วันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ข้อได้เปรียบของ "พอร์ตโบรกเกอร์" ที่เอาเปรียบนักค้าหุ้นเป็นจำนวนมหาศาล‏



ข้อได้เปรียบของ "พอร์ตโบรกเกอร์" ที่เอาเปรียบนักค้าหุ้นเป็นจำนวนมหาศาล
Posted: 25 May 2009 06:44 PM PDT

ข้อได้เปรียบของพอร์ตโบรกเกอร์ (ขอขอบคุณที่มา : ของคุณ "มันน่าจะ")

ข้อได้เปรียบที่ 1 เห็นกันชัดๆ คือ ไม่มีต้นทุน ค่านายหน้าซื้อขาย (คอมมิชชัน) 0.25% ไปถึงกลับ 0.5% “ทุกๆ วัน พอร์ตโบรกเกอร์จะดูอารมณ์ตลาดก่อน ถ้าดีก็ซัดหุ้นนำก่อนทุกตัว ดูแล้วมีคนตามก็ไล่ต่อ ถ้าไม่มีคนถามก็โยนทิ้ง เพราะไม่มีต้นทุน ไม่เสียค่าคอมมิชชัน” ข้อได้เปรียบนี้ทำให้โบรกเกอร์มีวอลุมซื้อขายพองขึ้น หรือมีส่วนแบ่งตลาดสูงกว่าเพื่อน

ข้อได้เปรียบที่ 2 การส่งคำสั่งถึงขาย ทำได้เหมือนลูกค้าทั่วไป คือ เคาะซื้อขายได้เลย หรือไล่ 1 ช่อง โยนได้ 2 ช่อง ทำกำไรได้ทันที ไม่ต้องตั้งเสนอถึงซื้อเข้าคิวรอ

ข้อได้เปรียบที่ 3 มีข้อมูลการซื้อขายของลูกค้าอยู่ในมือ จึงซื้อหรือขายก่อนลูกค้า ทำให้ลูกค้ารายย่อยถึงรายใหญ่ไปจนถึงบลจ.สถาบันอื่นๆ ต้องซื้อหุ้นแพงขึ้น หรือถูกกดขายไม่ได้ราคา แหล่งข่าวนักลงทุนสถาบัน เปิดเผยว่า พอร์ตลงทุนโบรกเกอร์มีอิทธิพลสูงต่อตลาด หุ้นไทย เป็นพอร์ตไดนามิกที่หมุนตามอารมณ์ตลาด วันไหนที่อารมณ์ตลาดเสียพอร์ตไดนามิกจะหยุดทำหน้าที่ซื้อขายทันที หรือวันที่อารมณ์ตลาดดีไดนามิกจะหมุนวันละหลายรอบ เพราะฉะนั้นตลาดหลักทรัพย์ไม่ควรจะดีใจกับยอดซื้อขายสูงถึงวันละ 3 หมื่นล้านบาท

“พอร์ตของบางโบรกเกอร์มีขนาดใหญ่ ใช้ทีมงาน 4-5 ทีม ไล่หุ้นได้ตามปกติเสมือนเป็นนักลงทุนรายใหญ่ มีวงเงินให้เล่น 40-50 ล้านบาท กำลังเงินเหนือรายใหญ่และเหนือบางกองทุน จึงได้เปรียบที่จะไล่ซื้อหุ้นในแต่ละวัน พฤติกรรมไล่หุ้นหรือทุบหุ้นเป็นการเอาเปรียบนักลงทุนปั่นหุ้นถูกกฎหมายไม่ถูกตรวจสอบ ที่สำคัญเป็นการสร้างความต้องการเทียม แล้วยังทำให้กองทุนต้องซื้อหุ้นแพงขึ้น

ผลเสียหายก็ตกไปอยู่กับผู้ออมเงินผ่านมืออาชีพ” แหล่งข่าวเปิดเผย แหล่งข่าวเปิดเผยอีกว่า การแก้ไขปัญหานี้ดีที่สุดตลาดหลักทรัพย์ ควรเริ่มต้นวางกฎเกณฑ์การตั้งคำสั่งซื้อขายที่ไม่เอาเปรียบนักลงทุน มีการบริหารจัดการโดยไม่ให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ (Chinese Wall) หรือเปิดเผยข้อมูลให้นักลงทุนรู้ว่า โบรกเกอร์ไหนที่มีพอร์ตเทรด เพื่อให้นักลงทุนระวังตัว “ถ้าตลาดไม่ปรามตอนนี้ แค่พอร์ตเทรดโบรกเกอร์ไม่ถึง 10 ราย ยังมีมูลค่าซื้อขายหนัก อนาคตโบรกเกอร์ทั้งหมดทำรายใหญ่ถึงรายย่อย และสถาบันจะลำบากต้องซื้อของแพงขึ้น และกองทุนรวมจะไม่ตกเป็นผู้ต้องหาทุบหุ้นอีกต่อไป”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ค้นหา