วันอังคารที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2553

เรื่องนี้ต้องส่งเพราะว่าอันตรายมาก

Subject: ส่งต่อ: เรื่องนี้ต้องส่งเพราะว่าอันตรายมาก

ก็ระวังเนื้อระวังตัวกันหน่อยก็แล้วกันนะ




เรื่องนี้ต้องส่งเพราะว่าอันตรายมาก

ดิฉันได้ไปเดินซื้อของที่บิ๊กซี สาขาแฟชั่นไอร์แลนด์ ซึ่งได้ไปถึงห้างเวลา ประมาณ 18.30 น. ก็ไปกับอีกครอบครัวหนึ่ง ดิฉันก็ไปกับแฟนและลูก
ซึ่งก็เป็นเวลาเย็นแล้ว ทานสุกี้เสร็จประมาณทุ่มกว่าๆ ดิฉันก็จะเข้าไปซื้อของที่บิ๊กซีตรงชั้น 1 กับพี่ข้างบ้านและเด็กอีก 3 คน ส่วนแฟนดิฉันและแฟนพี่ข้างบ้านไปห้องน้ำ
ดิฉันซื้อของเยอะเพราะ 1 เดือนจะซื้อของ 1 ครั้ง

พี่ข้างบ้านก็เลยบอกว่างั้นแยกกันเดินเพราะเค้าซื้อของนิดเดียว ก็แยกกันพี่ข้างบ้านก็ไปกับลูกเค้าและลูกดิฉัน ส่วนดิฉันได้เดินซื้อของคนเดียว

ก็ซื้อของเยอะมากทั้งนม น้ำปลา ฯลฯ คือเข้าล็อกนั้น ออกล็อกนี้ จนจะขึ้นไปชั้น 2 เห็นทางห้างวางไข่ไก่ ถาด 30 ฟองไว้ตร งทางขึ้นบันไดเลื่อน
ดิฉันก็เลยจอดรถเข็นตรงที่ขายไข่ไก่แล้วหันข้างให้รถเข็น และเลือกไข่ใช้เวลาประมาณ 2-3 นาที เมื่อหันมาจะนำไข่มาใส่รถเข็น ก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งแต่งตัวไม่สะอาด
ใส่เสื้อยืดสีน้ำเงิน ใส่กางเกงสี่ส่วนสีดำ อายุไม่เกิน 30 ปี ผิวดำแดง ผมหยักโศก มาจับตรงรถเข็นดิฉัน ( จับตรงราวจับรถเข็น) ซึ่งเมื่อเค้าเห็นดิฉันหันมามอง
ก็ปล่อยมือจากรถเข็นของดิฉัน เค้ามากัน 4 คน มีชาย 2 คน หญิง 1 คน และเด็กตัวเล็กๆ อายุประมาณ 1 ขวบกว่าๆ 1 คน แต่ยังอยู่ข้างๆ ดิฉัน ซึ่งดิฉันก็คิดในใจว่ามาจับรถเข็นของฉันทำไม
ซึ่งกว่าที่ดิฉันจะไปจับราวรถเข็นเพื่อเข็นรถเข็นอีก ก็ใช้เวลาประมาณ 1-2 นาที เพราะต้องจัดใหม่เพื่อเอาไข่วาง

