วันพฤหัสบดีที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2553

สัญญาณจากฟ้า ไพร่แดง อย่าตายฟรี เพื่อทักษิณ‏

น้ำฝน น้ำบริสุทธิ์จากธรรมชาติ เทลงมาจากฟ้า เหมือนเทวาผู้มีฤทธิ์ ประทานน้ำศักดิ์ สิทธิ์จากเบื้องบน เพื่อชะล้างความสกปรก โสมม ของเลือดไพร่แดง ผสมเลือดควาย ที่ถูกลิ่วล้อของ นช. ทักษิณ ชินวัตร เอาไปเทหน้าทำเนียบรัฐบาล หน้าพรรคประชาธิปัตย์ และหน้าบ้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี

เหมือนฟ้าอำนวยพร ให้คนดี ผู้กล้าหาญ ยืนหยัดเป็นหลักของบ้านเมือง ต้านทานอำนาจชั่วร้าย อย่างไม่หวั่นไหว

โธ่เอ๋ย ทักษิณ แม้กระทั่งจะเล่นของ ทำคุณไสย ก็ยังไม่ทิ้งสันดานเดิม กระทั่งผีห่าซาตาน ก็ยังถูกหลอกใช้ ให้พราหมณ์เถื่อนมาทำพิธี เอาเลือดควายจากโรงเชือดของชาวมุสลิม ย่านท่าอิฐ เมืองนนท์ มาปลอมเป็นเลือดคน

พิธีตัดกรรม ต่ออายุ สืบชะตา ที่ลิ่วล้ออาสาทำให้มาโดยตลอดในช่วงสองสามขวบปีที่ผ่านมา ก็คงจะเป็นของปลอมๆ พระเก๊ๆ เหมือนพิธีเทเลือดชั่ว ล้างแผ่นดินในวันสองวันนี้

มิน่าเล่า ชีวิตจึงมีแต่ความถดถอย จากสูงสุด อำนาจล้นแผ่นดิน วันนี้ ต้องหนีหัวซุก หัวซุน ไปสุดขอบฟ้า กระทั่งที่อยู่ อยู่ตรงไหนบนโลกใบนี้ ก็ยังต้องบิดบังซ่อนเร้น กลัวกรรมจะตามไปเจอ

พวกคนเสื้อแดงที่มาชุมนุม ซึ่งมีบรรดานักวิชาการยกย่องให้เกียรติว่า ไม่ได้ถูกหลอกมา เพราะเดี๋ยวนี้ ชนบทไทยพัฒนาแล้ว ถนนหนทาง ไฟฟ้า น้ำประปา ทีวีดาวเทียม วิทยุชุมชขน และอินเตอร์เน็ตเข้าถึง จึงมาชุมนุมเพราะมีความคิด มีอุดมการณ์ และรักทักษิณ ฟังดีๆ

การทำคุณไสย เล่นของ เที่ยวนี้ ของ นช. ทักษิณ ที่ไปเอาพราหมณ์เถื่อน เพราะไมได้ผ่านการบวชเป็นพราหมณ์อย่างถูกต้อง มาทำพิธี กระทั่งตัวพราหมณ์เถื่อนเอง นายศักดิ์ระพี พรหมแจ้ง ลูกพราหมณ์แจ้ง ที่ถูกไล่ออกไปจากโบสถ์พราหมณ์ เสาชิงช้า เมื่อยี่สิบปีก่อน ยังบอกว่า เป็นเรื่องอัปมงคล ไม่เป็นผลดีกับบ้านเมือง เพราะบ้านเมือง จะเจอกับความหายนะ และฉิบหายไม่เว้นกระทั่งผู้กระทำและผู้ถูกกระทำ

อีกคนหนึ่ง หัวหน้า พราหมณ์ แห่งประเทศไทย พระราชครูวามเทพมุนี พราหมณ์จริง ที่เดือดร้อนจากการที่พราหมณ์เถื่อน ทำให้เสียชื่อสถาบันพราหมณ์ บอกว่า

