วันเสาร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ผู้หญิงสู้คน

From: Subject: FW: ผู้หญิงสู้คน



ผู้หญิงสู้คน คู่มือสําหรับผู้หญิงยุคใหม่ ในการปกป้องตัวเองจากภัยอาชญากรรม เครดิตจาก
http://womansafety.blogspot.com/


กระเป๋าของฉัน ชีวิตของฉัน
นัก ธุรกิจสาวรายหนึ่งเล่าเรื่องที่เกิดกับเธอไว้เป็นอุทาหรณ์

เรื่องร้ายเกิดขึ้นเมื่อ...
เธอกับลูกสาวมาร่วมงานแต่งงานของผู้ใหญ่ท่าน หนึ่ง
งานเลิกราวสามทุ่มเศษ
เธอพาลูก สาวกลับมายังรถที่จอดไว้ข้างถนนใกล้โรงแรม

ขณะที่เดินอยู่
เธอก็ถูกวัยรุ่นชายสองคน สวมหมวกบังหน้า ไม่สวมหมวกกันน็อค
ขี่รถจักรยานยนต์ปรี่เข้ามา แล้วกระชากกระเป๋ากุชชี่ที่เธอถืออยู่

ด้วยความเสียดายกระเป๋าแบรนด์เนม
เธอลงทุนยื้อยึดกับคนร้ายเพื่อปกป้องกระเป๋า สุดหวง
แรงกระชากทำให้นัก ธุรกิจสาวถึงกับเสียหลักล้มลง
ร่างกายครูดไปตามพื้นถนนจนถลอกปอกเปิก
แต่เธอก็ยังไม่ยอมปล่อยกระเป๋า
จนเมื่อลูก สาวร้องไห้จ้าด้วยความตกใจ เธอจึงได้สติ

เธอตัดสินใจปล่อยมือ ปล่อยคนร้ายให้ได้กระเป๋าไปอย่างลอยนวล
เพราะนึกถึงความปลอดภัยของสิ่งที่เธอรัก มากกว่า นั่นคือลูกสาว
แม้ว่า จะเสียดายทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไป แต่เงินสด โทรศัพท์มือถือ
แว่นตาแบรนด์เนม และกระเป๋าใบนั้น คงไม่มีความหมาย
ถ้าคนร้าย โมโหและใช้มีดหรือปืนทำร้ายเธอและลูกสาวสุดที่รัก

อย่า พกอะไรที่ต้องเสียใจเมื่อมันถูกฉก
เทกระเป๋าของคุณออกมา
ตรวจสอบว่ามีอะไรที่คุณจะต้องเสียใจไปอีกนาน
ถ้ามันหายไปพร้อมกระเป๋า หยิบมันออกมา
แล้วเก็บไว้ใน ที่ปลอดภัยเสียเดี๋ยวนี้

กระเป๋า ไม่ใช่ตู้นิรภัย
สิ่งที่ควรมีคือ “ของไม่มีค่า” แต่ “จำเป็น” ต่อชีวิตประจำวันของคุณ
อย่าใส่ของมีค่า ที่คุณต้องร้องไห้ด้วยความเสียดายไว้ในกระเป๋าเป็นอันขาด

วิธี ดีที่สุดที่จะทำให้คุณร้องไห้น้อยที่สุดเมื่อเสียมันไป
คือการทำให้มัน “น่าเสียดาย” น้อยที่สุด

1) อย่าเลือกใช้กระเป๋าที่มีราคาแพงมากๆ
กระเป๋าแบรนด์เนมที่ถูกกรีด หรือกระชาก จะสร้างความเจ็บใจ
ให้คุณมากขึ้นและยอมสู้จนได้รับบาดเจ็บเพื่อ มัน
เลือกใช้กระเป๋าที่ถ้าจำ เป็นจริงๆ
คุณจะสามารถตัดใจทิ้งมันได้เพื่อรักษาชีวิต

2) ฝึกนิสัยพกเงินสดแค่จำนวนที่จะใช้ในแต่ละวันเท่านั้น
พกบัตรเงินสดหรือบัตรเครดิตให้น้อยใบที่สุด

3) ถ้ามีบัตรเอทีเอ็มมากกว่าหนึ่งใบ ควรพกไว้แค่ใบเดียว
เป็นใบที่มีเงินในบัญชีเล็กน้อย ส่วนใบอื่นที่มีเงินในบัญชีมากกว่า
ควรเก็บไว้ที่อื่นที่ปลอดภัย เช่น ในบ้าน ในกรณีที่บัตรใบแรกหาย
บัตรสำรองจะ ลดความกังวลไปได้มาก

4) บัตรสำคัญต่างๆ ในกระเป๋าให้นำมาเรียงกันบนกระดาษ A4
แล้วถ่ายเอกสารเก็บไว้รวมกัน เมื่อกระเป๋าสตางค์หาย
คุณจะรู้ว่า มีเอกสารสำคัญหายไปบ้าง

