ต่อสู้กับโจร จึงถูกโจรใช้มีดแทงเข้าที่ท้อง
แม่เสียชีวิตเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว
ญาติของหนูเล่าอีกว่าตอนไปพบศพแม่นั้น
ในมือของแม่กำโทรศัพท์ไว้แน่น
และเบอร์โทรออกล่าสุดของเธอไม่ใช่โทรแจ้งตำรวจ
หรือเรียกรถพยาบาล แต่แม่เลือกที่จะโทรหา ' หนู '
สิ่งสุดท้ายในชีวิตที่แม่หนูเลือกที่จะทำคือ โทรศัพท์หาหนูเพื่อฟังเสียงของหนู
วินาทีนั้นน้ำตาของหนูไหลอาบแก้ม หนูพูดอะไรไม่ออก มือและตัวของหนูสั่น
วันนั้นหนูเลือกที่จะคุยกับแฟนหนู ดีกว่าที่จะคุยกับแม่ของหนู
ผู้หญิงคนเดียวในโลก ที่คุยกับหนูเป็นคนแรกในชีวิต
ผู้หญิงคนเดียวที่หนู สามารถที่จะคุยกับเธอได้ทุกเวลา
โดยที่หนูไม่ต้องเตรียมบทพูดใดๆ ไม่ต้องกังวลว่าเธอจะประทับใจหรือไม่
ไม่ต้องมีมุข ไม่ต้องมีคำหวานใดๆ
คนเดียวในโลก ที่โทรมาหาหนูเพียงแค่ฟังหนูพูดประโยคเดิมๆ
คนเดียวในโลก ที่ไม่ว่าโทรศัพท์เธอจะโปรโมชั่นแพงแค่ไหนก็ยังโทรหาหนู
' และ คนเดียวในโลก ที่เลือกคุยกับหนูในวินาทีสุดท้ายในชีวิต '
ในบางครั้งประโยคที่ว่า ' ไม่มีคำว่าสาย หากเราคิดที่จะแก้ตัว '
มันก็ไม่เป็นความจริง ' เพราะบางปรากฏการณ์ในโลก เกิดขึ้นได้แค่ครั้งเดียว '
อาจเป็นเพราะเวรกรรมของหนู
หลังจากนั้นไม่นานแฟนหนูที่หนูใช้เวลาคุยกับเธอวันหลายๆ ชั่วโมงก็ทิ้งหนูไป
วันนี้หนูเริ่มเข้าใจชีวิตมากขึ้น
หลายๆ อย่างที่คนส่วนใหญ่ทำ มิได้หมายถึงสิ่งที่ถูกต้องเสมอไป
เพราะตัวเราเท่านั้นที่เป็นผู้ต้องรับผลการกระทำของเราเอง
' เราจะรู้ว่าสิ่งใดสำคัญ ก็ต่อเมื่อเราต้องเสียมันไป '
ทุกวันนี้หนูนั่งมองโทรศัพท์
รอที่จะตอบคำถามเดิมๆ ให้ผู้หญิงคนหนึ่งฟัง
แต่ผู้หญิงคนนั้นคงไม่มีอีกแล้ว


' ในเมื่อเรามีความรักอันเต็มเปี่ยมจากครอบครัว
แล้วทำไมต้องไปขอเศษเสี้ยวจากใคร '


ส่งต่อไปเรื่อยๆเถอะนะค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ค้นหา