การที่นำเลือดมาเทลงพื้นและเดินเหยียบไปมา ไม่ได้เป็นมงคลกับชีวิต และตนเอง ซึ่งเป็นผู้กระทำก็จะต้องเดือดร้อน เพราะความรู้สึกอาฆาตมาดร้ายที่ได้ทำแล้วเกิดความเสียหาย ในส่วนนี้เป็นเรื่องที่น่าสงสารที่ผู้คิดและทำไม่ได้ให้เกียรติตนเอง และไม่ได้ให้เกียรติกับผู้ที่ให้เลือด

ผู้กระทำที่ทั้งพราหมณ์เถื่อนและพราหมณ์จริงบอกว่า ความฉิบหายจะมาเข้าตัวนั้น คงจะหมายถึง ทั้งตัว นช. ทักษิณ ลงมาจนถึงบรรดาพวกลิ่วล้อแกนนำ และพวกคนเสื้อแดงที่ถูกหลอกไปสูบเลือด

เกิดมาชาตินี้ก็ลำบากเต็มทนแล้ว เป็นพลเมืองไทยเต็มขั้นอยู่ดีๆ ก็ถูกยัดเยียดให้เป็นไพร่ นี่ยังต้องมาพบกับความฉิบหาย หายนะ เพราะหลงเชื่อพวกแกนนำ ยอมให้สูบเลือดเอาไปทำพิธีอัปมงคล

พวกคนเสื้อแดงจากต่างจังหวัด ที่เดี๋ยวนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว เพราะรู้จักกลไก ตลาด รู้ว่า จะคิดต้นทุนของการมาชุมนุมอย่างไร ราคาตลาด ณ สถานการณ์หนึ่งๆ ควรจะอยู่ในระดับใด ถึงจะเป็นการใช้ทรัพยากร และเวลาอย่างคุ้มค่า ฟังให้ดีๆอีกเรื่องหนึ่ง

ที่ตั้งเวทีการชุมนุม บนสะพานผ่านฟ้า แถวนั้น เขาเรียกกันว่า ประตูผี ตรงนั้น เป็นแนวกำแพงเมือง และคลองคูเมืองเก่ารัตนโกสินทร์ ถัดออกไปจากป้อมมหากาฬและคลองโอ่งอ่าง คือ วัดสระเกศ หรือ วัดสะแก ในสมัยก่อน

คนไทยสมัยโบราณ ถ้าเป็นคนธรรมดา หรือ ไพร่ตัวจริง ไม่ใช่ไพร่ปลอมที่ถูกยัดเยียดให้เป็น เวลาตาย ต้องหามศพไปเผานอกกำแพงเมือง โดยหามศพห่อผ้าขาวออกไปตรงช่องกำแพง ซึ่งปัจจุบันยังมีอยู่ ข้ามคลองโอ่งอ่าง ไปเผาที่วัดสะแก ที่ตรงนั้น จึงเรียว่า ประตูผี เพราะเป็นที่ผีผ่าน สมัยรัชกาลที่ 4 เกิดโรคห่าลง มีคนตายนับหมื่นคน ขนศพผ่านที่ตั้งเวทีการชุมนุมคนเสื้อแดง กันทั้งวันทั้งคืน เผากันไม่ทัน ต้องทิ้งกองๆกันไว้ ปล่อยให้แร้งลงมากิน เป็นที่มาของ “ แร้งวัดสระเกศ”

ที่พวกไพร่แดง นั่งๆนอนๆ อยู่ในตอนนี้ จึงไปขวางทางเดินของผีไพร่กรุงรัตนโกสินทร์ ผีออกไปไม่ได้ ก็ต้องวนเวียนอยู่แถวนั้นแหละ ระวังจะโดนดีเข้า ไม่เอะใจหรือว่า ทำไมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จึงไม่ตั้งเวทีตรงนั้น และชนวนนองเลือด เหตุการณ์พฤษภาทมิฬก็เริ่มจากตรงนั้น

แต่ฟ้ายังมีเมตตา แก่ผู้บริสุทธิ์ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ เทน้ำศักดิ์สิทธิ์ลงมาชะล้างความสกปรก โสมม ขับไล่ เสนียดจัญไร โดยไม่เลือกที่รัก มักที่ชัง กลับบ้านเสียเถิด อย่ามาตายฟรี เพื่อทักษิณเลย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ค้นหา