5) จดเบอร์สำหรับอายัดบัตรสำคัญต่างๆ
เก็บไว้ที่ที่ทำงาน ที่บ้าน หรือในรถ
หรือเมมโมรี่ ไว้ในโทรศัพท์มือถือ พร้อมอายัดได้เสมอ

6) ถ้าคุณขับรถ ควรติดกระเป๋าช้อปปิ้งไว้ในรถหนึ่งใบ
เมื่อจะลงไปซื้อของ หยิบเฉพาะเงินสดที่จะใช้
บัตรเครดิต หนึ่งใบใส่กระเป๋าช้อปปิ้ง แค่นั้นพอ

7) อย่าใส่กุญแจบ้านหรือรถไว้ในกระเป๋าสะพาย
คล้องกุญแจไว้ที่กระเป๋ากางเกงหรือเข็มขัดเสมอ

เทคนิคเดินถนนอย่างคนฉลาด
วันไหนที่รู้ ตัวว่าต้องสัญจรด้วยการเดิน

วางแผนเส้นทางก่อน เสมอ
เลือกเส้นทางที่โล่ง มีคนเดินมากๆ ไม่มีพุ่มไม้หนาทึบ
ยอมเดินไกลในถนนใหญ่ ดีกว่าเข้าซอยทางลัดที่ย่นระยะทางแต่เปลี่ยวคน
หัดเปลี่ยนเส้นทาง อย่าใช้เส้นทางเดิมทุกวัน

อย่าถือข้าวของพะรุงพะรัง
ถ้าทำได้ให้รวบของถือด้วย หนึ่งมือ ให้มีอีกมือว่างไว้เสมอ
สามอวัยวะในตัวของคุณที่ต้องทำให้ว่างไว้ รับสถานการณ์
คือ หู ตา และมือ
ถ้าอวัยวะใดไม่ว่าง ทำมันให้ว่างในบัดดล

อย่ายืนรอรถเมล์หรือรถไฟฟ้าแบบตามสบาย
ผู้หญิง ที่ยืนพิงเสา เม้าท์มือถือ เพลินเสียงเพลง คิดถึงแฟน
ท้าวแขน ล้วงกระเป๋า เอาแต่เหม่อ คนร้ายจะชอบมาก
ให้ยืนตัวตรงทิ้งน้ำหนักลงทั้งสองขา สังเกตเหตุการณ์รอบตัวเป็นระยะๆ
มั่นใจว่ากระเป๋าปิดเรียบร้อย รูดซิปปิดทุกช่อง
ความหละหลวมไม่ใส่ใจของ ผู้หญิงมัก สะดุดตาโจร
ฝึก นิสัยจับกระเป๋าสะพายให้กระชับตัวเสมอ
หันด้านปากกระเป๋าเข้าตัว อย่าเดินแกว่งกระเป๋าตาม สบาย

ถ้ามีรถยนต์แล่น ปราดเข้ามาจอดตรงหน้า
ถอยออกมาให้ห่างทันที ถ้าเขาจอดเพื่อถามทาง
อย่าเข้าไปบอกจนชิดประตูรถ จนเขาดึงขึ้นรถไปง่ายๆ
ทิ้งระยะให้ไกล แต่บอกด้วยเสียงดังขึ้นจะดีกว่า

สอดส่ายสายตาหา “เซฟเฮ้าส์” ระหว่างทางไว้เสมอ
ที่ซึ่งคุณจะสามารถผลุบเข้า ไปซ่อนได้ถ้าเกิดเหตุร้าย
เช่น ร้านค้า ร้านกาแฟ ร้านสะดวกซื้อ ร้านปากซอย
เซฟเฮ้าส์เหล่านี้มีประโยชน์ มากในหลายสถานการณ์
เช่น ถ้าคุณสงสัยว่าถูกสะกดรอย แทนที่จะเดินไปเรื่อยๆ
ด้วยความหวาดกลัว คุณสามารถเลี้ยวผลุบเข้าไป ยังเซฟเฮ้าส์เหล่านี้
แล้วแอบสังเกตการณ์ว่า คนที่เดินตามคุณผ่านหน้าร้านไปหรือเปล่า
คุณอาจรีบออกมาแล้ววิ่งสวนกลับไปยังทิศตรงกัน ข้าม

หมั่นฝึกซ้อมความ คิดไว้ตลอดเวลา
สมมุติว่าถ้าเหตุการณ์เกิดขึ้น คุณจะแก้ไขอย่างไร
การฝึกซ้อมความคิดจะทำให้ คุณรู้ว่า คุณ ต้องการอะไร
ใน ยามคับขัน และ สามารถตระเตรียมรับมือมันได้อย่างรอบคอบ

อย่าให้มันเลือกคุณเป็นเหยื่อ
การวาง ตัวสร้าง “ระยะห่าง” อาจช่วยผลักคนร้ายออกไปจากชีวิตคุณได้
“อวัจนภาษา” คือการใช้ภาษาร่างกายสื่อสาร

