วันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

รถเสียช่วยฟรีกด 1137‏

Call 1137: ช่วย กันบอกต่อๆไป รถเสียช่วย ฟรี

ผู้ใช้รถ หรือผู้ที่ไม่ได้ใช้รถส่วนตัว จะไปบอกต่อกันก็ ได้ ช่วยกันบอกต่อๆ ไป รถเสียช่วยฟรี กด 1137 ชาวกรุงซึ้งน้ำใจรถเสียช่วยฟรี 24 ชม . รถ เสียกลางกรุงไม่ต้องตกใจ กด 1137 เรียกใช้บริการช่างซ่อมอาสาได้ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง ตามโครงการ ' ปันน้ำใจช่วยเหลือ สังคม ' ช่วยป้องกันทั้งโจรในคราบพลเมืองดีและภัยสุภาพ สตรีที่รถเกิดเสียกลางทาง เผยคนยังเรียกใช้น้อย เพราะส่วนใหญ่ยังไม่ รู้จัก วอนรัฐช่วยส่งเสริมสนับสนุน ขณะที่ ผู้คนในสังคมต่างดิ้นรนเอาตัวรอด ส่งผลให้ผู้คนเห็นแก่ตัวมากขึ้นเสีย สละต่อผู้อื่นน้อยลง และ ม่อยากไปยุ่งเกี่ยวเรื่องของคน อื่น แต่ก็ยังมีผู้คนจำนวนหนึ่งแม้จะไม่มากนัก แต่ก็พร้อมจะทำงานที่เสียสละช่วยเหลือคนอื่น โดยไม่มุ่งหวังสิ่งตอบแทน อย่างกลุ่มคนในโครงการ ' ปันน้ำใจช่วยเหลือรถจอดเสียกลางทาง '

นายกฤตวิทย์ ศรีพสุธา เจ้าของโครงการ ' ปันน้ำใจช่วยเหลือรถจอดเสียกลางทาง ' กล่าว ถึงที่มาโครงการนี้ ว่า

เห็นข่าวผู้หญิงรถเสียในเวลากลางคืนและเกิด ปัญหาอาชญากรรมตามมา โดยพวกมิจฉาชีพคอยทำร้ายชิง ทรัพย์

รวมไปถึงทำตัวเป็นพลเมืองดีในคราบโจรแล้วน่า เป็นห่วง นอกจากนี้จากการสำรวจดู ยังพบว่า มีรถเก่าจอดเสียอยู่ข้างทางไกลบ้านและไม่มีใคร ดูแลจึงได้หารือกับ พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล ผบก.จร . เพื่อหาทางแก้ไขให้ประชาชนมีที่พึ่ง เพราะเชื่อว่าในสังคมไทยยังมีคน ดีอยู่อีก จำนวนมาก

บทสรุปที่ได้ คือ ให้ตำรวจแต่ละท้องที่จัดหาอู่ซ่อมรถ จัดซื้อรถลากรถยกไว้ให้ บริการ โดยมีตำรวจโครงการพระราชดำริมาร่วมด้วยช่วย กัน ปรากฏว่าเจ้าของอู่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยไม่คิดค่าแรง และบอกว่า ยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็ม ที่ เพราะต้องการช่วยประชาชนอยู่แล้วแต่ ไม่มีโอกาส

นายกฤตวิทย์ กล่าวว่า เพื่อสร้างความ เชื่อถือในการปฏิบัติหน้าที่ จึง กำหนดให้เจ้าหน้าที่ที่ออกให้บริการต้องติดบัตรใส่ชุดฟอร์ม และไม่รับค่าตอบ แทน เพราะทุกคนทำด้วยใจรัก ' บริษัทได้ทำประกันอุบัติเหตุให้ เป็นค่า ตอบแทน 1 ปี ถึงขณะนี้การช่วยเหลือยังน้อยอยู่เดือนหนึ่ง ประมาณ 50-60 ราย เฉลี่ยวันละ 4-5 ราย แต่ในช่วงกลางคืน ฝนตกจะมีคนเรียกใช้มากถึงวันละ 10 ราย '

ผู้ริเริ่มโครงการนี้กล่าวและยอมรับ ว่า โครงการ ' ปันน้ำใจช่วย เหลือรถจอดเ สียกลางทาง ' ยังไม่เป็นที่แพร่หลาย เนื่องจากประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนยังไม่ทราบว่ามีโครงการนี้ หากมีการประชาสัมพันธ์มากกว่าที่เป็นอยู่เชื่อ ว่าจะมีคนที่เดือดร้อนขอใช้ บริการมากกว่านี้ และน่าจะมีอู่ซ่อมรถยนต์มาร่วมช่วยเหลือมาก ขึ้น ' ถ้าผู้ใช้รถไม่ได้ฟัง จส. 100 จะ ไม่รู้ว่ามีโครงการนี้ อย่างไรก็ดียังมีประชาชนส่วนหนึ่งยังไม่เชื่อ ใจว่าจะช่ ฟำ วยเหลือจริงหรือเปล่า จะหวังอะไรหรือไม่ ถ้าทำอย่างโปร่งใส คนจะเชื่อใจและใช้บริการมากขึ้นเราก็พร้อมจะ ขยายขอบข่ายการช่วยเหลือออก ไป เพราะโครงการนี้ตั้งเป้าใช้งบไว้ 4 . 4 ล้าน บาท แต่ทำจริงๆใช้เงินเพียง 1.69 ล้านบาทเท่านั้น '

นายกฤตวิทย์กล่าวและย้ำว่า คนที่ต้อง การความช่วยเหลือจากรถเสีย กดโทรศัพท์แจ้งเรื่องได้ที่ 1137

**********************************************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ค้นหา