เมื่อจัดรถเข็นเสร็จก็เข็นรถเข็นขึ้นบันไดเลื่อนไปที่ชั้น 2 ดิฉันก็เหลือบมองด้านหลังว่ามีใครตามมาหรือเปล่า เพราะเริ่มรู้สึกผิดปกติแล้ว ก็เห็นผู้หญิงคนนี้เดินตามดิฉันขึ้นมาคนเดียว
ดิฉันก็เลยจะโทรหาแฟนเพราะเริ่มรู้สึกไม่ดี ก็เปิดกระเป๋าเพื่อจะหยิบโทรศัพท์ ก็เหลือบตามองข้างบน ปกติจะมีพนักงานของบิ๊กซีช่วยดึงรถเข็น
แต่เวลานั้นประมาณเกือบ 2 ทุ่มไม่มีคนช่วยดึงรถเข็น ก็เลยคิดว่าเก็บโทรศัพท์ เพราะรถเข็นเราหนักเดี๋ยวจะฉุกละหุก และคิดว่าเดี๋ยวขึ้นชั้น 2 แล้วค่อยโทรก็ได้
เมื่อขึ้นบันไดเลื่อนมาชั้น 2 ก็จอดรถเข็นตรงกะบะขายชุดชั้นใน ผู้หญิงคนนั้นก็เดินผ่านไปนิดนึง แต่ยังเดินป้วนเปี้ยนใกล้ๆ ดิฉัน ซึ่งดิฉันก็โทรศัพท์หาแฟนและพี่ข้างบ้าน
ซึ่งโทรเท่าไหร่ก็ไม่ติดซักที ผ่านไปประมาณ 5 นาที ผู้ชายอีกคนกับเด็กก็เข็นรถเข็นขึ้นมาชั้น 2 ผู้ชายคนนี้มีผมสีดอกเลา ไว้หนวด ผอม ใส่เสื้อกีฬาคอปกสีเหลือง
ใส่กางเกงขาสั้นสีน้ำตาลอ่อน ก็เข็นผ่านมาและผู้หญิงคนนี้ก็ เดินไปเรื่อยๆ ไม่ได้เดินดูของ จนไปสุดทางเดินและเลี ้ยวไป ซึ่งขณะนั้นดิฉันก็ยังโทรหาแฟนและพีข้างบ้านอยู่
ตาก็เหลือบมองพวกเค้าไปเรื่อยๆ เมื่อพวกเค้าเลี้ยวไป ดิฉันเริ่มรู้สึกว่า ร่างกายเราผิดปกติจะอาเจียนเป็นลม หน้ามืด ดิฉันจึงเทสต์ตัวเองด้วยการหยิกที่แขนทั้งสองข้าง ซึ่งไม่รู้สึกว่าเจ็บเลย
ดิฉันจึงคิดว่าถ้าโทรหาแฟน กว่าจะมาดิฉันคงแย่แน่ จึงวิ่งไปคว้าแขนของพนักงานของบิ๊กซี แล้วบอกว่าพี่ช่วยหนูด้วย หนูไม่ไหวแล้ว จะเป็นลมจะอาเจียน

พนักงานก็พาดิฉันไปทานน้ำดื่ม แล้วดิฉันก็เล่าเหตุการณ์ให้พนักงานท่านนี้ฟัง พนักงานก็บอกดิฉันว่า สงสัยดิฉันคงไปโดนยาที่ผู้หญิงคนนั้นมาป้ายตรงราวจับรถเข็นให้แล้ว
จึงให้ดิฉันทานน้ำเยอะๆ แล้วนั่งพัก พนักงานท่านนั้นยังยืนอยู่ ดิฉันก็บอกรูปพรรณของผู้หญิงคนนั้น พนักงานก็ถามดิฉันว่าใช่ ใส่รองเท้าฟองน้ำสีเขียวหรือเปล่า
ดิฉันก็เลยเอียงคอมองแล้วตอบว่าใช่ ผู้หญิงคนนี้เดินไปอ้อมที่ขายเสื้อผ้าผู้หญิง และอ้อมมามาเดือนป้วนเปี้ยนแถวๆ รถเข็นที่ฉันจอดทิ้งไว้อยู่ ดิฉันก็บอกพนักงานว่าอย่าพึ่ง
ไปไหนนะให้อยู่เป็นเพื่อนก่อน ระหว่างนั้นฉันก็โทรหาแฟนจนติด และบอกแฟนว่าให้รีบมาไม่ไหวแล้วจะเป็นลม แฟนก็รีบมา ผู้หญิงคนนั้นยังเดินวนหาดิฉันอยู่ เมื่อแฟนมาดิฉันก็เล่าให้ฟังแล้ว
แฟนก็เลยเดินไปหาผู้หญิงคนนั้นกะจะเข้าไปถามว่า ตามมาทำไม ต้องการอะไร แต่เดินไปนิดนึง เหลือบตามองเห็นมีผู้ชายมองอยู่ 2 คน จึงเดินกลับและบอกว่าไปจ่ายตังและกลับกันเถอะ
ก็ไปบอกพนักงานฝากดูต่อด้วย เมื่อจ่ายเงินเสร็จก็บอกพี่ข้างบ้าน เล่าให้ฟังพี่ข้างบ้านจึงชวนกลับ
เมือนั่งมาในรถยังรู้สึกอยากอาเจียนอยู่ อยากฝากไว้เป็นอุทธาหรณ์ให้คนอื่นได้ทราบว่า เดี๋ยวนี้ต้องระวังไปไหนมาไหน และได้ถามหมอว่ายาที่โดนเป็นยาอะไร
หมอบอกว่า เป็นสารระเหยชนิดหนึ่ง ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย แต่จะทำให้เรารู้สึกชา มึนงง จะเป็นลม

ช่วยส่งต่อให้คนที่คุณรัก เค้าจะได้ระวังตัว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ค้นหา