วันอังคารที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2553

มาฝากอีกแล้ว..วิปัสสนา‏

Subject: มาฝากอีกแล้ว..วิปัสสนา


คำถาม: ทำไมวิปัสสนาจึงเป็นกุศลอันยิ่งใหญ่



มีคำถามจากคุณ chaamaa ที่ผมเห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับหลายท่าน ถามว่า

มีน้องที่ทำงานมาถามว่า ทำไมการนั่งวิปัสสนากรรมฐาน จึงถือเป็นกุศลอันยิ่งใหญ่ ก่อนหน้านี้ก็เคยถูกลูกสาวถามว่า ทำไมต้องคอยบอกให้เค้าสวดมนต์ เพราะเค้าเชื่อว่าการคิดดี ทำดี ช่วยเหลือผู้อื่น ก็เป็นการทำบุญที่มากพอแล้ว เหมือนเป็นการทำบุญที่เป็นรูปธรรม จับต้องได้ เข้าใจได้น่ะค่ะ แต่เค้าไม่เข้าใจว่า การนั่งสวดมนต์ หรือปฏิบัติธรรม จะเป็นกุศลต่อตัวเองและคนอื่นได้ยังไง
คุณแม่ก็รู้แค่ว่า ทำให้จิตใจเราสงบ มีสมาธิ แต่ก็ยังไม่ทราบจริงๆว่า เมื่อเรานั่งสมาธิแล้ว ได้ผลบุญอะไรที่ทำให้เราสามารถแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ทั้งหลายได้น่ะค่ะ

ก่อนอื่นขออธิบายก่อนว่า
คนส่วนมากมักเข้าใจว่า วิปัสสนา คือการนั่งสมาธิ ซึ่งผิดนะครับ
กรรมฐานเพื่อการวิปัสสนา ไม่ได้มาพร้อมกิริยา "นั่ง" อย่างเดียว

ที่จริง อิริยาบถ ของการวิปัสสนา คือทุกอิริยาบถที่กาย หรือใจเราเคลื่อนไหว
จะยืน เดิน นั่ง นอน หายใจเข้าหรือออก ก็ได้

นั่งสมาธิ ไม่ได้แปลว่าจะเป็นวิปัสสนาเสมอไป
และตรงกันข้าม คนส่วนมากนั่งสมาธิแล้วได้ผลเป็นสมถะอย่างเดียว

เพราะคนส่วนมากนั่งสมาธิเพื่อความสงบของจิตใจ ด้วยการเพ่งลม เพ่งท้อง เพ่งกาย
หรือจดจ่อกับการบริกรรมพุทโธ สัมมาอรหัง หรือนับเลข หรืออะไรบางอย่าง

แต่ก็ไม่ได้บอกว่า นั่งสมาธิจะเจริญวิปัสสนาไม่ได้นะครับ
เพราะวิปัสสนา คือการรู้ความจริงอันประเสริฐของกายใจของเราเอง

ถามว่า ..ความจริงอะไรที่ว่าประเสริฐ?
ตอบว่า.. ความจริงที่ว่า กายนี้ ใจนี้ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และไม่ใช่ตัวเรา บังคับไม่ได้
ศัพท์เทคนิคเขาเรียก อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ที่เวลาพระเทศน์ท่านเรียก "ไตรลักษณ์" นั่นแหละ

ถูกแล้วครับ ปลายทางของความสำเร็จของการวิปัสสนา
คือการบรรลุถึงความจริงที่ว่า ตัวเราไม่มี มีแต่ความเห็นผิด ว่ากายใจนี้คือเรา

ทีนี้ ถ้าถามว่าเจริญวิปัสสนา ทำไมถึงเป็นกุศลอันยิ่งใหญ่?

ก็เพราะวิปัสสนาเบื้องต้น ทำให้สติเราเจริญ
เมื่อสติเจริญ จิตก็ไม่ตกไปในที่ชั่ว ไม่ทำบาป มีความละอายต่อบาปกรรม จิตจึงเป็นกุศล

วิปัสสนา เบื้องปลาย ทำให้เราเห็นความจริงอันสำคัญหลายเรื่อง
อย่างเช่นเห็นว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้น สิ่งนั้นย่อมดับไปเป็นธรรมดา
เห็นว่า ทุกอย่างในชีวิต ในโลกนี้ เป็นของชั่วคราว สุขก็ชั่วคราว ทุกข์ก็ชั่วคราว

เห็นว่า ตัวเราไม่มี อย่างที่พูดถึงบ่อยๆ โดยเห็นว่าจิตนี่ ไม่ใช่ตัวเรานะ
ส่วนอันสุดท้ายนี้เด็ดมาก แต่ผมยังไม่เห็นนะ คือ..
เห็นว่า กายใจนี่แหละ คือตัวทุกข์โดยตัวของมันเอง

ไม่ใช่ทุกข์เพราะไม่สมหวัง เพราะความอยาก ความดิ้นรน หรือกิเลสอะไรหรอก
แต่ตัวกายใจมันเองนี่แหละ คือตัวทุกข์

ย้ำอีกทีว่า ผมยังไม่ได้เห็นแบบนั้นหรอกนะครับ
เพราะถ้าเห็นเมื่อไหร่ ผมก็เป็นพระอรหันต์แล้ว

ส่วนเรื่องทำบุญ ฟังธรรม ถือศีล นั่งสมาธิ ก็เป็นบุญ เป็นกุศลทั้งนั้นครับ
แต่ต้องเข้าใจว่า บุญมีหลายเกรด เหมือนแก้ว คริสตัล พลอย เพชร

บางอย่างบังคับกันไม่ได้ แต่ให้โอกาสเขาซึมซับได้

ค่อยๆบอกลูกไปนะครับ



มาจากblog

http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=aston27&month=30-01-2008&group=10&gblog=20

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ค้นหา