วันจันทร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2553

ที่สองดีกว่าที่หนึ่ง‏

ที่สองดีกว่าที่หนึ่ง

น้องคนหนึ่งส่งเทปมาให้ผม 2 ม้วน
เป็นเทปที่อัดจากการพูดคุยของศุ บุญเลี้ยงกับแฟนๆของเขาในงานสัมมนางานหนึ่ง
ผมเปิดฟังทันทีด้วยความเพลิดเพลินในมุมมอง
และความคิดของชายหนุ่มที่ไฟความฝันไม่เคยมอดคนนี้
ผมรู้ว่ากิจกรรมอย่างหนึ่งในชีวิตที่ศุ บุญเลี้ยง
ชอบมากและเต็มใจที่จะทำอยู่เสมอ นั่นก็คือการทำค่าย
ไม่ว่าจะเป็นค่ายเด็กหรือค่ายคนพิการ(หรือค่ายเด็กพิการ)
ในเทปมีคำพูดของเขาอยู่ตอนหนึ่งที่ผมฟังแล้วชอบมาก

ศุ เล่าว่าครั้งหนึ่งเขาพาเด็กไปเข้าค่าย
แล้วเขาให้เด็กวิ่งแข่งกัน
แต่กติกาคือ ใครเข้าเส้นชัยเป็นที่สอง-ชนะ
ชายหนุ่มเล่าว่าผลที่เกิดขึ้นก็คือ
แทนที่จะเอาชนะกันด้วยการเป็นคนที่เร็วที่สุดที่เข้าเส้นชัย
เด็กๆ กลับวิ่งแข่งกันอย่างสนุกสนาน
มีเสียงหัวเราะเฮฮาดังขึ้นอย่างร่าเริง
ในหมู่ผู้แข่งขันที่ไม่ต้องการเป็นที่หนึ่ง

ในชีวิตที่ผ่านมาบ่อยครั้งผมคิดว่า
เราถูกปลูกฝังให้เอาชนะ
คะคานเพื่อขึ้นสู่การเป็นเลิศกันมาตลอด

เราอยากเรียนให้ได้คะแนนดีที่สุด
เราอยากสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ดีที่สุด
เราอยากเป็นคนทำงานที่เก่งที่สุด
เพื่อให้เจ้า นายเห็นว่าเราเยี่ยมที่สุดในบริษัท
เราอยากเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จสูงสุด ฯลฯ

และเมื่อตั้งเป้าอย่างนี้แล้ว
เราจึงต้องทำทุกอย่างเพื่อให้บรรลุจุดหมาย
โดยบ่อยครั้งที่เราหลงลืม
หรือจงใจมองข้ามมันไปว่าเราได้ทำร้ายใครบ้างหรือเปล่า

ผมไม่ได้ว่า การแข่งขันเป็นสิ่งที่เลวร้าย
มีความดีอยู่บ้างในตัวของมันครับ
อย่างน้อยก็ทำให้เราไม่เป็นคนเอื่อยเฉื่อย
เดินหายใจไปวันๆ

ผมเพียงอยากให้ผู้เข้าแข่งขันทุกคน
ได้หยุดคิดสักนิดว่า

เราสามารถที่จะแข่งขันกันโดยไม่ต้องขัดขา ผลักหลัง
หรือแอบเหยียบเท้าฝ่ายตรงข้ามได้หรือไม่
ซึ่งคำตอบสำหรับคำถามนี้ ผมคิดว่าได้ครับ

เราสามารถช่วยกันสร้างให้เกิดการแข่งขันอันเปี่ยมไปด้วยมิตรไมตรีได้
แต่เรื่องสวยๆ อย่างนี้จะเกิดขึ้นได้ก็เมื่อเราทุกคนคิดว่าใครเข้าที่สอง-ชนะ

แล้วคุณล่ะคิดอย่างไร??


** ถึงเพื่อนๆของกอบัว
ขอต่อท้ายประโยคที่เป็น FW Mail ตัวนี้
พอดีในค่ายที่เล่ามานี้ บัวเคยเป็นส่วนหนึ่งของค่ายเด็ก
เคยพาลูกชายตัวน้อยไปแข่งวิ่งเข้าที่สอง ที่สาม และแข่งกันที่โหล่
เด็กๆหลายๆคน คลานบ้าง บางคนคลานถอยหลัง บางคนคลานอยู่กับที่
ทุกคนคิดทุกวิถีทางที่จะให้ตนแพ้!!!! แปลกไหม การแข่งขันครั้งนี้ไม่มีใครอยากเป็นที่หนึ่ง
สนุกมากๆ พ่อกับแม่ถ่ายวีดีโอไป หัวเราะไป ทุกวันนี้ในชีวิต ใครหลายๆคนบอกว่าบ้านเราสันโดษ
เรามีรถคันเล็กๆ มีบ้านหลังเล็กๆ มีพ่อตัวเล็ก มีความสุขเล็กๆ ถึงเราจะกลุ้มอกกลุ้มใจบ้างกับปัญหาหนี้
แต่เรามีความสุขกับวันนี้ วินาทีนี้ มีรักรายล้อมข้างกาย มีกำลังใจให้กับคนรอบข้าง
ลุงศุ(หรือลุงจุ้ยของลูกชาย) สอนอะไรให้มากมาย วันไหนที่เราหนี้เบาบาง
เราพาลูกๆของเราไปออกค่ายของลุงจุ้ยกัน ไปเที่ยวสมุยบ้านคุณจุ้ยกัน บัวจะพาไป
กอบัว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ค้นหา