จงใช้มัน “ขู่” คนร้ายไว้เสมอ
เริ่มตั้งแต่มันยังไม่ประชิดตัว คุณ

เทคนิคการ “ขู่” คนร้ายไม่ให้เลือกคุณเป็นเหยื่อ

1) คุณรู้สึกว่าผู้ชายคนหนึ่งมองคุณอยู่
แทนที่จะบอกมันว่าคุณเป็นเหยื่อด้วยการหลบตาเมินไปทางอื่น
อย่าทำอย่างนั้น มองตรงไปที่มัน ไม่ต้องถึงกับจ้องเขม็งอย่างประสงค์ร้าย
แต่อย่าหลบตา อย่าทำเป็นไม่เห็น มองหน้ามันไว้
จง “ขู่” มันด้วยสายตาว่า
“ฉันรู้นะว่าแกคิดอะไร อย่าเข้ามาเชียว”

2) ถ้ามันเดินเข้ามาใกล้ตัวคุณ
อย่ารอให้มัน ถึงตัว ถอยหลังทันทีแล้วปรามมันด้วยคำพูดว่า “ขอโทษค่ะ”
ผู้ชายที่ดี จะถอยหลังจากคุณและขอโทษ
แต่ผู้ชายสวะอาจยังหน้าด้าน ถ้ามันยังล่วงล้ำเข้ามาถึงตัว
เช่น ทำท่าจะฉวยมือคุณ จง “เข้ม” ใส่มันด้วยการพูดออกมาดังๆ ว่า
“ขอโทษค่ะ คุณจะทำอะไรคะ”

3) ถ้าเจ้าสวะ “แบล็คเมล์” คุณกลางสาธารณชน
ด้วยการโพล่งว่า “ยายนี่ประสาทหรือเปล่า”
หรือ “อะไรกันวะ ยังไม่ได้ทำอะไรเลย โวยวายไปได้”
จงอย่าตกหลุม พรางของความอายที่มันขุดล่อ
จง “เตือน” มันด้วยการถอยหลัง ยกมือขึ้นกั้นไว้ แล้วสั่งว่า

“หยุด! อย่ามาใกล้ฉัน” หรือ “ไป ให้พ้น”

ประเด็นสำคัญ!

อย่ากลัวที่จะดูเป็น “ยายประสาท”
ในสายตาของคนเดินถนนที่ผ่านมา
เชื่อเถอะว่า เจ้าสวะจำนวนมาก อาจถึงครึ่งต่อครึ่ง
จะเลือกเลิกล้มแผนชั่วเมื่อ เจอยายประสาทที่ฉลาดกว่ามัน

ร้องบอกโลกด้วยนกหวีด

ผู้ชายที่ ประทุษร้ายผู้หญิงจนต้องรับกรรมในห้องขังคนหนึ่ง
สารภาพว่า เขาจะไม่ยุ่งกับผู้หญิงที่ถือร่ม นกหวีด
หรืออะไรก็ตามที่สามารถใช้ เป็นอาวุธในการต่อสู้ได้

ดังนั้น ถ้าคุณต้องเดินคนเดียวในที่เปลี่ยว อย่าเดินมือเปล่า
ถืออะไรบางอย่างติดมือไว้ ถ้ามีร่ม จับไว้ให้มั่น
มีนกหวีด ห้อยคอไว้พร้อมเป่าเสมอ

นกหวีดช่วยชีวิตคนมามากแล้วในหลาย สถานการณ์
เช่น เมื่อหลงทางหรือติดอยู่ในสถานที่ที่ต้องการความช่วยเหลือ
แม้แต่โรสยังรอดตายจากเรือ ไตตานิคล่ม
เพราะนกหวีดบอกให้คนอื่นรู้ ว่าเธอยังมีชีวิต

ดังนั้น หยิบสร้อยนกหวีดขึ้นมาคล้องคอไว้แทนทุกครั้ง
เมื่อคุณออกจากที่ทำงาน ลงจากรถเมล์ ไปช้อปปิ้ง เดินทาง
หรือโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไปออกกำลังกายในสวนสาธารณะ
เมื่อเกิดเหตุไม่น่าไว้ใจ เป่านกหวีดไว้ก่อน

เสียง นกหวีดจะทำให้ผู้ที่ได้ยินรู้ว่าคุณกำลังตกอยู่อันตราย
เสียงนกหวีดจะทำให้ยามหรือ เจ้าหน้าที่ตำรวจสนใจ

ถ้าต้องวิ่งหนี วิ่งไปพร้อมกับเป่านกหวีดไปด้วย
เพื่อเรียกร้องความ สนใจให้มากที่สุด

คงไม่มีคนร้ายหน้าไหนที่เสียสติถึงกับวิ่งตามผู้หญิงใจ กล้า
ที่วิ่งหนีแล้วเป่านกหวีด เหมือนคนบ้าอย่างแน่นอน

เกี่ยวกับผู้เขียน

คุณ amita
ข้อความทั้งหมดในบล็อคนี้มาจาก หนังสือของผู้เขียนที่จัดพิมพ์กับสำนักพิมพ์ Blissiness และ
PaperMint หวังว่า ข้อเขียนทั้งหมดในบล็อคและในหนังสือจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านทุกท่าน ไม่มากก็
น้อย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ค้นหา